beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

มีภาพสุดยอดหญิงงามของจีนมาฝาก


ไซซี,หวังเจาจวิน,เตียวเสี้ยน และหยางกุ้ยเฟย

     ภาพสุดยอดหญิงงามของจีน ๔ คน ได้แก่ ไซซี,หวังเจาจวิน,เตียวเสี้ยน และหยางกุ้ยเฟย เชิญชมได้ครับ

 

ไซซี หวังเจาจวืน
ภาพที่ ๑ ไซซี  ภาพที่ ๒ หวังเจาจวิน
เตียวเสี้ยน หยางกุ้ยเฟย
ภาพที่ ๓ เตียวเสี้ยน ภาพที่ ๔ หยางกุ้ยเฟย

  

    ผมเคยบันทึกเรื่อง หวังเจาจวิน กับ เตียวเสี้ยน ไว้แล้ว คลิกลิงค์ได้ที่ใต้ภาพนะครับ

   ส่วนไซซีและหยางกุ้ยเฟยจะได้เขียนต่อไป

 

หมายเหตุ ภาพจาก http://www.xq28.net/s/viewtopic.php?t=12808&sid=a91d505ec5dc9268f87d45cc00c7612e

หมายเลขบันทึก: 49604เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2006 22:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 08:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
ภาพสวยมาคะ โดยเฉพาะภาพหวังเจาจวิน
  • ขอขอบคุณ คุณyai ที่เข้ามาเยี่ยมครับ

ประวัติโดยย่อของหยางกุ้ยเฟย (เคยอ่านเจอที่ http://begansaga.exteen.com/20060314/entry)พระสนมเอกหยางกุ้ยเฟย ได้รับการยกย่องว่าเป็น ๑ ใน ๔ สตรีที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์จีน (อีก ๓ นางคือ ไซซี, เตียวเสี้ยน และหวางเจาจวิน) นางแซ่หยาง มีชื่อจริงว่า ไท้เจิน (TAI ZHEN) มีชื่อเล่นว่า อวี้หวน (YU HUAN) แปลว่า ตุ้มหูหยก ส่วนคำว่า กุ้ยเฟย หมายถึง พระสนมเอก

นางเกิดในปี ค.. ๗๑๘ ตอนที่มารดาคลอดนางได้ฝันว่าเห็นสายรุ้งพาดโค้งจากฟากฟ้าลงมาที่เตียงนอน พร้อมส่งแสงประกายระยิบระยับงดงาม แต่เพียงชั่วครู่เดียวก็หายวับไป กลายเป็นดาวตกพุ่งตกลงมาสู่พื้น มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

หยางอวี้หวน เมื่อเติบโตขึ้นมีรูปโฉมที่งดงามแล รูปร่างสรีระอวบอัดเต่งตึงเปล่งปลั่งชวนมองยิ่งนัก อีกทั้งยังมีผิวกายที่หอมจรุงยวนใจไปทุกซอกอณูผิวเป็นที่เลื่องลือไปทั้งหมู่บ้าน และตำบลที่พักอาศัย

ในปีที่ ๒๕ ของรัชสมัยจักรพรรดิถังเสวียนจง พระองค์ทรงดำริที่จะหาพระชายาให้พระโอรสโส้วหวาง อาของหยางอวี้หวนทราบข่าวจึงนำนางเข้าไปถวาย และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อโส้วหวางแรกได้แลเห็นนางนั้น ก็ถึงกับตะลึงพรึงเพริดไปในความสวยของนางในพลัน ดังนั้น นางจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระชายาของโส้วหวาง ตั้งแต่นางมีอายุได้เพียง ๑๖ ปี ซึ่งกำลังอยู่ในวัยสาวแรกรุ่นงดงามดุจนางอัปสรมาจุติปานกระนั้น

ครั้นต่อมา อู่หุ้ยเฟย พระสนมที่จักรพรรดิถังเสวียนจงทรงโปรดปรานเสียชีวิตลงกะทันหัน พระองค์ยังทรงหาพระชายาใหม่ที่ถูกพระทัยไม่ได้ ขันทีเกาลี่ซื่อผู้ใกล้ชิดจึงทูลเสนอว่า หญิงงามที่สุดในแผ่นดินไม่มีใครงามเกินหยางอวี้หวน พระชายาของโส้วหวาง แล้วเกาลี่ซื่อได้หาอุบายให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรนาง เพียงแรกประสบพบเท่านั้น พระองค์ก็ถึงกับลุ่มหลงในความงามของนางโดยทันที แต่เนื่องจากติดขัดที่นางเป็นชายาของโส้วหวาง

เกาลี่ซื่อจึงออกอุบายอันแยบยลให้พระองค์แต่งตั้งนางเป็นนักพรตหญิง แล้วหาพระชายาใหม่ให้โส้วหวาง และจากนั้นพระองค์จึงได้ครอบครองอย่างสมพระทัย

หยางอวี้หวนได้เป็นพระสนมเอกของจักรพรรดิถังเสวียนจง เมื่ออายุ ๑๘ ปี ในขณะที่พระองค์มีพระชนมายุ ๕๓ ปี ซึ่งมีอายุต่างกันถึง ๓๕ ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็น กุ้ยเฟย ชั้นพระสนมเอก บรรดาพี่น้องแลเครือญาติของนางทั้งหมดได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนนาง และฮูหยินทั้งหมด จนเป็นที่โจษจันกันไปทั่วว่า เพราะมีลูกสาวดี จึงได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า

ความรักของพระองค์กับหยางกุ้ยเฟย เป็นไปอย่างลุ่มหลง จนมีคำกล่าวเปรียบเปรยว่า "พระองค์ยามเช้าเฝ้าสีซอ ยามค่ำเข้าหอล่อกามา"

ไป๋จวีอี้ ได้พรรณนาความงามของนางไว้ในฉางเฮิ้นเกอ อีกบทหนึ่งว่า

"...
ยามเมื่อนางหันมาแย้มสรวล

ก็นำมาซึ่งเสน่ห์ร้อยประการ

เป็นเหตุให้นางสนมทั้ง ๖ ตำหนัก ต้องด้อยรัศมีลง

ยามเมื่อนางอาบน้ำในสระ (หัวชิงฉือ)

เหล่านางสวรรค์กำนัลใน (,๐๐๐ นาง)

ต่างก็พรึงเพริดด้วยโฉมอันงามวิไลนัก..."

เล่ากันว่า ทั้ง ๒ ทรงโปรดปรานในการมาสรงน้ำที่หัวชิงฉือเป็นยิ่งนัก ตลอดระยะเวลาที่ทรงอยู่ร่วมกัน ได้มาสรงน้ำที่นี่ถึง ๔๙ ครั้ง จนมีสระหนึ่งของที่นี่ เรียกว่า สระหยางเฟย เป็นที่สรงน้ำของนางโดยเฉพาะ

ความที่พระองค์ทรงลุ่มหลงอยู่แต่นาง และเล่นดนตรี จนละเลยการปกครองว่าราชการเมือง ทำให้หยางกั๊วจง (YANG KUA ZHONG) พี่ชายของนางได้รวบอำนาจการปกครองไว้ถึง ๔๐ ตำแหน่ง จนมีตำแหน่งเทียบเท่าสมุหนายก กินสินบนอย่างเปิดเผย ใช้ระบบอุปถัมภ์ในการคัดเลือกคนเข้ารับราชการหรือเลื่อนตำแหน่ง ทำให้เกิดความเดือดร้อนไปถ้วนทั่ว

เป็นเหตุให้อันลู่ซาน (AN LU SHAN) ได้หยิบยกข้ออ้างนี้มาก่อกบฏ โดยนำทหารจากชายแดนและทหารทิเบตเข้ามายึดนครฉางอานโดยง่ายดายในปี ค.. ๗๕๖ ทำให้องค์จักรพรรดิถังเสวียนจงจำต้องทรงลี้ภัยชั่วคราวไปในทางตอนใต้มณฑลซื่อชวน (เสฉวน)

ในระหว่างทางที่ทรงลี้ภัยไปนั่นเอง หยางกั๋วจงได้ถูกเหล่าทหารรุมจับสังหารเสีย จากนั้นเหล่าทหารได้ทูลพระองค์ว่า "การที่เกิดกบฏเข้ายึดบ้านครองเมือง ทำให้ราชวงศ์ต้องเสื่อมถอยก็เพราะหยางกั๊วจงเป็นต้นเหตุ เมื่อหยางกั๊วจงตายไปแล้ว แต่โดยรากยังคงอยู่นั่นคือ หยางกุ้ยเฟย ฉะนั้นนางก็ไม่สมควรอยู่ให้เป็นที่ครหาด้วย"

จักรพรรดิถังเสวียนจงทรงโทมนัสในพระทัยอย่างสุดพรรณนา เมื่อเกาลี่ซื่อผู้นำนางมาถวายพระองค์ ได้นำผ้าแพรขาวไปมอบให้นางเพื่อให้แขวนคอตาย

หยางกุ้ยเฟยได้จบชีวิตลงอย่างน่าสงสารในปี ค.. ๗๕๖ ระหว่างทางลี้ภัยไปมณฑลซื่อชวนในขณะนั้น นางมีอายุเพียง ๓๘ ปีเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีคำร่ำลือกันว่า หยางกุ้ยเฟย เธอมีกลิ่นกายที่หอมกรุ่น เนื่องจากนางได้นำเอากลีบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมนานาพรรณ มาบดให้ละเอียดเป็นแป้งแล้วใช้ชโลมกาย ในยามที่เธอมีเหงื่อไหลในช่วงฤดูร้อนนั้น ร่ำลือกันว่ายิ่งส่งกลิ่นหอมอบอวลให้เป็นที่ใหลหลงยิ่งนัก ซึ่งทำให้หญิงสาวจีนในยุคนั้นเอาตามอย่างนาง โดยนำกลีบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมาทำเป็นแป้งใช้ทาชโลมกาย จนถือเป็นต้นกำเนิดของแป้งฝุ่นจีนมาตราบจนทุกวันนี้

ได้ความรู้มากๆเลยค่ะ

อ่านแล้วอยากเห็นหยางกุ้ยเฟยตัวจริงมาก 

  • สงสัยต้องขึ้น Time Machine ไปหาหยางกุ้ยเฟยแล้วครับ
  • แต่จะคุยกันรู้เรื่องหรือไม่

ดีใจที่ beeman แวะมาตอบค่ะ

 อยากได้ข้อมูลของซูสีไทเฮาน่ะค่ะ

ไม่ทราบว่า beeman พอจะมีมั้ยคะ

แอบขอบคุณล่วงหน้านะคะ

ชอบอ่านเรื่องแนวนี้ค่ะ อาจารย์เขียนอีกเรื่อยๆ นะคะ จะตามอ่าน หนูก็มีชื่อจีนค่ะ มีสองชื่อชื่อนึงอากงตั้ง ชื่อนึงแม่ตั้งให้ "หวังชิวเยว่" กับ "หวังซังซัง" แต่ชอบชื่อหลังมากกว่า เลือกใช้เป็นชื่อตอนเรียนหนังสือด้วย

เรียนคุณ ladyyok

ขอบคุณ คุณซูซานมากครับที่มาเยี่ยม

  • ไม่ทราบว่าผมจะมีเวลาค้นคว้าเรื่องเหล่านี้มาให้อ่านกันอีกหรือเปล่า
  • เอาเป็นว่า ถ้ามีเวลา ผมต้องไปค้น มาเขียนให้อ่านกันอีกครับ

ไซซี หรือ ซีซือ (อังกฤษ: Xi Shi จีน: 西施 พินอิน: Xī Shī) เป็นหนึ่งในสี่หญิงงามแห่งแผ่นดินจีน เกิดประมาณ ค.ศ. 506 ก่อนคริสตกาล ซึ่งตรงกับยุคชุนชิว ที่มณฑลเจ้อเจียง ในรัฐเยว่ (State of Yue)

ไซซีได้รับฉายานามว่า "มัจฉาจมวารี" (จีน: 沉魚 พินอิน: chén yú) ซึ่งหมายถึง "ความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงปลายังต้องจมลงสู่ใต้น้ำ" (so beautiful as to make swimming fish sink)

ในยุคเลียดก๊กที่แต่ละรัฐรบกันนั้น รัฐอู๋เป็นรัฐที่มีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งจึงสามารถรบชนะรัฐเยว่และจับตัวเยว่อ๋องโกวเจี้ยน และอัครเสนาบดีฟ่านหลีไปเป็นตัวประกันที่รัฐอู๋ด้วย เยว่อ๋องโกวเจี้ยนต้องการที่จะแก้แค้นเพื่อกู้ชาติแต่จำต้องยอมจงรักภักดีเพื่อให้อู๋อ๋องไว้ใจ

ครั้งหนึ่งอู๋อ๋องเกิดมีอาการปวดท้อง บรรดาหมอหลวงทั้งหลายไม่สามารถให้การรักษาได้ เยว่อ๋องโกวเจี้ยนได้ชิมอุจจาระของอู๋อ๋องต่อหน้าเสนาธิการทั้งปวง และบอกว่าอู๋อ๋องเพียงแค่มีพระวรกายที่เย็นเกินไป หากได้ดื่มสุราและทำร่างกายให้อบอุ่นขึ้นก็จะมีอาการดีขึ้นเอง และเมื่ออู๋อ๋องได้ทำตามก็หายประชวร อู๋อ๋องเห็นว่าเยว่อ๋องโกวเจี้ยนมีความจงรักภักดีจึงปล่อยตัวกลับคืนสู่รัฐเยว่ เมื่อกลับสู่รัฐเยว่ เยว่อ๋องโกวเจี๋ยนก็วางแผนที่จะกู้ชาติทันที โดยมีฟ่านหลี่เป็นอำมาตย์คอยให้คำปรึกษา ฟ่านหลี่ได้เสนอแผนการสามอย่าง คือ ฝึกฝนกองกำลังทหาร พัฒนาด้านกสิกรรม และ ส่งสาวงามไปเป็นเครื่องบรรณาการ พร้อมกับเป็นสายคอยส่งข่าวภายในให้ ไซซีเป็นหญิงสาวชาวบ้าน ลูกสาวคนตัดฟืนที่เขาจู้หลัวซาน (ภาษาแต้จิ๋ว กิวล่อซัว) นางถูกพบครั้งแรกขณะซักผ้าริมลำธาร นางมีหน้าตางดงามมาก พร้อมกับนางเจิ้งตัน (แต้ตัน) ซึ่งมีความงามไม่แพ้กัน ฟ่านหลี่ (เถาจูกง) เสนาบดีรัฐเยว่เป็นผู้ดูแลอบรมนางทั้ง 2 ให้มีอุดมการณ์เพื่อบ้านเมือง เป็นเวลานานถึง 3 ปี เพื่อที่จะไปเป็นบรรณาการให้กับรัฐอู่ เพื่อมอมเมาให้อู่อ๋องฟูซา เจ้านครรัฐอู่ ลุ่มหลงอยู่กับเสน่ห์ของนาง จนไม่บริหารบ้านเมือง ซึ่งอู๋อ๋องฟูซาหลงใหลนางไซซีมากกว่านางเจิ้งตัน ทำให้นางเจิ้งตันน้อยใจจนผูกคอตาย ขณะที่มาอยู่ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ผ่านไป 13 ปี เมื่อรัฐอู่อ่อนแอลง รัฐเยว่ก็สามารถเอาชนะได้สำเร็จในที่สุด

ภายหลังจากที่อู่อ๋องฟูซา ฆ่าตัวตายไปแล้ว นางกับอำมาตย์ฟ่านหลี่ที่ว่ากันว่า ได้ผูกสัมพันธ์ทางใจไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ก็ได้หายตัวไปพร้อมกันหลังเหตุการณ์นี้ บ้างก็ว่าทั้งคู่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ และไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ทะเลสาบไซ้โอว (ทะเลสาบซีหู) เป็นต้น

กำลังหารูปเกี่ยวกับพวกนี่

เลยขอบคุณคับ

ชอบ ไซซี อ่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวยและฉลาด ต้องไซซี

น่าสงสารหยางกุ้ยเฟยน่ะค่ะที่ไม่มีสามีคนไหนปกป้องเธอได้เลยพอมีภัยทั้งสองต่างหยิบยื่นความตายให้กับนาง ผู้หญิงเอาอกเอาใจสามีให้สามีรักเราเพียงผู้เดียวผิดเหรอค่ะ นางเคยโดนโส้วอ๋องทอดทิ้งเพื่อหวังตำแหน่งรัชทายาทมาแล้วหากกลัวว่าฮ่องเต้จะทอดทิ้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท