จุดเปลี่ยนชีวิตมีสิ่งดี ๆ และสิ่งที่ท้าทาย
จากจุดเปลี่ยนข้างล่างนี้ ท่านคิดว่า จะมีสิ่งดี ๆ และสิ่งที่ท้าทายอะไรเกิดขึ้นบ้าง
1. เมื่อลูกกลายเป็นสามีภรรยาของคนอื่น
2. เมื่อพี่ และ หรือ น้อง กลายเป็นสามีภรรยาของคนอื่น
3. เมื่อเรากลายเป็นสามีของคนที่เพิ่งมารู้จักภายหลังพี่น้อง
ที่คลานตามกันมา และเคยพากันวิ่งเล่นหยอกล้อ
4. เมื่อแม่ หรือ พ่อ ไปมีสามี หรือ ภรรยาใหม่
เรียนเชิญมวลมิตร ตอบสัก 1 ข้อ ก็พอแล้ว ข้อละ 1-2 คำตอบ
ขอให้คำตอบของท่านดลบันดาลให้ท่านโชคดี มีแต่ความสุขนะครับ
ความเห็น (15)
เป็น "จดหมายลูกโซ่" เหรอครับครับ ท่านอาจารย์ชัด ;)...
เพราะมี "ดลบันดาล" ด้วย 555
ชลัญขอตอบ
1. ดีใจจะได้สมาชิกใหม่ในไม่ช้า
2. ตอบเช่นเดียวกับข้อ 1
3. ชลัญเป็นหญิงตอบ บ่ได้ ขืนตอบไป เดี๋ยวคุณป๊า จะ ...อึ๋ยยยย์
4. ว๊าว....จะได้มันส์...ซะใจเหมือนละครน้ำเน่าของไทยแล้ววุ๊ย
ขอเลือกตอบข้อนี้ค่ะ เมื่อพี่ และ หรือ น้อง กลายเป็นสามีภรรยาของคนอื่น ... สิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้น พี่หรือน้องของเรา มีคนที่เขารักเพิ่มขึ้นมาอย่างน้อยหนึ่งคน
สิ่งท้าทายที่จะเกิดขึ้น พี่หรือน้องของเรา ต้องรับผิดชอบและมีภาระมากขึ้น
สุขทุกข์คือสองข้างของเหรียญค่ะ
555 ไม่ใช่ ๆ จดหมายนะครับ ถ้าจะเป็น ก็เป็นบล็อกลูกโซ่
แต่ก็ไม่ใช่อีก เป็นเพราะไม่ได้ส่งต่อให้ใคร อ่านแล้วทำให้ได้คิออะไร
ก็เป็นการรับพรไปในทันที ถ้าไม่ได้คิดอะไร แค่ผ่านไป ก็ไม่ได้พร 555
ตั้งใจให้มีคำตอบมาพอเป็นแนว จะได้เปิดเผยความในใจว่าทำไมจึงทำอย่างนี้
555
1.ด้วยไมแน่ใจว่า อ่าน อ่านจริงหรือเปล่า
ตอบมา Wasawat Deemarn กับ ชลัญธร ตอบมา เท่ากับว่าอ่านจริง
ให้ดอกไม้ ก็แปลว่า อ่าน และเป็นไปได้ว่า อ่านผ่าน ๆ ไป คลิ๊กให้ดอกไม้
แล้วก็จำไม่ได้แล้วว่าอ่านเรื่องอะไรไปเมื่อสักครู่นี้ ทั้งสองท่านที่ตอบถือว่ารับพร
ของตัวเองไปแล้วเพราะได้อ่านแล้ว และสมองได้ทำงานแล้ว
2. การให้เลือกตอบเพียง 1 ข้อ ก็เพื่อให้เลือกที่ตอบได้สะดวกใจ หากท่านใดได้อ่านจริง ๆ ในบางข้อก็อาจจะฉุกคิดอะไรได้บ้าง แม้จะไม่ตอบมาอย่างเป็นทางการ อย่างน้อย ๆ ก็คิดว่า กทน.ชัด นี่เขียนประสาอะไรวะ ไม่เหห็นจะรู้เรื่องเลย 555 การที่กทน.ชลัญธร ตอบมาทั้ง 4 ข้อ ก็รับพรไปมาก เพราะได้คิดมาก
3. ปัญหาสังคม ลึก ๆ แล้ว ส่วนหนึ่ง คือ การไม่เข้าใจชีวิต ว่าชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงจุดเปลี่ยนทั้ง 4 ข้อ หากเปลี่ยนแล้วผู้คนอยู่กับการเปลี่ยนนั้นไม่ได้ ต้องเป็นทุกข์กับการเปลี่ยนแปลงนั้น เพราะอะไร อะไร ก็เพราะไม่ได้คิดว่าชีวิต ต้องเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ถ้าคิดได้ว่า ที่สำคัญกว่า คือ การอยู่กับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ได้ รักษาสภาพความเป็นพ่อ-แม่-ลูก-พี่-น้อง ไว้ให้ได้
เสนอบันทึกนี้มาก็เพื่อว่าต้องการให้เกิดฉุกคิด สำหรับบางคน บางท่าน
ผมมีคำตอบไว้ในใจในทุกข้อแล้ว แต่จะไม่ตอบในวันนี้ ขอดูคำตอบของท่านที่ให้ความสนใจไปสักระยะก่อน
เข้าเป้า ๆๆๆ 555 ขอบคุณ กทน.คุณหมอปัทมา ที่ตอบมาให้เป็นแนว นะครับ
คำว่าท้าทาย ปกติ แล้วในสังคมไทยเราใช้กันน้อย ในสังคมฝรั่งเขาจะเปลี่ยนปัญหา มาเป็นความท้าทาย หรือ แปลอีกทีว่า ถ้ามีปัญหาละก็ เราจะอยู่กับปัญหานั้นอย่างไร โดยไม่พูดเพียงแค่ปัญหา เพราะว่าคิดไปแล้ว ไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากได้แต่ความทุกข์
- ขออนุญาตตอบข้อ 3 นะคะ แต่ในฐานะเป็นภรรยาของคนที่รู้จักภายหลังพี่น้อง
- มันเป็นสัจธรรมที่คนอื่นกลายเป็นคนใกล้ชิดกว่า ในขณะที่พี่น้องกลายเป็นคนอื่นได้ ไม่ใช่ในเรื่องความรู้สึก แต่ในเรื่องความเป็นจริงในการจัดการชีวิต เช่น ผู้อยู่ดูแลเรายามเจ็บป่วย ไม่ใช่แค่มาเยี่ยมไข้ ผู้มีสิทธิรับมรดกในลำดับแรก ตัดผู้รับมรดกในฐานะพี่น้อง ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามสภาพความเป็นจริงที่เราต้องยอมรับ
- สิ่งดี ๆ ย่อมเกิดขึ้นหากคนที่เราเลือกเป็นคนดี ดีกับเราและกับพี่น้องเรา เราก็เหมือนมีญาติสนิทเพิ่มอีกคน และยังครอบครัวของเขาที่เราจะได้พึ่งพาอาศัยกัน
- สิ่งท้าท้ายคือการเปลี่ยนแปลงที่เราต้องยอมรับดังกล่าวมาแล้วค่ะ
- ตอบตามประสบการณ์นะคะ จะแวะมาฟังเฉลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะะ
555 กทน. Sila Phu-Chaya เข้าเป้า ครับ เข้าเป้า ประสบการณ์เป็นของแท้แน่นอน ดีมาก ๆ ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ตอบกันมาทุกท่านครับ
งานนี้ไม่มีผิดมีถูก ตอบเมื่อไร รับพรจากตัวเองไปทันทีนะครับ 555 แล้ว้ผมจะเกาะติดตอบไปทุกท่านครับ ประสบการณ์ดี ๆ หรือ อะไรที่เป็นสิ้งท้าทาย ที่พูดเหมือนชาติชาย ชุณหวัณ อดีตนายกพูดว่า "ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา" แม้ว่าคนทั่วไปบอกว่า มันมีปัญหาจริง ๆ ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะมันเริ่มที่กำลังใจ ภายในตัวเอง
หากคิดอะไรแล้วห่อเหี่ยว ก็ใคร่เล่าที่จะได้รับ ตัวเองอีกแหละ ที่พูดมานี้ กลุ่มเป้าหมายสุดท้ายที่จะให้ถึง คือเด็ก ๆ เด็กซิ่ง เด็กแว้นท์ สะก๊อย เด็กตีกัน ผูกคอตาย และปัญหาสารพัดของเด็ก ๆ ลึก ๆ ลงไปแล้ว ก็มาจากไม่เข้าใจปัญหา ไม่เข้าใจชีวิต ใช่ไหมครับ
ท่านที่มาอยู่กันใน กทน.นี้ คงพ้นปัญหาเหล่านี้ มาแล้ว แต่คนรอบข้างยังมีอีกมากมาย ที่คิดว่าจะทำอย่างไร ช่วยกันให้เขาเข้าใจชีวิต คิดอะไรที่เป็นบวกนะครับ
ผมตอบเหมาทุกข้อเลยครับ ผมว่าชีวิตเหมือนกับการเดินทาง คนที่เราพบเจอก่อนคือเพื่อนร่วมทางตอนนั้น แล้วเราก็ต้องเดินทางต่อ แล้วเราก็พบเพื่อนร่วมทางใหม่ครับ
ผมว่าเราทุกคนเป็น "time traveler with one-way ticket" ครับ
555 แหมะ!!! ตอบแบบ ดร.เลย ขอบคุณครับ ดร.
ครับ... พบเพื่อนเดินทางใหม่ มันท้าทายมาก เด็ก ๆ พบกับแม่เลี้ยง หรือ พ่อเลี้ยงใหม่ หากร่วมกันเดินทางไปได้ ก็ถือว่าสุดยอด
ถ้าเดินร่วมกันไปไม่ได้ หรือ ไม่แน่ใจว่าเขาจะเดินไปได้ ก็ต้องให้เด็ก ๆ มาทบทวนทำความเข้าใจชีวิต เสียใหม่ ว่าชีวิตต้องมีการเปลี่ยนแปลง จะทำอย่างไร จึงจะเดินไปให้ได้ไม่ว่าจะเดินไปกับใคร ถ้าทำได้ นั่นคือความสุขที่บันดาลได้ด้วยตัวเอง
อ่านชื่อบันทึกนี้แล้วเหมือนจะตรงกับสิ่งที่คิดเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ว่าชีวิตตัวเองเดินทางมาไกลมากจากจุดเริ่มต้น เมื่อเพื่อนสมัยเรียนนัดเจอกันแล้วพูดถึงเวลาว่าผ่านมาแล้ว 32 ปี ทำให้ฉุกคิดว่า นานขนาดนั้นเลยหรือ พอเริ่มต้นเลข 5 ก็ยิ่งทำให้คิดย้อนเวลาบ่อยขึ้น มีจุดเปลี่ยนมากมายที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน (เพราะเป็นคนไม่ชอบวางแผนนานๆ) พบว่าการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คือสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยค่ะ สิ่งที่ท้าทายก็คือ การสร้างมุมมองที่ดีในทุกๆเหตุการณ์ที่เราต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดี พบว่าในชีวิตเรามีหลายสิ่งหลายอย่าง หลายคนหลายปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องกับเราเหมือนมีอะไรลิขิตไว้แล้ว ก็เลยไม่ต้องตอบเป็นข้อๆเลยค่ะ ตอบอย่างเดียวว่า มองทุกอย่างในมุมบวก และทำสิ่งที่ต้องทำตรงหน้าให้ดีที่สุด ไม่ต้องกังวลกับอนาคต ไม่ต้องพะวักพะวงกับอดีต เพราะเราทำอะไรไม่ได้แล้ว
ชอบหัวข้อนี้ค่ะ
ที่ กทน.ชลัญธร พูดถึงละครน้ำเน่านั้น ทำไมยังทำมาให้ดูกันได้ ทำไมยังมีคนชอบ มันดูง่าย เข้าใจง่าย คล้าย ๆ กับชีวิตเรานี่หว่า
ฟอร์มของละครที่ว่า ก็จะมีตัวอิจฉา นางร้าย ทะเลาะเบาะแว้งกันไปมาระหว่าง พี่น้อง เขยสะใภ้ แย่งสมบัติ หรือ ไม่ก็โกงกันไปมา มันสะท้อนอะไร ถ้าไม่สะท้อนว่า ผู้คนส่วนหนึ่งยังไม่เข้าถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต ยังไม่เข้าใจว่า จะเดินทางกันไปอย่างไรให้เดินไปอย่างมีความสุข ไม่ใช่เดินไปบนเส้นทางของละครน้ำเน่า
พุทธศาสนา ต้องใช้ปัญญา ทำไมพุทธศาสนา ยังเข้าไปไม่ถึงจิตใจ ทำไม ทำไม เพราะไสยศาสตร์มาแรงกว่าไชหรือไม่ หรือเพราะว่า เราเน้นพิธีกรรมมากไปหรือไม่ หรือ น่าจะเป็นเพราะอะไรอีก
กทน. โอ๋-อโณ ตอบได้ถูกใจจริง ๆ
".......สิ่งที่ท้าทายก็คือ การสร้างมุมมองที่ดีในทุกๆเหตุการณ์ที่เราต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดี...."
ถ้าเด็ก ๆ หรือ แมผู้ใหญ่บางท่านเข้าใจ ซึ้งใจในข้อนี้ ก็เป็นหนทางที่ถึงสุขได้แน่แท้
ผมเชื่อเหมือนกับ กทน. โอ๋-อโณ เลยครับ
สวัสดีท่านลุงชัดนะเจ้า....
แว่ะอ่านแล้วคิดถึงตอนทำงานร่วมกัน....สบายดีบ๋อ...ว่างๆไปแอ่วแหล่งเรียนรู้ผะหญาล้านนาบ้างเน้อ....มีน้ำสมุนไพรเลี้ยงอิ่มแปร้เลย...
เห็นภาพในเนตนี้..อุ๊ยหล่อจัง.....นึกว่าหนุ่มเอ๊า๊ะๆ...
ขอให้สบายๆต่อไป....อย่าได้มีสิ่งรบกวนใจให้เสียความรู้สึก....อายุมั่นยืนยาว...
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา
สวัสดีครับ ท่านพี่นิคม ภูมิปัญญาไทยถิ่นลานนา ไปอบสมุนไพรที่บ้านของท่านอาจาย์พี่ในคราวนั้น สุดยอดครับ
ก็จะตอบแสดงความคิดเห็นทั้ง 4 ข้อ ดังนี้ครับ
1. เมื่อลูกกลายเป็นสามีภรรยาของคนอื่น
สิ่งดี ๆ
-จะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที่
-จะได้มีหลาน
-จะได้สะใภ้ หรือ เขย ไว้ประดับบ้าน
ฯลฯ
สิ่งที่ท้าทาย
-การอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
-การประสานเชื่อมโยงให้ทุกคนที่เข้ามาใหม่ ให้อยู่ร่วมกันได้
-การนัดหมายให้มีการพบปะกันพร้อมหน้ากันบ้างในบางโอกาส
-การไปร่วมงานร่วมกิจกรรมของฝ่ายเขย สะไภ้ ตามความเหมาะสม
ฯลฯ
2. เมื่อพี่ และ หรือ น้อง กลายเป็นสามีภรรยาของคนอื่น
สื่งดี ๆ
-ความยินดีที่ได้สมาชิกใหม่ของครอบครัว
-ความยินดีที่จะได้มีหลาน ๆ ไว้ประดับบ้านให้ปู่ย่าตายายได้ชื่นใจ
ฯลฯ
สิ้งที่ท้าทาย
-การพูดคุย พึ่งพาอาศัยกันให้ได้กับน้องเขยน้องสะใภ้สมาชิกใหม่
-การเข้ากันให้ได้ กับเครือญาติที่อาจจะหลากหลาย ตามสถานการณ์ หรือในโอกาสที่เหมาะสม
ฯลฯ
3. เมื่อเรากลายเป็นสามีของคนที่เพิ่งมารู้จักภายหลังพี่น้อง
ที่คลานตามกันมา และเคยพากันวิ่งเล่นหยอกล้อ
สิ่งดี ๆ
-เป็นความโชคดีของชีวิตที่ได้เธอมาเป็นสามี หรือ ภรรยา
-จะได้ตั้งหน้าตั้งตาสร้างความฝันจากความรักต่อกันให้เป็นจริง
-จะได้มีทุกสิ่ง ที่ปรารถนาร่วมกัน
ฯลฯ
ความท้าทาย
-การประสานให้สามีเข้ากันได้กับญาติพี่น้องของตัวเอง
เข้ากันได้
-การยึดสามี ภรรยา เป็นหลักชีวิต และจะป้องกันความผิดใจ
บาดหมางในเรื่องต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
-จะเลือกรับรู้สิ่งดี ๆ ที่สร้างสรรค์ เข้ามาพูดจากกันในครอบครัว
-สิ่งเลวร้าย ผิดกฏหมายที่คนของฝ่ายของสามี ภรรยาเข้าไปยุ่งเกี่ยว
จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
4. เมื่อแม่ หรือ พ่อ ไปมีสามี หรือ ภรรยาใหม่
4. เมื่อแม่ หรือ พ่อ ไปมีสามี หรือ ภรรยาใหม่
(ตามที่เรียนในตอนตอนต้นแล้วว่า บันทึกนี้ มีเจตนาที่จะให้ได้ข้อคิดไปใช้กับเด็ก ๆ เป็นสำคัญ
ข้อนี้ คิดตามประสาผู้ใหญ่ ที่คิดแทนเด็ก ๆ เพื่อเป็นแนว ในการนำไปนำให้เด็ก ๆ ลูกหลาน หรือ นักเรียน เกิดความเข้าใจในชีวิต โดยใช้หลักการใด ๆ ที่ไม่ใช้การบอก ให้เชื่อ หรือ ปฏิบัติตามความคิดเห็นของตนเองที่เป็นผู้ใหญ่ และไปคิดแทนเด็ก ที่มี สภาวะต่างจากตัวเอง )
สื่งดี ๆ
-พ่อแม่จะได้มีความสุข ดีกว่ามาทนทุกข์ในการอยู่ร่วมกัน
-เราจะได้เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่ แม้จะเห็นได้ไม่พร้อมกัน
ฯลฯ
ความท้าทาย
-เราต้องทำใจให้ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของพ่อแม่ ที่เรารักทั้งสองฝ่าย
-เราต้องไม่ถือเป็นปมด้อย ให้เสียเวลา และน้ำตา
-เราต้องคิดว่าสิ่งที่สำคัญกว่าในชีวิต คือ ต้องไม่คิดอะไร ที่ทำให้ตัวเองช้ำใจ เรามีทางไปของเราอีกมากมาย
-คนที่มีปมด้อย เพราะพ่อแม่หย่าร้าง ล้วนสร้างปัญหาให้ตัวเอง เราจะต้องไม่เอาอย่าง โดยเด็ดขาด
ฯลฯ