ธรรมยาตราพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา มาสู่ชาวอยุธยา


ทางเสถียรธรรมสถานจัดโครงการธรรมยาตรา พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ไปยังจังหวัดต่างๆให้คนต่างจังหวัดมีโอกาสนมัสการโดยทั่วถึง โดยมีเส้นทางขึ้นภาคเหนือก่อน ธรรมยาตรา...เมื่อธรรมเดินทางสร้างอริยชน

ปีนี้ครบรอบ ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เรียกขานกันว่า "พุทธชยันตี" มีการเฉลิมฉลองในดินแดนทุกแห่งที่มีชาวพุทธอยู่ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน และผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมสร้าง พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ซึ่งแกะสลักจากหินแกรนิตบ่อเดียวกับ พระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา ที่อินเดีย เป็นพุทธบูชาในมงคลวโรกาสนี้ คนกรุงเทพและคนต่างจังหวัดที่ไปร่วมงานฉลองพุทธชยันตีที่ท้องสนามหลวงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็คงได้มีโอกาสนมัสการพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ซึ่งเป็นพระประธานในพิธีครั้งนั้น

เพื่อให้เกิดความเข้าใจชัดแจ้งเพราะชื่อพระพุทธรูปสององค์นี้จะฟังคล้ายกันมากจึงขอนำข้อมูลที่ทางเสถียรธรรมสถานจัดทำไว้มาแสดงค่ะ

 

 

ทางเสถียรธรรมสถานจัดโครงการธรรมยาตรา พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ไปยังจังหวัดต่างๆให้คนต่างจังหวัดมีโอกาสนมัสการโดยทั่วถึง โดยมีเส้นทางขึ้นภาคเหนือก่อน ธรรมยาตรา...เมื่อธรรมเดินทางสร้างอริยชน

 

 

ระหว่างวันที่ ๕ – ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ท่านแม่ชีศันสนีย์ และสาธุชนได้อัญเชิญ พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา จากกรุงเทพมายังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดแรกที่ผู้คนนอกกรุงเทพมหานครได้นมัสการ

 

งานนี้คนข้างกายผู้เขียนได้มีโอกาสอีกครั้งที่ช่วยงานท่านแม่ชีศันสนีย์ซึ่งเป็นชาวพระนครศรีอยุธยาเช่นเดียวกัน จึงเกณฑ์ผู้คนของเราช่วยเสริมกำลังเต็มที่และจัดบริเวณงานพิธีกรรมการเปิดงานให้งดงามและผู้เขียนเองก็มีส่วนร่วมในการจัดโรงทาน

 

 

ทุกยามเย็นย่ำค่ำมีการสวดมนต์ทำวัตรเย็นและบทสวดธรรมจักรฯนำโดยท่านแม่ชีศันสนีย์และคณะ ท่ามกลางบรรยากาศที่เกื้อหนุนให้เกิดจิตที่น้อมสู่ความหมายของทุกบทสวด

 

งานจัดที่บริเวณ บึงพระราม ซึ่งอยู่ติดกับ วัดพระราม มองเห็นปรางค์วัดพระรามร่วมบริบท

แม้งานผ่านพ้นไปแล้วแต่ความปิติที่มีโอกาสร่วมบุญครั้งนี้ยังคงอยู่ ด้วยผู้เขียนได้มีบุญนมัสการพระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา องค์ต้นแบบที่อินเดียเมื่อต้นปีนี้เอง และยังได้มีบุญร่วมงานครั้งนี้ที่เหมือนท่านมาโปรดถึงแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ นำภาพมาให้ชมและนำบุญมาฝากทุกท่านด้วยค่ะ

 

 

 "การสร้างสุขภาวะที่ดีของสังคมด้วยมิติจิตปัญญา

เราต้องเริ่มจากการเปลี่ยนที่หัวใจคนให้มีความเข้มแข็งในการใช้ชีวิต

อยู่ด้วยสุข ๓ ขั้น คือ

สุขง่ายใช้น้อย สุขเมื่อสร้าง สุขเมื่อให้

เพื่อให้คนอยู่ร่วมกันได้ในความหลากหลายโดยมีความเคารพในความต่าง

นี่คือการปลุกหัวใจ ที่ต้องเคารพหัวใจแม่...หัวใจโพธิสัตว์ ซึ่งหมายถึง

หัวใจแห่งการเกื้อ เอื้อ และให้อภัยกันอย่างลึกซึ้ง

เพื่อเตรียมสร้างสุขภาวะที่ดีของสังคมไทยสู่สังคมอาเซียน...

และสังคมโลกต่อไป..."

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต 

หมายเลขบันทึก: 494268เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2012 10:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม 2012 21:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

การเปลี่ยนหัวใจคนให้ "เข้มแข็ง" ==> เป็นสิ่งสำคัญที่สุดนะคะ

- สุขง่ายใช้น้อย

- สุขเมื่อสร้าง

- สุขเมื่อให้

ขอบคุณมาก  สำหรับบทความดีดีนี้นะคะ

สาธุ สาธุ สุข และ สนุก กับ ธรรมะ ครับ

พี่นุชเจ้า..

ตั้งแต่ก่อนต้นปีจะได้ยินคำและเรื่องราวของ "พุทธชยันตี" บ่อยมาก จนนึกสงสัยว่าเป็นอย่างไร?     2600  ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง   

อนุโมทนากับงานบุญที่พี่นุชได้มีส่วนร่วมทุกงานเลยนะคะ  ^^

พี่นุชคะ.  สาธุด้วยคน 

ตอนคุยกันทางโทรศัพท์เหมือนจะเป็นงานธรรมดาทั่วไป

พอเห็นในรูปแล้ว สวยงาม งานช้างเลยนะคะ^__^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท