วราภรณ์
นางสาว วราภรณ์ (ดอกไผ่) ธรรมทิพย์สกุล

ประสบการณ์ล้างพิษตับเพื่อสุขภาพ ตอนที่ ๒


"โรคภัยเข้าทางปาก ภัยพิบัติออกทางปาก"

ผู้เขียนขอเล่าประสบการณ์การล้างสารพิษตับต่อจากตอนที่แล้วนะคะ หลายท่านอาจยังสงสัยว่า ทำไมต้องล้างสารพิษตับแล้วคนปกติที่ไม่เป็นอะไรจะล้างได้หรือไม่ หาคำตอบได้ที่นี่ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=oe5VkxUSCVs&feature=relmfu


ต้นกำเนิดการล้างพิษตับเกิดจากแนวคิดของชาวเยอรมันคนหนึ่งชื่อ Andreds Moritz's ซึ่งมีปัญาเรื่องอาหารไม่ย่อยในวัยเด็กจึงคิดหาวิธีรักษาตนเอง และรักษาคนอินเดียมากว่า ๓๐ ปี


ปัจจุบันมีผู้สนใจล้างสารพิษในตับมากขึ้นและนำมาปรับประยุกต์ให้เหมาะสมโดยมีหลักสูตรที่ใกล้เคีียงกัน โดยปกติต้องใช้เวลายาวนานถึง ๖ วันจึงจะได้ผลดี ในส่วนของผู้ที่ไม่มีเวลาอาจปรับเป็นหลักสูตรระยะสั้นซึ่งผู้เขียนขอเล่าขั้นตอนจากประสบการณ์ตรงให้ทราบดังนี้

วันแรกงดอาหารตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. ดื่มได้แต่น้ำผลไม้และน้ำเปล่า จากนั้นให้ทำดีท็อกซ์ (การสวนล้างลำไส้) ในเวลาเย็น ๑๕.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. รับประทานยาระบายหรือดีเกลือเวลา ๒๐.๐๐ น.


วันที่สองเป็นวันล้างพิษ เริ่มจากตื่นนอนตั้งแต่ตีห้า ทำดีท็อกซ์ อมน้ำมะพร้าวเพื่อฆ่าเชื้อโรคในปากเป็นเวลา ๑๕ นาที จากนั้นก็ออกกำลังกาย แช่เท้าและพอกหน้าด้วยสมุนไพร ดื่มน้ำสมุนไพรล้างสารพิษ ๕ แก้ว


จากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย เวลาเก้าโมงเช้า กินยาชำระเมือกมันเพื่อล้างสารพิษจำนวน ๕ เม็ด

ระหว่างนี้รับฟังพลตรีจำลอง ศรีเมืองผู้นำอาวุโสอายุย่าง ๗๗ ปีแต่ดูเหมือนหนุ่มกว่าวัยเพราะผู้นำที่ดีมักดูแลสุขภาพของตนเป็นอย่างดี ท่านพูดคุยแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยสูตรของท่าน การทำกายบริหาร การออกกำลังกาย



หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลเขียว คนละ ๒ แก้ว เวลาเที่ยงรับประทานยาชำระเมือกมันอีก ๕ เม็ด ภาคบ่ายรับประทานน้ำแอปเปิ้ลเขียวอีก ๑ แก้ว

ระหว่างนี้ได้รับฟังนักพูดชื่อดังคุณหมอพงศักดิ์ ตั้งคณา ซึ่งบังเอิญท่านมาพักผ่อนที่จังหวัดกาญจนบุรี ผ่านปากทางเข้าโรงเรียนผู้นำจึงแวะมาเยี่ยมพวกเราพร้อมพูดเรื่อง "ทำอย่างไรจึงจะไม่เครียด" ให้พวกเราฟัง ทำให้
ผู้ฟังเพลิดเพลินเจริญใจ ผ่อนคลาย ได้ทั้งสาระและความบันเทิง แถมให้คาถากันอกหัก ๖ คำได้แก่ "สักวันมันต้องทิ้งเรา ๆ ๆ" ชีวิตจะไม่ผิดหวังเรื่องความรักทั้งชีวิต


จากนั้นก็ทำดีท็อกซ์อีกครั้งในเวลาห้าโมงเย็น ดื่มน้ำดีเกลือเวลาหกโมงเย็นเพื่อขับถ่ายของเสียที่ตกค้างในร่างกาย หากใครยังไม่ขับถ่ายก็ดื่มน้ำดีเกลืออีกครั้งในเวลาสองทุ่ม

ค่ำคืนนี้พวกเราทุกคนเตรียมที่หลับที่นอนมานอนกันที่หอประชุม เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดูแลอย่างทั่วถึง หากมีใครที่เจ็บป่วยรุนแรงจะได้แก้ไขได้ทันเวลา


เจ้าหน้าที่เปิดคลิปวีดีโอการดูแลสุขภาพ ท่านั่ง ท่ายืน ท่าเดิน ท่านอนที่ถูกต้องเพื่อถนอมหัวเข่ามิให้เสื่อมก่อนเวลา เ่ช่นการลุกขึ้นยืนหรือนั่งลงบนเก้าอี้ต้องพยายามโน้มตัวไปข้างหน้าให้อวัยวะต่าง ๆ ช่วยรับน้ำหนักเวลา
ยืนต้องยืนให้เต็มฝ่าเท้า เวลาเดินต้องเดินลงส้นเท้าก่อน เวลานั่งไม่ควรนั่งพับเพียบเพราะร่างกายขาดสมดุลอาจทำให้กระดูกคดงอได้ นับว่ามีประโยชน์ในการดูแลตนเองเป็นอย่างยิ่ง


นอกจากนั้นแล้วยังมีปฏิบัติกรมาแนะนำประสบการณ์การล้างสารพิษตับโดยบอกเล่าถึงปัญหาการเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี และกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด คุณหมอปานจึงหันมาล้างพิษตับโดยเข้าอบรมจำนวน ๗ ครั้งและทำด้วยตนเอง รวมแล้ว ๒๒ ครั้ง อาการตับแข็งจึงหายไป

ใกล้สี่ทุ่มเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง การดื่มน้ำมันมะกอกนับเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการล้างสารพิษในตับเพราะเมื่อดื่มน้ำแอปเปิ้ลไปแล้วน้ำแอปเปิ้ลจะทำให้ไขมันและนิ่วในตับและถุงน้ำดีอ่อนตัว เมื่อดื่่มน้ำมันมะกอกเข้าไปจะไปขับให้นิ่วและไขมันออกมา เจ้าหน้าที่เริ่มแจกอุปกรณ์ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน ได้แก่ น้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาวและน้ำส้มโอรวม ๓๐๐ ซีซีแค่เห็นก็ผะอืดผะอม น้ำอุ่น ๑ ขวดเพื่อนวดท้องกันอาเจียน กระดาษทิชชูไว้เช็ดปาก ลูกอมมะขาม ๒ เม็ดไว้อมแก้เลี่ยน กระป๋องน้ำไว้ใส่น้ำที่บ้วนปากหลังดื่มน้ำมันมะกอก

เจ้าหน้าที่เปิดคลิปวีดีโออธิบายวิธีการล้างพิษตับ ขั้นตอน และวิธีการดื่มคือยืนดื่ม และรีบนอนสูงเพื่อกันอาเจียน ให้นอนหงาย ที่สำคัญห้ามอาเจียนเป็นอ้นขาด หากอาเจียนต้องเริ่มอดอาหารใหม่เพราะไม่เกิดประโยชน์อันใดทั้งสิ้น http://www.youtube.com/watch?v=uKXiHyBKw0Q&feature=relmfu



ใกล้ถึงเวลาที่ถุงน้ำดีเปิดคือสี่ทุ่มถึงสี่ทุ่มสิบห้านาที เจ้าหน้าที่เปิดเพลงของเบิร์ด ธงชัย Too much so much very much พวกเราต่างก็เต้นเขย่าขวดน้ำมันมะกอกกันอย่างสนุกสนาน ได้เวลาก็ตั้งท่าดื่มกันอย่างเ็ต็มที่รสชาติเหมือนน้ำสลัดพอกล้ำกลืนฝืนทนได้ หลายคนก็อาเจียนออกมาในเวลาไม่ช้า ส่วนผู้เขียนนอนหลับสบายไม่มีปัญหา


เจ้าหน้าที่กำชับทุกคนว่าหากขับถ่ายตั้งแต่ตีสองเป็นต้นไปให้ถ่ายใส่กระป๋องเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

รุ่งเช้าเป็นวันสุดท้าย เวลาตีห้าให้ทำดีท็อกซ์ อมน้ำมันมะพร้าว ออกกำลังกายแช่เท้าและดื่มน้ำสมุนไพร ๕ แก้ว ทำดีท็อกซ์ช่วงสำคัญที่สุดในเวลา ๑๐.๓๐ น. จากนั้นทุกคนต่างหิ้วกระป๋องผลผลิตของตนเองไปให้เจ้าหน้าวินิจฉัยโรค


ลักษณะของเสียที่ออกมาจะมีลักษณะดังนี้คือ สิ่งที่ลอยอยู่ข้างบน คือ ไขมันจากตับ และนิ่วจากถุงน้ำดีไขมันจากตับจะมีสีเหลือง สีขาว สีเขียวสีดำ ก้อนขรุขระ หรือเป็นน้ำสีดำ สีเหลือง สีเทา มันติดมือล้างด้วยน้ำเปล่าไม่ออกต้องใช้น้ำยาล้างจาน นิ่วจากถึงน้ำดีจะมีสีเขียว เหลือง ดำ ก้อนค่อนข้างกลมไม่แข็งเหมือนหิน ส่วนที่ลอยอยู่ตรงกลางจะเป็นเซลล์มะเร็ง มีลักษณะเหมือนเห็ดหนูขาว อยู่ล่างสุดจะเป็นเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ

ผู้เข้ารับการอบรมต่างปลงอสุภะกับของเสียของตนเอง บางคนก็พบนิ่วจำนวนมาก บางคนก็พบเซลล์มะเร็ง บางคนก็มีไขมันมากมาย ส่วนของผู้เขียนมีปัญหาเรื่องไขมันที่จับตัวเริ่มกลายเป็นนิ่ว แต่ไม่พบสิ่งอื่น ส่วนของพี่สาวมีไขมันลอยตัวเต็มไปหมดจนไม่อาจช้อนตักขึ้นมาดูได้เพราะเกรงว่าไขมันจะติดตะแกรงที่ช้อนแล้วจะดูให้คนอื่นไม่ได้ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนคือผลผลิตที่แต่ละคนสะสมกันมาเป็นเวลาเท่าอายุของตนเอง และต่างได้คิดที่จะปฏิวัติการบริโภคครั้งยิ่งใหญ่


หลังตรวจเสร็จชำระล้างกระป๋องซึ่งมีไขมันเกาะเหนียวเหนอะแหนะด้วยน้ำหมักเสร็จ พวกเราต่างไปรับประทานอาหารที่โรงอาหาร แม่ครัวทำอาหารให้รับประทานมากมาย ส่วนใหญ่ไม่ได้รับประทานอาหารมาสี่วันแล้วจึงฉลองศรัทธาแม่ครัวอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้มเครื่อง ข้าวสวยแกงส้ม ผัดผักบุ้ง ผลไม้นานาชนิด ขนมกล้วย อาหารทุกอย่างมีรสจืดไม่มัน เพราะหลังจากนี้อีกเจ็ดวันทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย และต้องกลับไปดีท็อกซ์ที่บ้านเช้าเย็นเป็นเวลา ๗ วัน เพื่อล้างขยะที่ตกค้างในลำไส้ให้สะอาด


ที่โต๊ะอาหาร ผู้เขียนและพี่สาวได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งมาเป็นครั้งที่ ๓ คน บอกเล่าให้ฟังว่าตนเองมีปัญหาเรื่องนิ่วในถุงน้ำดี หมอให้ผ่าตัดแต่บังเอิญพบเพื่อนและแนะนำให้มาที่นี่ เมื่อมาครั้งแรกนิ่วออกมาเป็นกระโถน ครั้งที่สองยังมากอยู่ ครั้งที่สามก็ยังมาก ตอนนี้โรคปวดท้องได้หายไปจากชีวิตแล้ว หลังจากที่ทนปวดท้องมาสิบกว่าปี เข้าออกโรงพยาบาลนับสิบแห่งแต่วินิจฉัยโรคผิดบอกว่าเป็นโรคกระเพาะอาหาร


นอกจากนั้นแล้วภรรยาที่มาด้วยก็มีอาการโรคหอบหืดมาตั้งแต่อายุยี่สิบปี รักษาเท่าไรก็ไม่หาย ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ล้างสารพิษในตับอาการหอบหืดก็หายไป ทั้ง ๆ ที่อยู่คู่ชีวิตมาหลายสิบปี นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

รับประทานอาหารเสร็จ ผู้เข้ารับการอบรมกว่า ๑๓๕ ชีวิตมาจากทั่วสารทิศตั้งแต่เหนือจรดใต้กว่า ๒๐ จังหวัดต่างเดินทางกลับภูมิลำเนา และตั้งใจว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้อีกต่อไปเพราะต้องใช้เวลาล้างพิษในตับหลายครั้งจึงจะออกหมด


หันกลับมาที่พี่สาวผู้เขียนซึ่งมีอาการป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือด และเริ่มเข้าสู่ภาวะไตเสื่อม มีอาการที่สังเกตเห็นคือขอบตาคล้ำ และปัสสาวะเป็นฟอง เหนื่อยง่าย หดหู่ซึมเซา หมดอาลัยตายอยากในชีวิต


หลังจากล้างสารพิษในตับเสร็จเธอกระปรี้กระเปร่ามีกำลังวังชาหน้าตาสดใส อาการปัสสาวะเข้มและเป็นฟองก็หายไป ทำให้เธอมีความหวังในชีวิตมากขึ้น และเราสองคนพี่น้องตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้รับมาถ่ายทอดให้พี่ ๆน้องๆ และนัดกันทำกิจกรรมที่บ้านเมื่อมีเวลาว่างเพื่อรักษาโรคที่ต้นเหตุ

ท่านผู้อ่านคะ สุภาษิตจีนกล่าวว่า "โรคภัยเข้าทางปาก ภัยพิบัิติออกทางปาก สุภาษิตฝรั่งกล่าวว่า "you are what you eat" และคำกล่าวที่ว่า "สิ่งที่ร่ำรวยที่สุดในชีวิต คือการมีสุขภาพที่แข็งแรง" อย่าลืมดูแลเอาใจใส่ห่วงใยสุขภาพให้มาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "อย่ามักง่ายและเห็นแก่กิน"เป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจต้องเข้าโรงพยาบาลให้คุณหมอทั้งสวนทั้งแทง นรกไม่้ต้องไปดูไกลไปดูที่ห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลมันคือนรกดี ๆ นี่เอง จริงไหมคะ ?

สุดท้ายได้แต่ขอบคุณ คุณครูวิบุลย์ ปานบุญ ญาติธรรมผู้มีน้ำใจที่ช่วยเหลือเกื้อกูล ขอบคุณสถาบันฝึกอบรมผู้นำ มูลนิธิ พลตรีจำลอง ศรีเมืองที่เป็นกำลังสำคัญส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี หากผู้อ่านท่านใดสนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จัดให้มีการอบรมเดือนละ ๒ ครั้ง จนถึงเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๓ - ๙๓๓ ๕๙๙๙๕, ๐๘๑ - ๘๕๓ ๕๐๐๐

.............................................................

ธรรมทิพย์
๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕

หมายเลขบันทึก: 486822เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2012 13:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2015 15:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ขอบคุณค่ะ..กินเพื่ออยู่อย่างพอประมาณ..สร้างสมดุลความสุขทั้งกายใจ..ไร้โรคาพยาธิ..มีชีวิตเพื่อสร้างคุณค่าแก่ตนและสังคมนะคะ..

  • ขอบพระคุณพี่ใหญ่ที่คอยให้กำลังใจเสมอค่ะIco48
  • ดอกบัวงามมากค่ะ

สอบถามหน่อยครับ ถ้าจะไปเข้าคอร์สการล้างพิษกับโรงเรียนผู้นำต้องติดต่อที่ไหนครับ และค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

  • สวัสดีค่ะ คุณเอก
  • ติดต่อตามเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนไว้ตอนท้ายค่ะ
    ค่าใช้จ่ายหากเต็มหลักสูตร ๖ วัน  ประมาณ ๓,๕๐๐ บาทค่ะ  แต่ต้องจองแต่เนิ่น ๆ 
    เพราะคิวยาวมากค่ะ
  • ขออภัยที่ตอบช้าค่ะ 

สมุนไพรล้างสารพิษในตับ  ลดค่าตับ apt aot  ป้องกันไขมันพอกตับ

ธิติวัฒน์ นาถเสรีพงศื

สวัสดีครับ..ผมอายุ 44 ปีแล้ว อยากไปเข้าโครงการมั่งนะครับ ทำแต่งานเข้าสังคมเยอะมีจองช่วงวันหยุดยาวๆวันไหนมั่งครับสนใจมากเลยครับ.. โครงการอย่างนี้หายาก..เพื่อตัวเองนะครับ.. ขอบคุณมากครับ...อยากได้วันเวลาที่เข้าร่วมครับ...

  • ขอบคุณ คุณสุที่แวะมาให้ข้อมูลค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณธิติวัฒน์
  • ลองติดต่อตามเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไปนะคะ
  • คิวยาวมากค่ะ  คาดว่าต้องจองก่อนล่วงหน้าไม่ต่ำกว่าสองเดือนนะคะ   ลองวางแผนเรื่องวันเวลานะคะ
  • ขอให้คุณโชคดีค่ะ

ผมสนใจมากครับ ต้องทำอย่างไรครับ  081-8802439

สวัสดีค่ะ คุณเกษตร

              คงต้องติดต่อโดยตรงเองนะคะ

คุณน้า เพิ่งกลับจจากการล้างพิษ เมื่อ 8 พค.56  อาการน่าเป็นห่วงมากเลยค่ะ ตัวเหลือง ตาเหลือง ไม่มีแรงเดิน. ตาลาย ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรดีีคะ  ขอถามพีี่ๆผู้มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ด่วนคะ เป็นห่วงน้ามาก ยิ่งเห็นข่าวว่ามีคนตายหลังจากทำ detox มา

สวัสดีค่ะ คุณPooky
        หลังการล้างพิษอาจมีผลข้างเคียงแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ  นั่นอาจเกิดจากอาการ "ซ่านพิษ" คือการขับพิษ
ออกจากร่างกาย  ควรรับประทานอาหารอ่อน ๆ ปราศจากไขมัน  ลองดูอาการนะคะ คงอ่อนเพลียจากการขับพิษ
ลองปรึกษาผู้ที่ทำให้นะคะ

ล้างพิษตับมาแล้วเป็นเดือน ตอนดีทอกออกมาวินิจฉัยว่าเคมีตกค้างเยอะมาก เพราะกินยาตั้งแต่เด็กหลายปีเมื่อผ่านไปยังมีอาการอยู่ เมื่อทานอาหารเข้าไปะมีการร้อนซู่ในอก แล้วร้อนผ่านไปตามร่างกาย และมีผื่นคันตามตัว เหงื่อออกมีกลิ่นยาออกมาตลอด ปัสสาวะมีกลิ่นยา มีอาการร้อนในเป็นช่วง ๆ ร้อนและคันตามร่างกายมาก ควรพบแพทย์ม๊่ยคะ มีใครมีอาการแบบนี้บ้าง

สวัสดีค่ะ  คุณนัน
               ขออภัยที่ตอบช้าอาจเป็นอาการซ่านพิษ  ไม่ทราบตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ  ถ้าอาการปกติดีแล้วก็ไม่น่าเป็นห่วงนะคะ

อาการอ่อนเพลียเกินปกติ เกิดจากการที่ของเสียออกมาแล้วตกค้าง รึเปล่า แล้วล้างออกไม่ไหมด ส่วนที่มีอาการแพ้ น่าจะมาจากการล้างของเสียที่ออกมาแล้วไม่หมด ของเสียหรือพิษที่ออกมาแล้วจึงถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายอีก ทำให้เป็นพิษกว่าเดิม

เคยสอบถามไปแล้วครั้งหนึ่งค่ะเรื่องล้างพิษตับ ว่าหลังล้างพิษมีอาการร้อนซู้ในอกเวลาหลังรับประทานอาหาร หรือทุกเวลาที่จะเป็นได้ นั่งอยู่ก็เป็น นอนหลับก็เป็นเหง่ื่อแตกพลั่ก ๆ คัน ตามผิวหนัง ร้อนใน ได้รับประทานขมิ้นชันไป 2 กระปุก กระปุกละ 60เม็ด หายไปได้ แต่ตอนนี้ 8 เดือนแล้ว เริ่มมีอาการอีก ยิ่งกลางคืนเวลาปวดปัสสาวะ ร้อนเหงื่อแตก ร้อนใน พอปัสสาวะเสร็จก็หาย เริ่มกินขมิ้นก็ค่อยยังชั่ว ไม่ทราบมีวิธีการแก้ไขอย่างไร

ขออนุญาตนำรูปไปประกอบบทสัมภาษณ์ของ อ.ขวัญดิน นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

พัชรี สำโรงเย็น

นิตยสารไม่ลองไม่รู้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท