เราทุกข์เพราะเราเลือกที่จะทุกข์ แล้วทำไมเราต้องบ่นว่าเราทุกข์


การที่คนเรามีความทุกข์นั้นจริงๆแล้ว  ความทุกข์เราเป็นคนเลือกเองที่จะเดินทางเข้าหามันแล้วทำไมใครหลายคนถึงชอบบ่นว่าเรามีความทุกข์ แล้วก็ยังเลือกที่จะอยู่กับความทุกข์โดยที่ไม่ยอมถอยออกมาจากทุกข์นั้น  ชลัญชักเริ่มสงสัยว่า  ในเมื่อเราเลือกเองแล้วทำไมเราต้องคร่ำครวญ

            ชลัญว่าในสิ่งที่เราเลือกแล้วทำไมเราไม่พร้อมที่จะยอมรับหรือถ้ารับมันไม่ได้ทำไม่เราไม่ถอย  บางคนยังยืนยันจะอยู่กับทุกข์นั้นต่อทั้งที่ประโยชน์ตนหรือก็ไม่ได้  ตัวอย่างที่ชัดที่สุดในเรื่องนี้ที่ชลัญเห็นบ่อยครั้งก็คือการก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้างาน ชลัญเคยรู้จักหัวหน้างานบางท่านนั้นมาทำงานทุกวันด้วยความทุกข์เพราะเข้ากับหัวหน้างานท่านอื่นไม่ได้เลย ทุกๆวันมีแต่เรื่องทุกข์ใจมาให้เสมอ  ไม่เคยมีความสุขจากการเป็นหัวหน้า มีสิ่งเดียวที่ภาคภูมิใจคือการก้าวมาเป็นหัวหน้า  บางวันต้องทะเลาะกับคน ใน กบห. บางวันมีปัญหากับลูกน้อง  หรือต้องวิ่งแก้ปัญหาให้ลูกน้อง  หรือ มีปัญหารุมเราจากงานประเมินที่ทำไม่ทัน   บางวันวิงเวียน อาเจียนจากการพักผ่อนไม่พอ   เขาเคยบ่นลาออกหลายครั้ง แต่ก็ให้เหตุผลว่า คนนั้นไม่ให้ ออก คนนี้ไม่ให้ออก  ชลัญสงสัยว่า เราทุกข์ขนาดนี้ คนเหล่านั้นเขามีอิทธิพลกับเราพอที่จะสั่งให้เราทุกข์ต่อไป แล้วเราก็เชื่อเขาอย่างนั้นหรือ  เราคิดว่าที่เขาไม่ให้เราออกนี่ เราเขารักเราจริงหรือ หรือเราเป็นคนเลือกที่จะอยู่กับความทุกข์ความวุ่นวายเอง เพราะเรายึดติดนั่นคืออัตตา ในตำแหน่งหัวหน้า หรือเปล่า เราเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ด้วยความทุกข์  เอง ไม่น่าจะมีใครมีอิทธิพลที่จะให้เราอยู่นอกจากตัวของเราเอง  ชลัญว่า ถ้าทุกข์ขนาดนั้น ทุกข์ทุกวัน ทุกข์จนทำลายสุขภาพเพราะการยึดติดในตำแหน่งลองปล่อยมันบ้างดีมั๊ย  หรือคนรอบข้างที่พยายามดึงรั้งเขาไว้นั้น  หากมีความปรารถนาดีต่อกันจริงลองปล่อยเขาออกมาจากทุกข์มันจะเป็นการให้ความรักที่จริงใจมากกว่า หรือเปล่า   แต่หากเรายืนยันที่จะเลือกเราน่าจะพร้อมที่จะอยู่จะสู้ จะทำหน้าที่ของเราด้วยความสุข มากกว่าการมาคร่ำครวญทุกวัน ทุกข์กับทุกสิ่ง จนทำให้คนอื่นทุกข์ไปด้วย

            เมื่อครั้งที่ชลัญแต่งงานกับคุณป๊าใหม่ๆชลัญบอกคุณป๊าว่า การที่เราแต่งงานกันเลือกที่จะมาอยู่ด้วยกันนั้นเราต้องอยู่อย่างมีความสุข เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกทุกข์กับการอยู่ด้วยกันแล้ว ให้บอกตรงๆ เพราะการทนอยู่กับความทุกข์ไปตลอดชีวิตนั้นมันทรมาน เราอย่าได้ทน ทุกสิ่งอย่างมีการเริ่มต้นและสิ้นสุดโดยตัวของมันเอง  ปัญหามีทางออก เสมอ เพียงมองให้เห็น ไม่ต้องเป็นห่วงความรู้สึกของชลัญมากจนทำร้ายความรู้สึกตัวเอง เพราะนั่นเท่ากับการทำบาปอย่างหนึ่ง แต่ทุกวันนี้ น่าจะยังมีความสุขดี เพราะเห็นกินข้าวได้นอนหลับดีทุกวัน

            คนเรานั้นเมื่อเลือกที่จะทำอะไรก็ตามอยู่กับมันแล้ว อย่าทุกข์ เพราะเราเป็นคนเลือกเอง แต่ถ้าเลือกจะอยู่ต้องยอมรับในสิ่งที่เลือก การคร่ำครวญไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น  การปรับตัวรับสภาพ นั้นคือหนทางที่พึงปฏิบัติแต่ถ้าปรับตัวไม่ได้ปรับสภาพไม่ได้อย่าทำร้ายตัวเราเองจากสิ่งที่เราเลือกเองเลย

หมายเลขบันทึก: 494596เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2012 17:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กรกฎาคม 2012 11:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

กลับถึงบ้านแล้วนะครับ..เสียดายไม่ได้ฉลองตอนรับรางวัล R2R ครับ...ยินดีที่รู้จักครับ...เป็นนางฟ้าจริงๆ ครับ

5555555555 ยืนยันได้ทิมดาบไก่กา

แวะมาอ่านบันทึกและให้กำลังใจนะคะนางฟ้าชลัญ

ปล.นางฟ้า ตกลงว่า งานนี้ เจอพี่หนูรี ไหม? 

เจอทุกวันเลยค่ะใน gtk เรียกยังไงก็ไม่หันมาหา คนอะไรสวยแล้วหยิ่ง อิ อิ

ชื่นชมความเป็นคนกล้า

 กล้าที่จะรับและปล่อยวาง ชอบประโยคนี้ครับกล้าหาญมาก

 เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกทุกข์กับการอยู่ด้วยกันแล้ว ให้บอกตรงๆ เพราะการทนอยู่กับความทุกข์ไปตลอดชีวิตนั้นมันทรมาน

ดับทุกข์ด้วย การให้อภัย.... และ อุเบกขา ช่วยดับทุกข์ได้ ตามที่เราจะทำได้นะคะ

ขอบคุณมาก สำหรับบทความดีดีนี้นะคะ

ใช่เลย น้องชลัญ เข้าใจและอยุ่กับมัน หาความสุขในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น ใจเป็นสุข

บางคนอาจจะมีความสุขที่จะอยู่กับทุกข์ก็เป็นนะครับ มองต่างมุม

* เมื่อหัวค่ำนี้..เพิ่งได้คุยกับหลานไจ่ไจ๋..สะท้อนความสุขดีๆของครอบครัวน้องชลัญค่ะ 

* ส่งภาพชุดเจ้าสาวประดับเพชร จากสวนที่บ้านมาฝาก..

  • ขอบคุณ Blank ที่มาให้กำลังใจ  
  • ค่ะท่านเราต้องกล้าหาญ และต้องพร้อมในการที่จะต้องเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงของชีวิตในทุกขณะ
  • ชลัญไม่เคยมั่นใจว่า การที่คยสองคน เกิดมาจากต่างครอบครัว พื้นฐานการเลี้ยงดูที่แตกต่างแล้วจะ สามารถมาอยู่ด้วยกันอย่างลงตัวเป๊ะ
  • มันยาก ต้องเผื่อใจทุกขณะจิต
  • สิ่งที่ชลัญปฏิบัติ ตั้งแต่แรกคบกันจนถึงปัจจุบัน คือการยอมรับใน ธรรมชาติของตนที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วย
  • โดยจะไม่พยายามเปลี่ยนธรรมชาติของเขา  
  • แต่หากเป็นสิ่งที่ขัดความรู้สึกเรามาก 
  • เป็นเพียงการกล้าที่จะบอกว่า  การกระทำสิ่งนี้ของคุณเราไม่ชอบ
  • การจะปรับไม่ปรับนั่นคือเขาต้องเป็นคนพิจารณาเอง 
  • การดำเนินชีวิตของครอบครัวชลัญคือการที่เรากล้าที่จะเปิดใจคุยกันกับปัญหาที่เกิด การขัดแย้งในความรู้สึก 
  • ปัญหานั้นจะไม่ข้ามวัน เพราะถ้าข้ามเมื่อไหร่มันจะเกิดการสะสม จากเล็กจะกลายเป็นหญ่ไปจากความไม่เข้าใจนั่นเอง

ขอบคุณ ค่ะหมอเปิ้ล Blank  การให้อภัย  ปล่อยวางนั้นสามารถดับทุกข์ได้  แต่เมื่อไหร่ที่เราทำไม่ได้  ควรถอยมาตั้งหลัก ชลัญว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดี่ที่สุด

 

ขอบคุณค่ะท่าน วอญ่า Blank ทุกวันนี้ที่เราทุกข์เพราะเรายึดอัตตานั่นเอง เรารู้ว่าเราทุกข์ แต่ไม่ยอมเข้าใจเหตุแห่งทุกข์  และไม่ยอมดับทุกข์  หรือลดทุกข์  ยังดันทุรังที่จะอยู่กับมันด้วยความทุกข์ ในเมื่อเราเป็นคนเลือก ก็ไม่ควรมาคร่ำครวญในสิ่งที่เลือก ค่ะ 

 

ขอบคุณ ท่าน วิชญธรรม Blank  หากเรามีความสุขที่จะอยู่กับความทุกข์แล้วก็อย่าได้คร่ำครวญเลย  จงยินดีที่จะอยู่กับทุกข์ด้วยความสุขเถิด 

ขอบคุณค่ะ ป้าใหญ่ Blank  ความสุขขอบชลัญอีกอย่างคือการมีป้าใหญ่ในความรู้สึก ค่ะ 

เมื่อสวมหัวโขนแล้ว คงถอดยาก..กลัวไม่ได้สวมอีก รึเปล่าครับ จึงยอดทน ถึงแม้จะทุกข์

ชีวิตของปุถุชน คนธรรมดา มีสุขก็มีทุกข์เป็นของคู่กันใช่ไหมคะ อยู่ที่ว่าจะหาสมดุลในใจได้ที่จุดไหน เมื่อทุกข์ก็ให้รับรู้ว่าทุกข์ ดิ้นรนขัดขืนให้แต่น้อย แล้วรีบดึงตัวเองออกจากความทุกข์นั้นค่ะ...กับบทบาทหัวหน้างาน บางครั้งมันก็ไม่เหมาะกับจริตของบางคนจริงๆค่ะ เคยนะที่ต้องทุกข์ เคยนะที่ต้องร้องไห้ เพราะหาทางออกให้กับหัวใจตัวเองไม่ได้...เมื่อหลุดพ้นมาได้ สุขใจขึ้นอีกโขเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท