ตัวเอง วันนี้..


พบตัวเองจากภาพลูกศิษย์ความสดใสในวัยเขากับวัยเรา ความมีชีวิตชีวาบอกถึงความหวัง ซึ่งเราเหลืออยู่กี่มากน้อย?เดือนปีที่ผ่านทำให้ยินดียินร้ายลดลงไม่ว่าสุขหรือทุกข์เมินเฉยได้มากขึ้นหลายครั้งพอมองออกอะไรกำลังจะเกิด บางครั้งจึงดูเฉื่อยชา..

ประสบการณ์ทำให้ขาดความกล้า นับวันยิ่งแวดระวังเมื่อความผิดพลาดจากความวู่วามเคยเกิดขึ้นแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทำอะไรจึงเห็นแต่ปัญหาความสำเร็จมักจะเลือนราง ขนาดทั้งชีวิตพลาดโอกาสดีๆมาก็มากไม่เพราะความละเอียดรอบคอบดอกหรือ?

วันนี้ความร่าเริงและความกล้าตัวเองหายไปหายไปกับเวลาที่ล่วงเลย..

เวลาที่ไม่เคยปรานีใคร(ฮา)

(ภาพประกอบ : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา2555)

หมายเลขบันทึก: 491239เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 09:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม 2021 00:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
  • ตามมาให้กำลังใจ
  • ความกล้าเกิดได้เสมอ
  • ทำอะไรก็ได้่ที่เรามีความสุข นักเรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ
  • บางครั้งสิ่งที่เราทำถึงจะเล็กน้อย
  • แต่มันสามารถใหญ่ได้ในใจเราเสมอ
  • สู้ๆๆครับ
  • กล้าคิด...กล้าทำ...ทำในสิ่งที่ดีๆๆนะคะ

..อย่าเพิ่ง"แก่"..กับเวลา...."กล้า"..เพราะ.เวลา..ไม่ได้..ล่วง..โรย..อย่างที่คิด...(ผิด)...ที่เวลา..ไม่รอ.ปราณี..ใคร..๕๕๕๕...(ยายธี)

เด็ก ๆ น่ารักจังเลยค่ะ

ใครหนอฝีมือถ่ายภาพ ช่าง โอ  เหลือเกินคร้า

อยู่กับเด็กๆ น่าจะทำให้อาจารย์ยิ้มได้ง่ายนะคะ เพราะเด็กๆๆ เขายิ้มง่าย หัวเราะง่าย น่าจะเป็นโรคติดต่อนะคะ :)))))

สุขสันต์วันศุกร์ค่ะ

อ.ธนิตย์ที่เคารพ

พี่เข้าใจทุกตัวอักษรของอาจารย์นะคะ เพราะพี่เองก็เคยรู้สึกแบบนั้น "บางเวลา"  และพบว่ามันมีแต่ผลเสีย เพราะ

- ทำให้พี่หยุดอยู่กับที่ (ในงาน)

- จมกับความคิดตัวเองมากเกิน  จนคิดนอกกรอบไม่ได้

ผลเสียทั้งสองข้อข้างบนมันทำให้พี่ "หมดพลัง" ที่จะคิดอะไรดีๆ คิดอะไรสนุกๆ

แต่พี่มีวิธีดึงเอา "ความร่าเริง และ ความกล้า" กลับมาด้วยการ

- หยุดเรื่องที่คิดหมกมุ่น ไปทำอย่างอื่น  เช่น ไปดูหนัง(โรง) แทนดู DVD  หยิบหนังสือเก่าๆ ในตู้มาอ่าน  ออกไปนั่ง "กินหรู" กัน 2 ตายาย ฯลฯ

- ถ้า "ตัน" เรื่องงาน  พี่จะพับงานเก็บไว้สักพักใหญ่ๆ หยิบมาอ่านใหม่ ก็เห็นทางใหม่ทุกครั้งไป  (ถ้ามีโอกาสพี่จะเล่าเรื่องที่พี่รายงานหน้าชั้นเรื่องหนึ่งในชั้นเรียนคณะครุศาตร์ จุฬา)

- มองหาเรื่องที่จะช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา  อย่างพี่นี่พอได้ไปช่วยทำงานตรวจคนไข้โรคเรื้อรัง ที่เขามีปัญหาสารพัดรุมเร้า  คุยกับเขา ช่วยเขาคิดหาทางออก พอได้เห็นแววตาสดใสของคนไข้ ของญาติ มันก็กลับมาเติมพลังที่เหือดหายของพี่กลับมาอีกครั้ง

- อ่านหนังสือของอ.ประเวศ วะสี  หนังสือของอาจารย์เกือบทุกเล่ม  เป็นหนังสือที่ปลุกพลังคิดบวก คิดดี ให้คนอ่าน  ตั้งแต่สมัยพี่สาวๆ เวลาที่ถึงทางตัน หรือเศร้าหมอง จะหยิบหนังสือของ อ.ประเวศมาอ่านค่ะ

พี่ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดนะคะ

เมื่อ 3 เดือน เป็นช่วงที่พี่ "หมดพลัง" น้องสาวเอาตั๋วละคร "สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล" มาให้ 2 ใบ  เรา 2 ตายายก็ไปนั่งดู  โอ้โฮ...กลับมานี่ควานหาหนังสือสี่แผ่นดินในตู้..ไม่พบ  สั่งซื้อใหม่ยกชุด แถมสั่งซื้อแจกหลานๆ   อ่านรวดเดียวจบอย่างมีความสุข  พอจบแล้วยังไม่อิ่ม  ไปรื้อเอาหนังสือที่เกี่ยวเนื่องกับสี่แผ่นดินมาอ่านอีก 2 เล่ม  "พลัง" ก็กลับมา 

พี่กำลังได้ข้อสรุปว่า  ความคิดความอ่านของคนเราพัฒนาไปตามวัยจริงๆ พอย้อนกลับไปทบทวนพบว่า เวลาเปลี่ยนไป  ความคิด วิธีคิดเราเปลี่ยนไปจริงๆ แต่แก่นแกนความเป็น "ตัวตน" ของเรายังอยู่ 

พี่เชื่อว่าการได้ทำงานกับคนอายุน้อยๆ นี่จะช่วยกระชากวัยเราลงมาได้แน่นอน

พี่ละอิจฉา อ.ธนิตย์ นิดๆ ค่ะ ตรงที่ได้อยู่ใกล้ชิดน้องๆ ลูกๆ วัยใสเจี๊ยบ  จะได้เก็บเอาวิธีคิดที่ใสซื่อมาปรับสมดุลวิธีคิดที่ยืดยาดอืดอาจติดกรอบของคนใกล้แก่ได้บ้าง

บันทึกสั้นๆ ของอาจารย์ทำให้พี่ได้ทบทวนตัวเอง มองเห็นจุดอ่อนของตัวเองเยอะ

ส่งความรักและปรารถนาดีมาพร้อมบันทึกนี้นะคะ

 

สิ่งที่รับรู้ได้จากบันทึกนี้และความเห็นของพี่ nui คือความอบอุ่นค่ะ

เห็นรูปความร่าเริง ของลูกศิษย์ ที่อาจารย์นำมาประกอบกับเรื่องที่ดูเศร้านิดๆ แล้วตัวตนที่เด่นชัดของอาจารย์ ก็ยังคงความเป็น "ครูเพื่อศิษย์" อยู่นั่นเอง

... เมื่อความผิดพลาดจากความวู่วาม เคยเกิดขึ้นแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทำอะไรจึงเห็นแต่ปัญหา

และคุณครูสามารถแก้ปัญหา ที่ว่านับครั้งไม่ถ้วนได้ อะไรทำให้คุณครูผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ค่ะ

  • แว้บๆขึ้นมา หลังจากถ่ายรูปลูกศิษย์ในที่ปรึกษาครับอาจารย์..
  • ขอบคุณอ.ขจิตมากครับ
  • อายุมากเข้า ความกล้าที่เคยกล้า ก็เริ่มหดหายครับ (ฮา) 
  • ขอบคุณคุณดร.Somsriที่ให้เกียรติครับ
  • จริงๆไม่อยากแก่เลย อยากอยู่เหนือกาลเวลาครับ (ฮา)
  • ขอบคุณยายธีครับ
  • ถ่ายเด็กๆในชั้น เพื่อนำไปจัดบอร์ดในห้องเรียนครับอาจารย์..
  • ขอบคุณอ.อิงจันทร์ครับ
  • ทำงานอยู่ที่โรงเรียนทุกวันนี้ ที่ยังสุข สดชื่น และสมหวังได้ ก็จากบรรดาลูกศิษย์เหล่านี้แหละครับ ..โรคติดต่อจริงๆครับ
  • ขอบคุณคุณปริมครับ
  • ข้อคิดข้อเตือนใจจากพี่Nui ทำเอาผมอึ้งมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่ง.. 
  • หลังจากถ่ายภาพเด็กๆ ด้วยภาระหน้าที่ของครูประจำชั้น เพื่อให้พวกเขานำไปจัดบอร์ดในห้องเรียน ก็ได้คิดขึ้นมาแบบทันทีทันใดเลยครับ ว่าตัวเองหรือวัยเราเกินวัยเขาไปมากแล้ว ใครๆมักพูดถึงแต่ข้อเสียของวัยรุ่นว่าวู่วาม ขาดการยั้งคิด ความผิดพลาดจึงมักเกิดขึ้นได้ง่าย แต่อีกมุมหนึ่ง"ความกล้า"ก็เป็นข้อดีที่พวกเขามี บางทีจะทำอะไรสักอย่างคิดโน่นคิดนี่ ไตร่ตรองมากจนเกินไป ก็อาจพลาดโอกาสดีๆได้เหมือนกัน ซึ่งน่าจะนับเป็นข้อเสียของวัยผู้ใหญ่ก็ได้ ที่มักจะไม่ค่อยพูดถึงกัน ที่สำคัญเชื่อว่าผู้ใหญ่หลายคนบางคราวบางหน ก็น่าจะเกิดอารมณ์อย่างนี้บ้างเป็นธรรมดา แต่สำหรับตัวเองแล้ว รู้ตัวดีว่าเป็นเอามากครับ(ฮา) เมื่อเทียบกับแต่ก่อน.. 
  • อีกอย่างที่อิจฉาพวกเขาก็คือ ความสดใส ร่าเริง มองเด็กๆ คุยกับเด็กๆ ได้รับความสดชื่น หรือความมีชีวิตชีวามาจากพวกเขามากมายและบ่อยๆครับ ทำงานที่โรงเรียนที่ยังสุข สดชื่น และสมหวังได้อยู่ทุกๆวัน ก็มาจากพวกเขาหรือบรรดาลูกศิษย์เหล่านี้แหละครับ 
  • ความเห็นพี่Nuiในบันทึกนี้ทำให้ผมมีพลังเพิ่มขึ้นอีกมหาศาลเลยครับ ขอบคุณมากๆอีกครั้ง สำหรับความรักและความปรารถนาดีครับพี่..
  • ความผิดพลาดจากความวู่วามในอดีต นอกจากข้อเสียทำให้เราขาดความกล้า แต่ข้อดีก็ช่วยทำให้เราผิดพลาดน้อยลง อันเนื่องมาจากบทเรียนที่เราเคยได้รับนั่นเองครับ 
  • เห็นภาพตัวจริงอ.หมอป.จากคลิปวิดีโอที่ท่านศน.นำมาเสนอแล้วในวันมอบช่อดอกไม้..ยิ่งชื่นชมครับ
  • ขอบคุณอ.หมอป.ครับ 

ชอบความเห็น อ.ขจิต •ความกล้าเกิดได้เสมอ •ทำอะไรก็ได้่ที่เรามีความสุข นักเรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ •บางครั้งสิ่งที่เราทำถึงจะเล็กน้อย •แต่มันสามารถใหญ่ได้ในใจเราเสมอ ชีวิตที่เราออกแบบเอง ถ้ามีความสุขเพียงพอ ก็อย่าไปสนใจคนอื่นที่คิดแทนเรา...พี่เคยรู้สึกภูมิใจและเป็นฮีโร่ที่บางคนมองพี่ว่าต้อยต่ำ น่าเวทนา ...นาทีนั้นพี่แอบเห็นเขามีความสุขเป็นล้นพ้นที่รู้สึกดีกว่าเรามากมาย ไม่ว่าสุขหรือทุกข์เราเมินเฉยได้มากขึ้นจริงๆ เมื่อเวลาผ่านไป ....

  • คงเป็นความเคยชินจากที่เราพบบ่อยๆนะครับพี่ เมื่อประสบการณ์เราพอมองออกว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นเป็นลำดับต่อไป ทำอย่างนี้ผลลัพธ์ก็จะเป็นเช่นนั้นแล..ทำให้อารมณ์ความรู้สึกที่จะตอบสนองต่อเรื่องราวนั้นๆลดลงไป จะว่าเฉื่อยชาขึ้นก็ใช่ จะว่านิ่งหรือสุขุมลุ่มลึกขึ้นก็น่าจะใช่อีกเหมือนกัน 
  • ขอบคุณพี่กิติยาครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท