ขอบคุณ (3-69)


ในโชคร้ายมักมีสิ่งดีแฝงอยู่ คอยเวลาให้ผล...

ตอนทำงานใหม่ๆ ต้องฝึกงานโดยมีรุ่นพี่ประกบสอนงาน

เพื่อนรุ่นเดียวกันมีหลายคน ต่างลุ้นระทึกว่าจะเจอพี่คนไหน

บางคนโชคดี เจอพี่ใจดี ไม่ดุ ดูแลสอนงาน ปกป้องยามที่ทำผิดพลาด

บางคนโชคไม่ดี เจอพี่ดุ หน้าบึ้ง ไม่ค่อยสอน และไม่ปกป้องยามผิดพลาด

 

เพื่อนร่วมงานรุ่นเดียวกันชอบมาจับกลุ่มคุยกัน ซึ่งก็ไม่พ้นประเด็น "พี่ที่เป็นคนสอนงานให้เรา"

 

ฉันมักจะรู้สึกว่าตัวเองเป็น "คนโชคดี"

 พี่คนแรกที่ฝึกงานด้วย เป็นคนใจดี พูดเพราะ ขยันเป็นที่สุด น้องทำอะไรไม่ทัน ก็จะกุลีกุจอช่วยจนงานลุล่วงไปด้วยดี

เพื่อนๆบอกว่าฉันมักจะโชคดีที่ไ้ด้พบคนดีๆ

แต่...พี่คนนี้่ลาออกไปหลังฉันฝึกงานด้วยเพียง 3 เดือน

เรื่องร้ายมักตามหลังโชคดีมาติดๆ...

 

พี่คนที่สอง เป็นคนทำงานเก่ง ไม่ช่างพูดช่างสอน หากทำผิดก็จะตำหนิตรงๆ ไม่เคยมีคำชื่นชม พี่บอกว่าฉันไม่เหมาะกับงานนี้เลย เพราะเป็นคุณหนู เหยาะแหยะ เหยียบขึ้ไก่ไม่ฟ่อ  T_T (แรงนะนี่)

ฉันและเพื่อนๆ บอกว่า...โชคร้ายอย่างแรง ที่เจอพี่คนนี้ (ใช้คำแย่กว่านี้มาก)

ฉันฝึกงานกับพี่คนที่สองนี้เกือบปี

ทำงานไปทุกข์ไป ปวดท้องไป อยากลาออกจากงานหลายครั้ง

แต่อดทนเพราะทิฏฐิ ไม่อยากให้ใครดูถูก...ว่าทำงานนี้ไม่ได้

 

วันหนึ่งพี่เดินเข้ามาบอกว่า...พี่จะเออรี่รีไทร์แล้วนะ อยากคุยด้วย...

ฉันก็ลิงโลดดีใจ สีหน้าคงปกปิดไม่ได้

พี่บอกเรียบๆว่า "เธอทำงานใช้ได้แล้ว แต่ยังไม่ละเอียดรอบคอบ ขอให้ปรับปรุงตัว ตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้... ต่อไปเธอจะเป็นคนเก่งคนดีของหน่วยงาน"

 

ฟังแล้วพูดไม่ออก ไม่แน่ใจว่าพี่ตำหนิหรือชม (ฮาาาาา)

 

ผ่านมาหลายปี...

เมื่อไตร่ตรองอีกครั้ง ฉันพบว่าหลักการ วิธีการทำงานที่ฉันใช้ ล้วนมาจากพี่คนที่สองนี้เกือบทั้งหมด

ฉันได้ความรู้และทักษะการทำงานจากคนที่ชอบตำหนิ จับผิด และไม่เคยชมฉันเลย

ในโชคร้ายมักมีสิ่งดี ๆ แฝงอยู่ คอยเวลาให้ผล...

 

ในโลกของการทำงานหรือโลกเสมือน/โลกออนไลน์ ก็ไม่ต่างกัน

เคยรู้สึกรำคาญใจเล็กๆ กับคนที่ชอบมาคอยคอมเม้นท์โน่นนี่ ไม่เห็นด้วยอย่างนี้อย่างนั้น (อ้าว...แล้วมาอ่านทำไม) ทักท้วงที่ผิดตรงนี้ตรงนั้น ...ฯลฯ

คิดในใจ... จะมากวนใจอะไรกับฉันมากมายเนี่ย ดูแต่ของตัวเองดีกว่าไหมนะ อย่ามายุ่งกับฉัน...ไปทำอะไรโกรธเคืองใจกันมาแต่ชาติปางไหนก็ไม่รู้ ...@#*+@-%#@...

 

เวลาผ่านไป...

ฉันก็ มาพบอีกว่า ฉันละเอียดลออ ระมัดระวัง ไตร่ตรองมากขึ้นก่อนจะคิดเขียนอะไร แม้จะยังตกๆหล่นๆ เลินเล่อตามนิสัยเดิม (ฮาๆๆๆ) แต่ก็น่าจะน้อยลงกว่าเดิมแล้ว

 

วันนี้รู้สึกว่า...

ไม่ว่าจะโชคดีที่ได้พบ "ครูใจดี" หรือ โชคร้ายที่ได้พบ "ครูใจร้าย/ครูดุ" 

ก็ควรรู้สึก "ขอบคุณ" ทั้งนั้น

 

พบครูใจดี ถือว่าโชคดี เพราะไม่ถูกดุว่าให้ระคายเคืองใจ แต่ให้บทเรียนด้วยความรักความเมตตา 

พบครูใจร้าย/ครูดุ ถือว่าโชคดี...อีกเหมือนกัน

เพราะ แม้ดุว่า ก็เพราะเขามีจิตเมตตาอยากให้เราทำให้ถูกให้ดี ไม่เช่นนั้นจะมาคอยตรวจตราหาที่ผิดและคอยชี้บอกเราทำไมให้เหนือยใจ ปล่อยไปเฉยๆื สบายกว่ากันเยอะเลย...

 

ฉันตกลงใจ เมื่อมีโอกาสได้เป็น "ครู"

ได้เป็นพี่ที่ต้องฝึกงานให้น้องหรือต้องสอนหนังสือให้นักศึกษา

ฉันจะเป็นพี่คนที่สองในคราบของพี่คนแรก

นั่น คือ ให้วิธีการ/ทักษะในการทำงานที่ถูกต้องเข้มข้น โดยไม่ดุว่าแต่หาช่วงจังหวะที่เหมาะสมในการจะบอกจะตักเตือนด้วยใจที่เมตตา และไม่อคติ

ซึ่งต้องยอมสารภาพว่า...การจะทำให้ได้ดังที่ตั้งใจไว้นั้น

ยากจริงๆๆๆๆๆๆและต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งยวด....

แต่แม้จะยาก ฉันก็ตั้งใจจะทำดังที่ตั้งใจไว้ เพื่อขอบคุณ "ครู" ทุกคนในชีวิตที่ผ่านมา


 ด้วยจิตนอบน้อมและขอบคุณ


หมายเลขบันทึก: 495543เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2012 17:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม 2012 14:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ประทับใจการเล่า เรื่องราว ไม่ว่าดี หรือร้ายที่ผ่านเข้ามาล้วนเป็นครู การคิดเช่นนี้ ทำให้เรากล้าหาญมากขึ้นนะค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณหมอป.

ความทุกข์ยาก ไม่พึงใจ จะทำให้เรากล้าหาญและเติบโต...นะคะ  :)

มาเยี่ยมคุณคนไม่มีราก ด้วยความระลึกถึงครับ ความกล้า กำลังใจ ที่ผ่านพบ คือ ของขวัญชั้นเยี่ยมในชีวิต

คุณคนไม่มีราก สบายดีนะครับ

มาฟังเรื่องประทับใจครับ...

ยังต้องเพิ่มความ "ละเอียดลออ" อีกนิดหนึ่งครับ (คราวที่แล้วด้วย)

ขอบคุณค่ะ ที่กรุณาแชร์ประสบการณ์และแง่คิดดีๆ ค่ะ ขอแชร์ด้วยคนยาวสักหน่อยนะคะ

เมื่อจนมหาวิทยาลัยปุ๊ปในสาขาวิชาการตลาด ก็ไปสัมภาษณ์งานกับ coca-cola ผลิตภัณฑ์ที่เด็กตอนนั้นคิดว่าเท่ห์น่าดู ในห้องมีผู้สัมภาษณ์นั่งอยู่ 3 คน คนที่หนึ่ง : ใครแนะนำหนูมา รู้จักใครบ้างที่นี่/ คำตอบของดิฉัน : ไม่มีใครแนะนำมา อยากมาทำที่นี่เพราะชอบแบรนด์นี้, ไม่รู้จักใครที่นี่่เลยค่ะ คนที่สอง : คิดว่าจะทำได้เหรอ ไม่ง่ายหรอกนะ (ท้าทายแบบเหยียดๆ จัง)/ คำตอบของดิฉัน : ก็คิดว่าไม่ง่าย แต่ขอโอกาสลองทำดูค่ะ คนที่สาม : แต่งตัวตัวสวยนะครับ กระเป๋าแบรนด์เนมซะด้วย มีแฟนหรือยังครับ/ คำตอบของดิฉัน : ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัยดิฉันทำงานด้วยเรียนไปด้วยค่ะ ขายบ้าน/โรงพยาบาล/ เลขา ฯ ทำมาหลายอย่าง ชอบของสวยงามก็เก็บเงินซื้อด้วยตัวเอง แฟนมีหลายคนสนใจแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วก็มีคำถามพร่างพรูมาแบบไม่ขาดตอน .. ออกจากห้องสัมภาษณ์แบบหดหู่มาก... เก็บอารมณ์ไว้เดือดๆ แต่ยิ้มๆ

ผลการสัมภาษณ์ : คุณพร้อมจะเริ่มงานได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ ยินดีด้วยค่ะ : และคนสัมภาษณ์คนที่สองเป็นหัวหน้างานโดยตรงของดิฉัน

                     ทำงานด้วยกันมาเกือบ 10 ปี ด้วยความอดทน อดกลั้น ก็ใช้งานดิฉันหนักเหลือเกิน ให้ทำทุกอย่าง ... กระโดดลาออกไปทำงานที่อื่นครั้งแรก ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด จะไหวไหมนี่...สุดท้ายก็กระโจนมาเรื่อยๆ สูงขึ้นๆๆ ทุกครั้งก็คิดถึงพี่เขาเสมอ ที่ท้าทายและให้โอกาสเราทำงานหนักค่ะ  จนมาเป็นเจ้าของ LIly Property and Pools ในทุกวันนี้

สวัสดีค่ะคุณBlank แสงแห่งความดี

ดีใจที่ได้ทักทายกัน ด้วยความระลึกถึงเช่นเดิมค่ะ

ส่วนตัวสบายดีค่ะ หวังว่าคุณแสงแห่งความดีคงสบายดีเหมือนเดิม

ตอนนี้คงยุ่งๆกับชีวิตหลังเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดนะคะ

รักษาสุขภาพมาก ๆ ค่ะ  :)

 

สวัสดีค่ะคุณครู Blank ธ.วั ช ชั ย

วันนี้เรียนและจำแม่นเลย 2 คำ คือ การุญ และ ละเอียดลออ...ไม่ลืมแน่ๆ

ตอนที่ทำผิดซ้ำๆแล้วเพื่อนรำคาญใจ ถามว่าเมื่อไหร่เธอจะทำไม่ผิดเนี่ย... ก็ตอบไปว่า...

ก็เมื่อเธอไม่คอยมาตรวจตราความผิดที่ฉันทำนั่นแหละ...ทันทีเลย อิอิ

ตอนนี้ชักจะปลงตก ตราบใดที่ยังเขียนบล็อกแล้วคุณครูมาอ่าน ก็คงเจอคำที่ใช้ผิดๆ ต่อไป
นอกจากคุณครูเบื่อ ขี้เกียจอ่าน ... คราวนี้ก็รอดตัว ไม่ผิด เพราะ...ไม่มีใครชี้ที่ผิดให้น่ะสิ .... ขอบคุณค่ะ :)

 

สวัสดีค่ะพี่ Blank Bright Lily

ขอบคุณประสบการณ์ที่พี่นำมาแบ่งปันนะคะ น้องยังไม่เคยเจอขนาดนี้ เพราะทำงานราชการ คงไม่ดุเดือดเท่างานเอกชน แต่ประสบการณ์ของพี่น่าจะเป็นประโยชน์ให้เด็กรุ่นหลังๆ ได้มาก เท่าที่สังเกตหลานๆ เด็กรุ่นใหม่ เปลี่ยนงานบ่อยมาก และมักจะมองที่ให้เงินมาก งานสบาย... ซึ่งก็จะบอกเขาว่า ไม่มีหรอก "งานสบาย เงินดี"

การเคี่ยวกรำ จ้ำจี้จ้ำไช หากเราเห็นประโยชน์อันแท้จริงที่แฝงอยู่้ เราจะไม่รังเกียจสิ่งนั้นเลย...

ขอบคุณมากค่ะ  :)

 

  • การแสดงความกตัญญูของเราต่อครูคือการที่เราเป็นครูที่ดีสืบทอดความดีของเขาต่อไป เป็นแนวคิดนี้ได้จากคนรู้ใจที่เราเคยรำพึงว่าทำอย่างไรจึงจะตอบแทนพระคุณคุณครูที่เมตตาสอนเรา คนรู้ใจก็บอกว่า "ก็เป็นครูที่ดีไง" จึงรู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดีมาก ๆ ...จริง ๆ แล้ว เราอาจจะทำอยู่แต่ไม่รู้ว่าคือการแสดงความกตัญญูค่ะ  ทั้งหมดที่เล่ามานี้สอดคล้องกับที่คุณ หยั่งราก ฝากใบ กล่าวมาเลยค่ะ
  • ได้เป็นพี่ที่ต้องฝึกงานให้น้องหรือต้องสอนหนังสือให้นักศึกษา

    ฉันจะเป็นพี่คนที่สองในคราบของพี่คนแรก...

สวัสดีค่ะคุณBlank Sila Phu-Chaya

ชอบใจและโดนใจมากกับข้อคิดของคุณศิลาค่ะ

การตอบแทนพระคุณคุณครูที่ดีที่สุดก็คือ การเป็นครูที่ดี... :)

เลยคิดไปถึงที่แม่เล่าให้ฟังคนจีนสมัยก่อน ก็มีเรื่องแม่สามีกับลูกสะใภ้ ซึ่งมักจะไม่ถูกกัน แม่เองก็ถูก อาม่า(ย่า) ไม่ชอบ (ไม่ทราบด้วยเหตุอะไรค่ะ) แต่แม่ไม่เคยตอบโต้และไม่เคยบ่นว่าอาม่าให้หลานๆของท่านฟังเลย  ตอนที่แม่มีลูกสะใภ้ ก็รักลูกสะใภ้เหมือนลูก (เราบ่นว่าอาจรักกว่าลูกเสียอีก) แม่บอกว่าเคยเจอแม่สามีไม่รัก ก็เลยต้องรักลูกสะใภ้มากๆ หน่อย เพราะรู้แล้วว่าทุกข์อย่างไร...

อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นการตอบแทน "ครู" เหมือนกันนะคะ ไม่ว่าครูจะเป็นครูอย่างไร แต่ นักเรียนที่ดี ควรเรียนรู้และพัฒนาต่อไป  :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท