อุทาหรณ์ สอนเรื่องเผาฟาง


ความจริงตอซังและฟางข้าวนั้นมีแร่ธาตุและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อข้าวค่อนข้างมากถ้าไม่เผา

 

เหตุการณ์เผาตอซังฟางข้าวในแปลงนาของเกษตรกรอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จนส่งผลลุกลามเข้าไปในโชว์รูมรถนิสสันและร้านรับซื้อและขายของเก่ามูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท มีผู้เชี่ยวชาญทางกฏหมายออกมาวิเคราะห์ว่า ถึงแม้จะเป็นการเผาในพื้นที่ของตนเอง แต่ไม่ระมัดระวังมิให้เกิดความเดือดร้อนแก่ชีวิตทรัพย์สินของผู้อื่นก็จะมีความผิดในทางอาญาคือถูกจำคุก 7 ปีปรับประมาณ 70,000 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) และยังจะต้องรับผิดชอบความเสียหายในทรัพย์สินของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำในครั้งนี้ด้วย ก็รู้สึกเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะครับ ที่ต้องผ่านพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในลักษณะนี้
 
ต้องถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจพี่น้องเกษตรกรทั่วทั้งประเทศในการบริหารจัดการแปลงนาจะต้องมีความระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะกับสภาพภูมิอากาศที่ร้อนอบอ้าวมีวัสดุที่แห้งกรอบพร้อมติดไฟได้ง่ายอยู่หลายชนิด ต้องตรวจสอบแนวกันไฟและทรัพย์สินมีค่ารอบแปลงนาก่อนที่จะมีการเผาฟาง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้าง หรือพืชผัก พืชไร่ ของเพื่อนเกษตรกรก็ต้องดูแลระมัดระวังอย่าให้มีการลุกลามเผาไหม้เข้าไปสร้างความเสียหายในทรัพย์สินของผู้อื่น มิฉะนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่จบสิ้น สร้างความเสียหายให้กับตนเองและผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ
 
ความจริงตอซังและฟางข้าวนั้นมีแร่ธาตุและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อข้าวค่อนข้างมากถ้าไม่เผาเราจะได้ปุ๋ยไนโตรเจนเทียบเท่ากับปุ๋ย 16-20-0 หนึ่งกระสอบ, 0-0-60 หนึ่งกระสอบเป็นเงินก็เกือบ 2,000 บาท เพราะเมื่อย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยในแปลงนาแล้วจะได้ในโตรเจนอยู่ 7.6 และโพแทสเซียม 28.4 ต่อฟางข้าวที่ให้ผลผลิต 100 ถังต่อไร่ (IRRI ฟิลิปปินส์). นอกนั้นยังมีแร่ธาตุและสารอาหารอื่นๆอีกมากมายที่ช่วยให้ข้าวเจริญเติบโต ช่วยให้เราประหยัดเงินซื้อปุ๋ยและฮอร์โมนลงไปได้มาก เพราะรากข้าวจะดูดกินอาหารในดินที่ถูกปล่อยออกมาจากการย่อยสลายตั้งแต่เริ่มงอกต่อเนื่องไปตลอดการเจริญเติบโตของอายุข้าว
 
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
 
หมายเลขบันทึก: 486889เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2012 07:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 02:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ความจริงตอซังและฟางข้าวนั้นมีแร่ธาตุและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อข้าวค่อนข้างมากถ้าไม่เผาเราจะได้ปุ๋ยไนโตรเจนเทียบเท่ากับปุ๋ย 16-20-0 หนึ่งกระสอบ, 0-0-60 หนึ่งกระสอบเป็นเงินก็เกือบ 2,000 บาท เพราะเมื่อย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยในแปลงนาแล้วจะได้ในโตรเจนอยู่ 7.6 และโพแทสเซียม 28.4 ต่อฟางข้าวที่ให้ผลผลิต 100 ถังต่อไร่ (IRRI ฟิลิปปินส์). นอกนั้นยังมีแร่ธาตุและสารอาหารอื่นๆอีกมากมายที่ช่วยให้ข้าวเจริญเติบโต ช่วยให้เราประหยัดเงินซื้อปุ๋ยและฮอร์โมนลงไปได้มาก เพราะรากข้าวจะดูดกินอาหารในดินที่ถูกปล่อยออกมาจากการย่อยสลายตั้งแต่เริ่มงอกต่อเนื่องไปตลอดการเจริญเติบโตของอายุข้าว

เรียนท่านมนตรี ความจริงชาวนาหลายคนรู้น่ะว่า ตอซังมีปุ๋ยมีประโยชน์ แต่เพราะความง่าย ๆ จึงเผาปุ๋ย เผาเงินตัวเองไป

ผมฟังวิทยากรคุยให้ฟังตอนไปประชุม"การเตรียมความพร้อมกลุ่มเกษตรกรสู่อาเซี่ยน"ที่เขาค้อ เขาเล่าให้ฟังว่า การทำนาในอเมริกา เขาทำปี เว้นปี เพื่อให้ดินได้ฟื้นตัว บ้านเราทำปีละสามครั้ง

ใช่ครับ บ้านเราทำปีละสามครั้ง ไม่พักดิน เอาผลผลิตที่ติดแร่ธาตุสาอาหารจากดินออกไปเป็นตันๆ แต่ดันคืนปุ๋ยกลับมาสู่ดินเพียงไม่กี่กิโล!

เรียนอาจารย์มนตรี ช่วยเข้าไปแลกเปลี่ยนเกษตรไทยสู่ประชาคมอาเซี่ยนในบันทึกผมด้วยน่ะครับ เพราะอยากทราบแนวคิด ข้อมูลส่วนอื่นๆ นอกจากข้อมูลของอาจารย์ วิทยากร

...อ่านแล้วเข้าใจว่า...ปัญหา..ที่ว่า.".ทำไม"..บริษัทโชว์รูมหรือโรงงานต่างๆจึงไป..ตั้งอยู่ในที่ๆเขาทำนา..กันได้..แล้ว..ผิด..กฏหมายหรือเปล่า...(ยายธี)

สวัสดีครับคุณยายธี ใครอยู่ข้างเรา เราอยู่ข้างใคร ถ้าเป็นเพื่อนคนไทยด้วยกันก็ต้องหมั่นช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนแก่บุคคลอื่นครับ ตราบใดที่เรายังเดินห้าง ขับรถยนต์ ใช้เครื่องปรับอากาศ ดูทีวี ฟังวิทยุ ฯลฯ ทุนนิยมในรูปแบบต่างๆ ก็จะอยู่ใกล้เราเกือบทุกที่แหละครับจนไม่รู้ว่าผิดหรือไม่ผิดกฎหมายกันแน่!

@วอ-ญ่า-ผู้เฒ่า ขอขอบคุณ ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่ามากครับที่ให้เกียรติไปร่วมแจม ถ้ามีโอกาสจะนำความรู้อันน้อยนิดไปแลกเปลี่ยนและขอเรียนรู้ด้วยนะครับฮ่าๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท