การเขียนในบันทึกก่อนๆนั้น ผมมีเจตนาที่จะให้เป็นหลักการเป็นหลักการเบื้องต้นในการพิจารณาพระกรุโบราณ
โดยให้ดูที่ความเหี่ยวให้เป็น
โดยนัยนี้
ผมจะพยายามชี้ให้เห็นว่า
เสมือนเด็กผอมตัวเหี่ยวอย่างไรก็ไม่เหมือนความเหี่ยวของผิวคนแก่ ถ้าเขาใจอุปมานี้ก็จะสามารถแยกพระโรงงานออกจากพระเนื้อดินแท้ๆได้
นอกจากความเหี่ยวแล้ว ในการดูพระเนื้อดินบางกรุที่มีเม็ดกรวด ทราย และแร่ต่างๆผสมอยู่ ยังต้องสังเกตลักษณะ ผิว และสีของเม็ดทรายมน
กล่าวคือ
นอกจากนั้น
ถ้าเป็นเนื้อที่ไม่มีทราย ก็ให้สังเกตการกร่อนยุ่ยเป็นชั้นๆ ตามลำดับได้แก่
ดังนั้น
เพราะลักษณะเนื้อดินที่เก่าจนเปลี่ยนสีไปแล้วนี้ จะเป็นเอกลักษณ์ของสีเนื้อพระที่เลียนแบบได้ยากมาก
จนเป็นที่มาของการกำหนดโทนสีของพระที่วงการนิยมเล่นกัน
เพราะเป็นการรับประกันความแท้ได้อีกทางหนึ่ง
พระนาดูน ที่มีความเหี่ยว และคราบกรุ
ยังมีรากไม้หุ้มด้วยผงปูนที่ยังทำเก๊ไม่ได้อีกด้วย
ลักษณะผิวเปิดของพระนาดูน ทำให้เห็นเนื้อในเป็นชั้นๆ
ลักษณะของทรายมน และร่องทราย
ที่หลังของพระชินราชใบเสมาเนื้อดิน
ลักษณะทรายมน ร่องทราย และคราบชั้นต่างๆบนผิวที่เหี่ยวของพระลีลากำแพง
ทรายมนและทรายกร่อน บนผิวพระคงลำพูน
ร่องทรายบนผิวของพระนางพญา พิษณุโลก
ไม่มีความเห็น