สสค.เสริมความรู้ครูด้านไอที
หวังต่อยอดผลิตสื่อสอนศิษย์
สสค. หนุนครู-นักเรียน ใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารในการเรียนการสอนพร้อมจัดประกวดหนังสั้นจุดประกายแรงบันดาลใจ นำวิธีการไปผลิตสื่อการเรียนการสอน และเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะได้
นายสมศักดิ์ ขำอ่อน หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคเหนือตอนล่าง สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) เปิดเผยว่า จากการที่ สสค.ได้จัดประกวดผลงานหนังสั้นดีเด่นนั้น มีโรงเรียนที่ร่วมโครงการจำนวน 226 แห่งทั่วประเทศ เบื้องต้นแต่ละศูนย์ ได้คัดเลือกผลงานที่เข้ารอบรวมทั้งสิ้นประมาณ 50 เรื่อง โดยในส่วนของภาคเหนือตอนบน มีโรงเรียนส่งหนังสั้นเข้าประกวดจำนวน 36 เรื่อง คัดเข้ารอบ 7 เรื่อง และภาคเหนือตอนล่าง ส่งเข้าประกวด 30 เรื่อง คัดเข้ารอบ 6 เรื่อง
“ในรอบแรก แต่ละโรงเรียนต้องแสวงหาความรู้ เพื่อผลิตด้วยตนเอง แต่หลังจากเข้ารอบแรก ทาง สสค. จะจัดอบรมการสื่อสาร สร้างสรรค์งานวีดีทัศน์ ตามโครงการส่งเสริมนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาครั้งที่ 1 / 2555 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาเป็นวิทยากร ตั้งแต่การวางแนวคิด ไปจนถึงกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อพัฒนาศักยภาพของครูและนักเรียน ให้สามารถผลิตสื่อแบบง่ายๆ ความยาวไม่เกิน 8 นาที เผยแพร่สู่สาธารณะ หรือประยุกต์ เป็นสื่อการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้านนายชำนาญ ม่วงศรีศักดิ์ ผู้ประเมินผลโครงการส่งเสริมนวัตกรรมสร้างสรรค์แห่งการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษา 1/2553 สสค. กล่าวเสริมว่า หลังจากผ่านการอบรม ครูและนักเรียน ต้องนำความรู้ไปพัฒนา และปรับปรุงหนังสั้นของตนเองที่มีอยู่ในโรงเรียนให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ หรือคิดค้นหนังสั้นขึ้นมาใหม่ เพื่อนำไปประกอบการเรียนการสอน เพราะงานวีดิทัศน์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลในการ สร้างความรู้ความเข้าใจ ต่อเยาวชนและสังคมค่อนข้างสูง ถ้าสามารถนำความรู้นี้ไปปรับใช้ก็จะ สามารถผลิตสื่อเองได้ อันเป็นการสร้างโลกทัศน์ทางการศึกษาอีกทางหนึ่ง
สำหรับการประกวดหนังสั้นดีเด่นของ สสค.นั้น จะให้โอกาสโรงเรียนที่เข้ารอบกลับไป ปรับปรุงผลงาน และส่งเข้าประกวดรอบสุดท้ายถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2555 นี้ ก่อนพิจารณา และประกาศผลในระดับประเทศต่อไป
นายเกษม เป้าทอง นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2 กำแพงเพชร เล่าว่า รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมอบรมครั้งนี้ เพราะสนใจด้านการตัดต่องานวีดิทัศน์อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาต้อง เรียนรู้ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตทำให้เข้าใจไม่ลึกซึ้ง แตกต่างจากการอบรมครั้งนี้ มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาเป็นวิทยากร สามารถซักถามได้เมื่อไม่เข้าใจ ดังนั้นเมื่อกลับไปที่โรงเรียน จะพยายาม ปรับปรุงหนังสั้น ที่ทำไว้แล้วให้ดีขึ้น และคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการเรียนรู้คือสามารถ ผลิตรายงานด้วยสื่อวีดิทัศน์ ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจของการนำเสนอได้อย่างดียิ่ง
ทางด้าน รศ.ดร.จิราภรณ์ ศิริทวี ผู้ทรงคุณวุฒิ สสค. กล่าวว่า การอบรมการสื่อสารสร้างสรรค์งานวีดีทัศน์ตามโครงการส่งเสริมนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาครั้งที่ 1 / 2555 ซึ่งไปเปิดอบรมตามภูมิภาคต่างๆ ไปแล้วนั้น เนื่องจากภาพรวมของครูไทยมีความรู้ความเข้าใจและทักษะการใช้เทคโนโลยีไม่ค่อยดีนัก จึงเปิดกิจกรรมอบรมทางด้านนี้ โดยเฉพาะ"โครงการครูสอนดี" ที่ต้องสื่อสารทางเครือข่ายทางสังคม ( Social network) และทางจดหมายอิเลคทรอนิกส์ (E-mail) แต่พบว่ายังมีปัญหาอยู่ จึงเชิญคุณครูสอนดีที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์ไอซีทีชุมชนซึ่งมีประมาณ 25 ศูนย์ทั่วประเทศไทย เข้ารับการอบรม โดยจัดหลักสูตร 3 หลักสูตร ได้แก่ คอมพิวเตอร์พื้นฐาน, การใช้งานคอมพิวเตอร์ในโลกการสื่อสาร (Social Network) และไอซีทีกับการสร้างสื่อการเรียนรู้
ส่วนการประกวดหนังสั้นนั้น ถือเป็นกุศโลบาย เริ่มมาจากโจทย์ว่าจะสามารถวัดได้อย่างไรว่าคุณครูได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ได้เรียนไปพัฒนางานได้จริง ทีมผู้รับผิดชอบออกแบบการประเมินกิจกรรมและโครงการของสสค.จึงได้หารือกันและได้ข้อสรุปให้โจทย์ "หนังสั้น"แก่ครูไปดำเนินการแล้วส่งผลงานมารับการประเมินหลังจากครูได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆจากวิทยากรอย่างครอบคลุมแล้ว และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ครูที่อยากผลิตสื่อจึงจัดให้มีการประกวดขึ้น
"เท่าที่พบตัวอย่างจากต่างประเทศ อาจารย์มักปฏิเสธงานที่เป็นลายมือจากผู้ทำผลงาน ทำให้ทุกคนต้องพิมพ์งานส่งทางอีเมล์ ทำให้ทุกคนต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็น สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากนัก ทำให้ครูรุ่นเก่าโบราณมากไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งเป็นวามจำเป็นในปัจจุบัน”รศ.ดร.จิราภรณ์ กล่าว
โครงการที่ภาคอื่นๆมีหรือไม่คะ และจะมีโครงการต่อไปอีกเมื่อไรคะ น่าสนใจมากๆเลยค่ะ.