ต้นยูงทองบานสะพรั่ง ที่วัดบ้านใต้ ตำบลห้วยถั่วใต้ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
วัดบ้านใต้นี้ ในอดีตเป็นที่ตั้งโรงเรียนประถมศึกษา ก่อนที่ในปี ๒๕๐๔ จะย้ายไปสร้างเป็นโรงเรียนวันครู(๒๕๐๔) และโรงเรียนบ้านป่ารัง ซึ่งต่อมาอีก ๑๐ กว่าปีโรงเรียนบ้านป่ารังก็ยุบเลิกไปรวมกับโรงเรียนวันครูที่บ้านตาลิน และปัจจุบัน โรงเรียนวันครู(๒๕๐๔) ก็เริ่มมีเด็กเข้าเรียนจำนวนน้อยรวมทุกชั้นเรียนแล้วไม่ถึง ๑๐๐ คน
ชุมชนที่บ้านใต้นี้ เป็นชุมชนตัวอย่างในการพัฒนาสาธารณสุขมูลฐานและการจัดการด้วยตนเองหลายอย่างด้วยกัน เช่น กองทุนสุขภาพชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐานดีเด่นด้านสมุนไพร ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจักสาน ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน โรงสีข้าวชุมชน เหล่านี้เป็นต้น สะท้อนถึงการมีทุนการจัดการของชุมชนดีหลายด้าน เช่น คนในชุมชนที่มีสำนึกความเป็นพลเมือง มีความตื่นตัวต่อส่วนรวม มีเครือข่ายจิตอาสา กลุ่มผู้นำ และมีทุนทางสังคมในการจัดการสุขภาวะสาธารณะด้วยตนเองของชาวบ้านที่ดี ตลอดจนมีระบบให้การส่งเสริมและสนับสนุนจากเครือข่ายคนทำงานเชิงพื้นที่ที่ดี
โรงสีข้าวชุมชนที่บ้านห้วยถั่วใต้นี้ ดำเนินการโดยชุมชน ผู้ลงทุนหลักคือองค์กรท้องถิ่น ผู้อาสาดำเนินการและดูแลในเชิงบริหารจัดการคือครอบครัวของประกอบ (นามสกุลเดิม 'คำจันทร์') กับสามี รับจ้างสีข้าวให้กับชาวบ้านและเกษตรกร เป็นที่นิยมของชาวบ้านทั้งในและนอกชุมชน ประกอบ คำจันทร์นี้ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนประถมศึกษา ๑-๔ ของผมที่โรงเรียนวันครู (๒๕๐๔) ซึ่งหลังจากจบชั้นประถมศึกษาเมื่อเกือบ ๔๐ ปีแล้ว ก็ไม่เคยได้พบกันเลย เป็นคนที่เรียนหนังสือเก่งอยู่ในกลุ่มลำดับไม่เกิน ๑-๕ ตลอดชั้นประถม ๑-๔.
แถบถิ่นนี้คนรุ่นอาตมาหรือหลังจากนั้นที่มีถนนหนทางไปมาสะดวก
น่าจะรู้จักพื้นที่ได้ดี แต่หลายคนไม่รู้จักและไม่เคยไปเลย
ซึ่งผิดกับสมัยโยมพ่อที่ยุคนั้นมีแต่เกวียน
แต่ท่านรู้จักทั้งสภาพพื้นที่และบุคคลได้อย่างหลากหลาย
โยมพ่อของพระคุณเจ้านี่เป็นคนมีประสบการณ์ชีวิตและมีความรอบรู้เกี่ยวกับสังคมและถิ่นฐานการอาศัยของผู้คนมากเลยนะครับ คนเมื่อก่อนจะถือว่ามีทักษะชีวิตความเป็นผู้นำ โดยเป็นผู้สามารถเที่ยวท่อง เห็นบ้านเมืองกว้างขวาง รู้จักท่องไปในประสบการณ์ผู้คนโดยการใช้ปากและการสร้างสันถวะไมตรี ทำให้เห็นโลกกว้างและมีความรู้เกี่ยวกับสังคมมาก