ไม่แข่ง...แต่ชนะ


ไม่ได้ดีีหรือชั่ว แพ้หรือชนะ เพราะการตัดสินของใคร

  การแข่งขันเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่มันมีอิทธิพลเข้าไปอยู่ในจิตวิญญาณลึกซึ้ง แม้มิได้มีการพนันขันต่อให้เห็นจะจะ แต่มันก็ชัดเจนอยู่ภายในลึกๆ เมื่อคิดจะทำการสิ่งใด จะต้องมีเงื่อนไขโดยไม่รู้ตัวว่า ทำเพื่อเทียบกับอะไร กับใคร เท่าไหร่ เช่นนี้เสมอ สิ่งแวดล้อมก็รุมเร้าให้เข้าใจว่า ต้องแข่งขันกันนะ ความสำเร็จของงาน ของชีวิต ต้องดีเด่นกว่าใครๆ จึงจะถือว่าเยี่ยม

 บางครั้งก็เป็นการทำอะไรที่แข่งกับเวลา เมื่อได้เวลามาก็ต้องรีบร้อนทันที เมื่อจิตได้รับการฝึกแบบนี้จนเคยชิน จึงไม่มีสักภารกิจ ที่จะทำด้วยความผ่อนคลาย ความรีบร้อนเร่งเร้านั้น เป็นตัวปั่นให้ใจเรากระสับกระส่าย ขมึงตึงเครียด ส่งผลให้กล้ามเนื้อและร่างกายแข็งกระด้าง ไม่เหมาะแก่งานที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน แต่เราก็ไม่รู้ตัว กลับคิดว่านี่แหละความตื่นตัวกระตือรือร้น ดูเข้มแข็งมีพลัง

 หารู้ไม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกลับเป็นสิ่งบั่นทอนกำลังชีวิตลงไปเรื่อยๆ ถ้าหากเราต้องทำงานที่เสี่ยงมากๆในเวลาที่จำกัด แล้วเราก็ลงมือทำด้วยร้อนลนตามเคย จิตใจที่ผ่าวร้อนเพราะเคมีในร่างกายกำลังพุ่งพล่านไม่เป็นระเบียบ มือไม้สั่นเทายึดจับอะไรไม่มั่นคง ความคิดก็เร่งรัด. ระบบการทำงานดูเป็นเส้นคดโค้งกว่าจะถึงที่หมาย เมื่อนำมาขึงตรงเทียบกับระยะเวลาที่ได้ อาจไม่ทันการ หรือหมดเวลาเสียก่อนจะถึงจุดหมาย 

 ต่างกับใจที่เยือกเย็น ในสถานการณ์เดียวกัน เมื่อความเย็นเข้ามาความร้อนย่อมสูญเสียไป การอยู่กับตัวตนอย่างจริงจัง จะเกิดสติ มองเห็นสรรพสิ่งได้แจ่มชัด เกิดแผนการที่เป็นเส้นตรง ไม่มีสิ่งเร้ามากระตุ้นความหวั่นไหว ร่างกายจะปรับสมดุล การหายใจเข้าลึกๆ แทนการทอดถอนหายใจเสมือนได้เติมอาหารอันวิเศษให้นำไปหล่อเลี้ยงชึมซาบใช้ได้ทันที เกิดพลังภายในลึกๆ เมื่อสติจดจ่อกับงานที่ทำ และดำเนินไปทีละก้าว ทีละก้าว โดยไม่ข้องแวะแข่งขันกับสิ่งใด หรือผู้ใด แต่การได้ทำเช่นนี้เพียงชั่วขณะต่อชั่วขณะ เมื่อต่อเนื่องยาวนาน และเกิดมหาสติเมื่อใด จะพบว่าการเดินทางสู่จุดหมายนั้น เป็นไปอย่างนุ่มนวล เบิกบาน แจ่มใส ราวกับเกิดสิ่งมหัศจรรย์ทันใด

 แต่ก็เป็นสิ่งยากที่จะปรับเปลี่ยนทางเดินของใจให้พลิกเป็นตรงกันข้ามเช่นที่กล่าวมานี้ แม้จะเห็นคุณ แต่ความเคยชินก็จะมาชิงช่วงเวลาสำคัญไปเสมอ แต่ผู้เขียนเชื่อในความเป็นคนจริงทำจริง เอาใจใส่กันจริงๆ คนที่มีธาตุทำพิเศษอย่างนี้ สร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้เสมอ

 หยุดความรู้สึกที่จะต้องแข่งขันกันสักครั้ง หยุดความเร่งรีบที่ตอบตัวเองไม่ได้ว่าจะรีบไปทำไม และเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเอง อย่างเป็นเรา ไม่ได้ดีหรือชั่ว แพ้หรือชนะ เพราะการตัดสินของใคร วันนี้เป็นวันที่เราจะยอมออกจากสนามการแข่งขันทั้งปวงสักวัน แล้วจะพบว่าไม่แข่งกลับได้รับชัยชนะอย่างขาวสะอาดและไร้เงื่อนไขนั่นคือการชนะใจตัวเอง ซึ่งดีที่สุดแล้ว

 เป็นกำลังใจให้บุคคคลผู้มีธาตุธรรมพิเศษชนิดนี้กันทุกคนนะคะ

 

  

หมายเลขบันทึก: 492211เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 09:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน 2012 18:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

หลายครั้งหลายหน ที่แข่งกับใจตนเอง ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาตลอด

สวัสดีค่ะคุณทิมดาบ การไม่แข็งขันบ้างก็ว่าทำให้เกิดการพัฒนา แต่ถ้าการแข่งขันนั้นทำเพื่อให้ชนะเพียงอย่างเดียว ใจมันจะรู้สึกมืดๆอย่างไรก็ไม่รู้เนาะ ขอบคุณดอกไม้กำลังใจค่ะ ขอส่งมอบตอบแทนไปด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะคุณวอญ่านักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นการค้นหาความเหมาะสมควรของตัวเองนะคะ นับเป็นความพิเศษทีเดียวที่ทำได้เช่นนี้ เพราะเสียงภายในของเรา ย่อมเป็นไปอย่างเมตตา ไม่ทำร้ายตัวเองแน่นอน แพ้หรือชนะ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น ไม่มีใจตก เหมือนคำตัดสินจากคนอื่นนะคะ ขอบคุณค่ะที่ร่วมแบ่งปัน

สวัสดีค่ะพี่รุ่ง

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนี้ค่ะ
  "การอยู่กับตัวตนอย่างจริงจัง จะเกิดสติ มองเห็นสรรพสิ่งได้แจ่มชัด "
  "การหายใจเข้าลึกๆ แทนการทอดถอนหายใจเสมือนได้เติมอาหารอันวิเศษให้นำไปหล่อเลี้ยงชึมซาบใช้ได้ทันที เกิดพลังภายในลึกๆ" ชอบค่ะ ลองฝึกแล้วได้ผลค่ะพี่รุ่ง

สวัสดีค่ะคุณถาวร ขอบคุณค่ะคุณถาวร มาหายใจเข้า หายใจออก แล้วนำมาเล่าสู่กันฟังดีกว่านะคะ พี่ชอบอ่านของคุณถาวรเช่นกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท