ความจริงตอซังและฟางข้าวนั้นมีแร่ธาตุและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อข้าวค่อนข้างมากถ้าไม่เผาเราจะได้ปุ๋ยไนโตรเจนเทียบเท่ากับปุ๋ย 16-20-0 หนึ่งกระสอบ, 0-0-60 หนึ่งกระสอบเป็นเงินก็เกือบ 2,000 บาท เพราะเมื่อย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยในแปลงนาแล้วจะได้ในโตรเจนอยู่ 7.6 และโพแทสเซียม 28.4 ต่อฟางข้าวที่ให้ผลผลิต 100 ถังต่อไร่ (IRRI ฟิลิปปินส์). นอกนั้นยังมีแร่ธาตุและสารอาหารอื่นๆอีกมากมายที่ช่วยให้ข้าวเจริญเติบโต ช่วยให้เราประหยัดเงินซื้อปุ๋ยและฮอร์โมนลงไปได้มาก เพราะรากข้าวจะดูดกินอาหารในดินที่ถูกปล่อยออกมาจากการย่อยสลายตั้งแต่เริ่มงอกต่อเนื่องไปตลอดการเจริญเติบโตของอายุข้าว
เรียนท่านมนตรี ความจริงชาวนาหลายคนรู้น่ะว่า ตอซังมีปุ๋ยมีประโยชน์ แต่เพราะความง่าย ๆ จึงเผาปุ๋ย เผาเงินตัวเองไป
ผมฟังวิทยากรคุยให้ฟังตอนไปประชุม"การเตรียมความพร้อมกลุ่มเกษตรกรสู่อาเซี่ยน"ที่เขาค้อ เขาเล่าให้ฟังว่า การทำนาในอเมริกา เขาทำปี เว้นปี เพื่อให้ดินได้ฟื้นตัว บ้านเราทำปีละสามครั้ง
ใช่ครับ บ้านเราทำปีละสามครั้ง ไม่พักดิน เอาผลผลิตที่ติดแร่ธาตุสาอาหารจากดินออกไปเป็นตันๆ แต่ดันคืนปุ๋ยกลับมาสู่ดินเพียงไม่กี่กิโล!
เรียนอาจารย์มนตรี ช่วยเข้าไปแลกเปลี่ยนเกษตรไทยสู่ประชาคมอาเซี่ยนในบันทึกผมด้วยน่ะครับ เพราะอยากทราบแนวคิด ข้อมูลส่วนอื่นๆ นอกจากข้อมูลของอาจารย์ วิทยากร
...อ่านแล้วเข้าใจว่า...ปัญหา..ที่ว่า.".ทำไม"..บริษัทโชว์รูมหรือโรงงานต่างๆจึงไป..ตั้งอยู่ในที่ๆเขาทำนา..กันได้..แล้ว..ผิด..กฏหมายหรือเปล่า...(ยายธี)
สวัสดีครับคุณยายธี ใครอยู่ข้างเรา เราอยู่ข้างใคร ถ้าเป็นเพื่อนคนไทยด้วยกันก็ต้องหมั่นช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนแก่บุคคลอื่นครับ ตราบใดที่เรายังเดินห้าง ขับรถยนต์ ใช้เครื่องปรับอากาศ ดูทีวี ฟังวิทยุ ฯลฯ ทุนนิยมในรูปแบบต่างๆ ก็จะอยู่ใกล้เราเกือบทุกที่แหละครับจนไม่รู้ว่าผิดหรือไม่ผิดกฎหมายกันแน่!
@วอ-ญ่า-ผู้เฒ่า ขอขอบคุณ ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่ามากครับที่ให้เกียรติไปร่วมแจม ถ้ามีโอกาสจะนำความรู้อันน้อยนิดไปแลกเปลี่ยนและขอเรียนรู้ด้วยนะครับฮ่าๆ