ผมเองเป็นอาจารย์ MBA โดยอาชีพ แต่อยู่บ้านนอก (ขอนแก่น เมืองที่ดินแพง) ครับ..มีโอกาส "ฟัง" วิชาการดีๆ..จากอาจารย์คนบางกอก อยู่บ่อยๆ..เร็วๆนี้ครับ..ก็เช่นเคยเรามีโอกาสได้ฟังการบรรยายจากจอมยุทธ์จากบริษัทชั้นนำของกรุงเทพ...
"เราบริการลูกค้า แบบสุดๆ..ถึงขั้นที่ลูกค้าขอร้านเรามาเป็นที่บอกรัก"...ทราบไหมครับ เราเช่าพื้นที่ทำศูนย์บริการ ระดับนี้...เอาแค่ค่าเช่านะ..20,000 บาทต่อตารางเมตร"
"สำหรับพนักงานนั้น เราคิดใหม่ทำใหม่ครับ เราทุบ office ใหม่..ถึงขั้นทำสนามบาสให้ ที่ตึกกลางกรุง"
"Software ของเรานะรวมกันกว่า 3,000 ล้าน เพื่อลูกค้า..."
"เรากำลังจะลงทุนอีก 1,000 ล้าน" เพื่อ software ตัวใหม่"
....
อย่างนี้ครับ...ประจำ..หลังจากอ้าปากค้าง..กับกลยุทธ์ที่เจ้าของวิชาพูด..มาดูเงินที่ลงไปกับกลยุทธ์แต่ละอย่าง..โอว..พระเจ้าช่วยกล้วยทอด...
...
ไม่มีเงิน นี่ท่าทางจะทำอะไรไม่ได้เลยนะ..เงินคือ พระเจ้า จริงๆ...นี่แหละหนา..เขาถึงเรียกว่า.."ทุนนิยม"
...
ในศาสนาแห่งทุนนิยม..พระเจ้าใช้เงินตราสร้างสวรรค์...
....
ผมเป็นอาจารย์ MBA สถาบันการศึกษาที่อุทิศตนทุนนิยมอย่างสุดขั้วครับ..ว่าแต่ผมคิดยังไงน๊า..
ตอนนี้ผมกำลังทำท่า "ครุ่นคิด" ครับ เปล่าทำท่าต่อต้านนะครับ ^__^)
...
ดีใจด้วยครับ..คิดอะไรก็สามารถทำให้เกิดจริงได้..ดีใจกับความสำเร็จของท่านจริงๆ..กับองค์กรของไทย..
(แต่เวลาอยู่ในเวทีระดับโลก..ตัวลีบจัง..ไม่ค่อยเคยเจอคนจากบริษัทดังๆของไทยไปนำเสนออะไรดีๆ ที่เกิดจากการ "คิดเอง" ให้ชาวโลกได้รับรู้ครับ..คงไม่ค่อยมีเวลาคิดอะไรเอง..เพราะต้องดูแลผู้บริโภคกันจนเหนื่อยอ่อน..เลยต้องซื้อเทคโนโลยี และพึ่งพาบริษัทที่ปรึกษากันซะหมด)
.....
ผมก็อยากเป็นอย่างนี้ครับ..ดูเนรมิตอะไรก็ได้..ด้วยเงิน..มีครับ..แต่สำหรับคนจน ประเภทส้วมจะพัง จะขุดส้วมใหม่ยังต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ (แล้ว รอบคอบอีก มั๊กๆ) อย่างที่ผม "เคย" เป็น
....
ผมเองเคยไม่มีอะไรอย่างแรง อยากทำอะไรก็ติดขัดไปหมด..สมัยผมเรียนปริญญาเอก..จะซื้อหนังสือที ก็แพงมากๆ..ความรู้นี่ก็ต้องใช้เงินนะครับ..หนังสือราคา 800-1500 ครับ..หนังสือที่เราต้องใช้...กัดฟันซื้อครับ..จะไปขอหน่วยงานซื้อ ก็อีกปีหนึ่ง ครับ..ถึงจะได้..จะขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเรื่อง website ก็เจอทำหน้าหงุดหงิด น้องที่นิสัยดีๆก็ยุ่งมากๆ..
....
เรียกว่าแม้จะมี "ชนชั้น" เป็นอาจารย์ แต่เนื่องจากตอนนั้นเรียนไม่สุด เงินไม่ถึง บารมีไม่ได้..ทำอะไรก็ "ไม่ได้จริงๆ"...นี่ครับ...อยู่ในโลกทุนนิยม..เลยดูประหนึ่งไร้ "ชนชั้น" ไปด้วยเอวัง ประการฉะนี้..
...
ครับ ต่อมาผมก็ไปเจอ website ของอาจารย์ David Cooperrider ครับ..ถึงอาจารย์จะอยู่ในมหาวิทยาลัย..ระดับโลก..แต่ก็ไม่เหมือนอย่างมหาวิทยาลัยอื่นๆ..(แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยของไทย)...อาจารย์ทำ website เผยแพร่ข้อมูลเรื่อง Appreciative Inquiry "ฟรี" ครับ ไม่เสียตังค์เลย..ผมเลยได้โอกาสเข้าไปศึกษา จนทำให้ผมทำ AI จนเป็น..ผมเลยได้แรงบันดาลใจครับ..คงมีคนจำนวนมาก ที่อาจกำลังเจอภาวะ..ส้วมจะพัง จะขุดส้วมยังต้องคิดแล้วคิดอีก..อยากยกระดับการเรียนรู้ ยกระดับชีวิตตนเอง..แต่ก็ทำไม่ได้เพราะ "ค่าความรู้" มันแพงเหลือเกิน..
...
เมื่อผมได้ดีเพราะของฟรี...ผมจะก็จะทำของ "ฟรี" แจกบ้าง..ครับผมเลยทำ website ชื่อ www.aithailand.org แจกความรู้ AI ฟรีแบบอาจารย์..โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย..แม้กระทั่ง website ก็เขียนเอง.....
ระยะหลัง..มีหน่วยงานจะให้ "ทุน"..กับผมมาสองสามครั้งแล้ว..ว่าจะให้ทำ website ใหม่ๆ สวยๆ..มีแม้กระทั่งคน คอย "ลง" ข้อมูลให้...เอาไหมอาจารย์
...
ผมเองก็ปฏิเสธไปครับ..ผมสนุกกับการทดลองใช้ของ "ฟรี" ครับ ใช้มันทุก app..เพื่อเป็นต้นแบบให้ผู้สนใจที่มีความรักในการเรียนรู้..แต่ยังไม่ตังค์ ไม่มีบารมี..อยากทำอย่างผมบ้าง..ก็จะเห็นหนทางครับ..เดินตามเส้นทางนี้ได้ไม่ยาก..
....
website ของเราเป็นที่รวมข้อมูล กรณีศึกษาจากการปฏิบัติจริงๆ โดยชาวชุมชน มีการวัดผลจริง..ลองดูตัวอย่างได้ www.aithailand.org ครับ..เรามีกรณีศึกษาจำนวนมาก..ที่ดูให้ดีนะครับ..สามารถสร้างยอดขาย หรือลดต้นทุนได้จริงๆ..โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากๆ..ส่วนใหญ่ไม่ต้องลงทุนเลยด้วยซ้ำ..แต่ได้ผลดีเท่าๆ..หรือ "มากกว่า" การใช้เงินครับ...
....
เครือข่ายของพวกเราจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง สำหรับคนรักดี..แต่ยังไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจวาสนาจะไปสั่งใคร ไหว้วานใคร..เรามีประสบการณ์ตั้งแต่ร้านกาแฟเล็กๆ..จนถึงบริษัทที่กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ครับ..ที่เป็นกรณีศึกษาจริงๆ..ใช้ทุนต่ำมากๆ...หรือไม่ได้ใช้เลยแต่ได้ผลสูงครับ...
....
"คนรักดี..จะมีที่เดิน..เสมอ...แล้วจะเป็นทางเดินที่ดีด้วย"
...
เราเชื่ออย่างนี้ครับ
AI Thailand เราจึงมีพันธกิจสี่ประการคือ สร้าง สาน สลัก สละ ครับ...
ตอนนี้เป็นเรื่องของการ "สลัก" ครับ..เรา สลัก เรื่องราวดีๆ..การเปลี่ยนแปลงดีๆ ที่ใช้ต้นทุนต่ำ หรือไม่ใช้เลย ...แค่เปลี่ยนกระบวนการเล็กๆ บางอย่าง..แต่กลับสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ..ครับ..เป็นตัวอย่างสำหรับผู้ที่สนใจสร้างการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีทุน ไม่มีบารมี แต่มีความตั้งใจดี
....
ย้อนกลับไปในวิชา Balanced Scorecard...กลยุทธ์เริ่มจาก Motivation หรือแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์...
....
เริ่มจากแรงบันดาลใจ หรือ Passion ครับ..
...คนเราถ้ามี passion เราจะสามารถสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาเอง..ด้วยทรัพยากรที่แสนจะจำกัด จำเขี่ย...แต่ทำอะไรได้เยอะครับ..
...
อย่าเริ่มจาก KPI อย่างเดียว...ครับ..กลยุทธ์ของคุณจะต้องเข็นกันเหนื่อยแน่..เพราะอะไรมันก็จะถูกโยงเข้ากับเงินตรา..จนรัดตัว และรัดคอในที่สุด..ครับ..
ผมแนะนำครับ..เริ่มจาก Key Passion of each Individual (ผมคิดเองครับ..คือ Passion ของคนในองค์กรครับ) ทำอย่างไร จะกลับมาเล่าในตอนหน้าอีกครับ...
....
คุณล่ะ คิดอย่างไร
จริงค่ะ เงินไม่ใช่พระเจ้า
ชอบบันทึกที่อาจารย์เขียนจังค่ะ โดนนน..มากกก..ค่ะ