สวัสดีคะจำ ปองขวัญคนโก้ได้ไหมเอ่ย...วันนี้กลับมาพร้อมกับเรื่องราวซึ้งๆระหว่างพี่น้อง ท่านผู้อ่านอาจติ๊ต่างว่านี่คงเป็นเรื่องราวจริงๆ แน่ แต่ท่านรู้ไหมว่านิยายก็มีส่วนหนึ่งมาจากชีวิตและประสบการณ์ในชีวิตของเรานี่เอง ปองขวัญก็เพียงแค่นำบางส่วนของชีวิตของคนรอบๆ ข้างมาเขียนให้ขำๆกัน
เอ้าวันนี้เป็นเรื่องราวของ 2 พี่น้องลูกกำพร้า ปองขวัญพี่สาวกับป้อมน้องสาวจอมวีน ปองกับป้อมอายุห่างกัน 3 ปี พ่อตายหนีจากไปตั้งแต่ยังเล็กน้องสาวจึงจำหน้าพ่อไม่ได้ เคยถามน้องว่าฝันเห็นพ่อสักทีหรือเปล่า "ฮ่วย...ฝันเห็นดู๋อยู่แล้ว....ผู้ชาย แต่บ่ฮู้ว่าผู้ได๋เป็นพ่อ..." 5555 ก็จริงของเค้า
ปองกับป้อมเรียนเก่งไม่เท่ากัน ปองสามารถสอบชิงทุนเรียนสาธารณสุขได้ ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร ขอนแก่น (วสส.ขก) ป้อมจบ ม.3 หาที่เรียนไม่ได้เพราะไม่อยากเรียน เค้าเคยกระซิบบอกว่า.."อยากไปทำงานหาเงินมาช่วยแม่ ไม่อยากเรียนเพราะหัวเราไม่ดีเท่าเธอ"
ปองเป็นคนมองโลกในแง่ดี จนบางทีถูกคนอื่นเอาเปรียบ ทำอะไรก็พินอบพิเทา แม่ใช้ให้เก็บผักบุ้งหลังบ้าน ครึ่งชั่วโมงผ่านไปได้ผัก 1 กำ แต่ไอ้ป้อมมาแป๊ปเดียวมันได้เป็นกระบุง (แหมก็ผักมันยอดไม่อวบ ไม่สวยนี่นา ปองไม่ชอบ..เดี๋ยวกินไม่อร่อย)
ปองเรียนหนังสือเก่ง อยู่ ป.1 อ่านหนังสือต๋วยตูนจนจบเล่ม ว่างไม่ได้ก็หยิบหนังสือมาอ่าน ขนาดกินข้าวก็ยังเอาหนังสือมาอ่านในวงข้าว แต่ไอ้ป้อมหนังสือไม่ค่อยอยากจับ แต่พอใช้อะไรมันรวดเร็วยิ่งกว่าจรวด
ปองไม่ฉี่รดที่นอนตอนกลางคืน แต่ไอ้ป้อมทั้งคืนฉันจะหาที่นอนไม่ได้เพราะมันฉี่ก้นที่ไว้หมดเลย พอฉันโวยวายกับแม่ "แม่หนูไม่มีที่นอนแล้วนะแม่ ไอ้ป้อมมันฉี่เต็มพื้นที่ไปหมดเลยนะ" แม่ก็ออกมาจากมุ่งฉันก็นึกว่าแม่จะมาพาฉันไปนอนด้วย ที่ไหนได้แม่มาอุ้มเอาไอ้ป้อมไปนอนด้วย ปล่อยให้ฉันนอนดมฉี่น้องทั้งคืน ด้วยความน้อยใจฉันก็ร้องไห้และพลอยหลับไปทั้งน้ำตาและฉี่น้อง...
ด้วยความที่เราไม่มีพ่อ เราจึงรักกันมากมีประโยคหนึ่งที่เราสองคนยังจำได้ดี "ถ้าป้อมตายพี่ก็จะตายตามไปด้วย..." เมื่อฉันนั่งเล่นอยู่หลังบ้านฉันเห็นภาพเก่าๆลอยมา ตรงข้างลวดหนามตรงนั้นเคยมีต้นหมากสีดา เราชอบปีนไปเก็บมากินเป็นประจำ แต่ต้นมันค่อนข้างสูง ตากับยายจึงไม่ชอบให้เรามาเล่นปีนป่ายตรงนี้นัก
"ป้อมปีต้นไม้ดีๆนะเดี๋ยวจะตก" ฉันกล่าวด้วยความห่วงเพราะน้องสาวปีนอยู่สูงกว่าฉัน
"จ้า...แล้วถ้าป้อมตกต้นไม้ตายจริงๆละ.."
"พี่ก็จะตกตามนะซิ ป้อมจะได้ไม่เจ็บคนเดียว" แล้วเราก็หัวร่ออย่างสนุกสนานและมีความสุข
เราทั้งสองคนทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก เพราะต้องช่วยแม่หาเงินมาใช้ในครองครัวและใช้หนี้ วันเสาร์อาทิตย์พวกเราต้องไปไร่เพื่อปลูกมัน ตัดอ้อย เลี้ยงควาย แบกถุงปุ๋ย รดน้ำผัก ฯ บางทีก็เก็บมะขามเปรี้ยวมาดองขาย ฉันรู้จักวิธีหาเงินมาตั้งแต่เด็ก ฉันจึงมีความสุขที่จะทำอะไรก็ได้ที่ได้เงินมาด้วยความสุจริต ชีวิตของเราแทบจะไม่ได้พักผ่อน วันไหนไม่ได้ไปทำงานเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว เพราะเราจะได้เล่น ตานางงามกับลูกคุณครูข้างบ้าน ได้เล่นตานางแบบ เล่นละครโดยสมมุติว่าตัวเองเป็นนางเอก (ถ้าลูกครูบอกว่าฉันขอเป็นนางเอกนะ ฉันจะหมั่นไส้เล็กน้อย..เพราะฉันก็สวยไม่แพ้เธอหรอก..ฮือ..) แล้วก็เล่นตานางเงือกอันนี้เราเล่นสมจริงเพราะเราจะไปเล่นที่ฝายน้ำล้นท้ายหมู่บ้าน..555 เสร็จเรา..ก็อากาศมันร้อนมาก ร้อนจริงๆๆ แช่น้ำสักนิดชื่นใจ
ในช่วงลงนา ดำนา ฉันและน้องจะมีหน้าที่เลี้ยงควาย เช้ามาพาควายออกคอกกินหญ้าตามรายทางจนพุงกาง สายสักนิดแดดร้อนหน่อยเอาควายไปผูกหลักให้มันกินหญ้าตามสบาย ฉันก็เลือกที่ตรงใกล้แหล่งน้ำเพราะเวลามันหิวน้ำมันจะได้กินทันทีโดยไม่ต้องรอให้ฉันพามันไป ตกบ่ายแดดไม่แรงฉันกันป้อมจะพาควายไปกินหญ้าก่อนกลับบ้านในป่าเพ็ก ในโคกหญ้าสีเขียวๆ ที่แทงยอดออกมามันดูนุ่มและน่ากินจนบางทีฉันนึกอยากจะชอมดูว่ามันอร่อยแค่ไหน...ว๊ากกก..555 พอเดินทางมาถึงฝายน้ำล้นเราก็จะใช้เวลาที่นี่นานสักนิดเพื่อให้ควายได้อาบน้ำ ฉันกับน้องก็ถกขากางเกงขึ้นแล้วเอาฟางข้าวที่หาได้ตามทุ่งนามาขัดสีฉวีวรรณให้มัน แหมควายตัวดำๆ นี่เวลาอาบน้ำเสร็จแล้วผิวของมันจะเลี่ยมแล้แลไร หล่อซะไม่มี....ระหว่างทางกลับบ้านก็อีกไกลไม่ต่ำกว่า 2 กิโลเดินไม่ไหวแน่ เราจึงเดินข้างๆมันเพื่อรอให้ผิวมันแห้งดีแล้วค่อยปีนขึ้นไปขี่มันอีกที สิ่งแรกเมื่อไปถึงบ้านแม่ชอบถามนัก "อาบน้ำบักแอ๋ กับอีแตน ดีบ่" แหมอิจฉาควาย แม่นะแม่...พอมันเข้าคอกมันก็นอนกลิ้งเกลือกขี้ของมันอยู่ดีนั่นละ..
แหมพูดเกี่ยวกับเรื่องควายๆๆ นี่สนุกจริงๆนะคะ ถ้าเเพื่อนๆ นักอ่านทานใดมีความรู้สนุกๆ เกี่ยวกับควายเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ
ขอบคุณมากที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ราตรีสวัสนะคะ
น้ำตานี้จะช่วยให้ฉันเข้มแข็ง...ได้แน่นอนค่ะ..ให้กำลังใจนะค่ะ
ขอบพระคุณมากๆ นะคะ ยินดีและดีใจสำหรับดอกไม้คะ
..รออ่านเรื่องราวต่ออยู่นะครับ
ขอบคุณมากนะคะสำหรับกำลังใจ