"ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน" เขียนโดย "ทิม พิธา" ... (หนังสือเล่มนี้มันต้องมีอะไรดี)


วันนี้ (๑๗ เม.ย.๕๕) ได้ไปแวะร้านหนังสือประจำตัว เพื่อไปขอรับบัตรสมาชิกที่ต่ออายุ และเดินดูหนังสือก่อนร้านปิด ๑ ชั่วโมง

หนังสือเล่มหนึ่งในใจนี่ เล็งไว้ เป็นของสำนักพิมพ์ใหม่ที่ชื่อ Springbooks ในเครือของอมรินทร์พริ้นติ้งฯ หนังสือที่ออกมาแล้วของสำนักพิมพ์นี้ เช่น

 

"กาลครั้งหนึ่งทุกสถานที่เคยมีความรัก" อุนนุน หมายเลข ๒ ของ "นิ้วกลม"

"อ่านนอกเวลา" ของ "วิษณ์ (บอย)" ที่เล่าเรื่องการเรียนต่อปริญญาเอกที่ไต้หวัน

 

ผมว่า หนังสือของสำนักพิมพ์ีนี้มันต้องมีอะไรดีสิ ออกมาไม่กี่เล่ม แต่รู้สึกถูกจริตและความสนใจของตัวเองมาก

 

เล่มที่จะแนะนำต่อไปนี้ เพิ่งได้มาล่าสุด

"ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน" เขียนโดย "ทิม พิธา" นักศึกษาไทยคนแรกที่ได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

 

หากดูปกหน้า ผมว่า เรายังรู้สึกเฉย ๆ ...

 

 

แต่ลองดูปกหลัง

 

 

 

* การเรียนที่ฮาร์วาร์ดเป็นมากกว่าการเรียนหนังสือ หนังสือเรียนแทบไม่ต้องใช้ แต่อาศัยเรียนจากคนจริง ๆ

* เด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่นี่ เน้น "เนื้อหา" มากกว่า "รูปแบบ" เน้น "สาร" มากกว่า "หีบห่อ" สมกับเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นที่ดึงดูดความสามารถทั่วโลกมารวมกันในเมืองเหงา ๆ แห่งนี้

* วิชานี้ไม่มีหนังสือเรียน ถ้าเรียนจากหนังสือ หมายถึง คุณจะกลับไปหาอดีต แต่ถ้าเรียนจากเพื่อนรอบข้าง คุณเรียนจากอนาคต

* เอาเวลาท่องจำไปเรียนนอกห้องดีกว่า ไม่ต้องเรียนทฤษฎีมากมายสำหรับโลกในบริบทใหม่ ทฤษฎีมีไว้ทำลาย

* การเดินทางเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันชีวิตไปข้างหน้า การท่องเที่ยวทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น โลกที่กว้างใหญ่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ

 

นี่แค่ "คำโปรย" ณ ปกหลัง เนื้อหาหนังสือเล่มนี้ย่อมไม่ธรรมดา ควรค่าแก่การเรียนรู้ในสังคมยุคใหม่อย่างมาก

คิดถึงลูกศิษย์ อยากให้เขาได้มีโอกาสอ่านมัน ...

 

 

อีกจุดหนึ่งที่อยากให้อ่านครับ ... บางส่วนของคำนำ

 

"... ตลอดเวลาเรียนปริญญาโทในสองมหาิวิทยาลัยระดับโลก ผมไม่เคยรู้สึกว่ายากเลย (ตอนเรียนปริญญาตรีที่มหาิวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยากกว่าด้วยซ้ำ) สิ่งที่เขาเน้นคือ "อ่าน อ่าน และอ่าน" อ่านแล้วแลกเปลี่ยน อ่านแล้วเขียน ไม่ใช่การอ่านจากหนังสือเรียนที่เขียนมาแล้วเป็นสิบ ๆ ปี แต่เป็นการอ่านจากแมกกาซีน จากอินเทอร์เน็ต จากบล็อก แล้วมาถกกันให้ตกผลึก การเรียนการสอนแบบนี้ต่างหากที่ทำให้สองมหาวิทยาลัยนี้เป็นอันดับหนึ่งของโลกในสาขาที่ตัวเองถนัด ..."

 

 

คุณคิดว่าไงบ้างครับ?

ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรากำลังเขียนและอ่านกันอยู่ไหมครับ อ่านแล้วถก อ่านแล้วแสดงความเห็นกัน และหนังสือเรียนไม่ใช่สิ่งที่ฮาร์วาร์ดเน้นมากกว่า อ่าน อ่าน และอ่าน

 

 

ชื่อหนังสืออาจจะดูหยิ่งยะโส แต่สิ่งที่บอกเราได้อย่างหนึ่งก็คือ

บางที "ความเก่ง" ก็ไม่ได้ ทำให้เราเข้าใจตนเอง เข้าใจโลก และประสบความสำเร็จเสมอไป

 

 

ชวนอ่านนะครับ รู้สึกดีจังที่ได้แนะนำ

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...

 

 

ป.ล. เชื่อเถอะ ผมว่าหนังสือเล่มนี้ต้องมีอะไรดี ;)...

 

 

.....................................................................................................

ขอบคุณหนังสือ ...

ทิม พิธา.  ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน.  กรุงเทพฯ : Springbooks, ๒๕๕๕.

 

หมายเลขบันทึก: 485398เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2012 22:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน 2012 11:24 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

ชายหนุ่มผู้นี้มีเบื้องหลังที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ เขาสามารถกู้ธุรกิจร้อยล้านของครอบครัวได้เมื่อพ่อของเขาเสียลงกลางคันจนต้องพักการเรียนไว้ แล้วกลับไปเรียนต่อ เขาคงเป็นหนึ่งในคนไทยไม่กี่คนที่ได้ร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับ Warren Buffett คุยเรื่องธุรกิจน้ำมันรำข้าวของเขา

เขาเรียนจากผู้นำคนสำคัญจากทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ Lee K Y. Harvard มีวิธีการสอนที่เน้นการมองไปข้างหน้าและภาคปฏิบัติจริงๆ

ทิมเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่น่าติดตามดูผลงานต่อไปค่ะ เขาสร้างแรงบันดาลใจด้านการทำธุรกิจให้คนรุ่นเราๆ ไม่น้อย อยากรู้ว่าคุณหนุ่มเมืองจันท์จะเขียนถึงเขาว่าอย่างไรบ้างหนอ

สวัสดียามเย็นค่ะอาจารย์

โอ้โฮ ! อาจารย์ ...ปริม pirimarj... ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการสำหรับหนังสือเล่มนี้นะครับ ;)...

"ทิม พิธา" เป็นผู้มีวิธีการคิดที่สุดยอดคนหนึ่งจริง ๆ ครับ ผมอ่านแล้ววางไม่ลง รู้สึกถึงการคิดที่น่าทึ่ง เขาได้สัมผัสนักธุรกิจที่สามารถเคลื่อนโลกได้มากมาย ผู้มีชื่อเสียง ณ ขนาดนั้น

อีกสิ่งที่ผมเห็นคือ "ฮาร์วาร์ด" สามารถดึงดูดให้คนเหล่านี้มาถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับนักศึกษาของเขาได้

"ทิม พิธา" คือ คนหนึ่งที่โชคดีเหลือเกินครับ และเขาใช้สิ่งที่เขาได้มาสร้างตัวเอง และแก้ไขฐานะทางบ้าน

Amazing ครับอาจารย์ ;)...

เปล่าหรอกค่ะอาจารย์ ปริมยังไม่มีหนังสือเล่มนี้ค่ะ เคยอ่านเรื่องของทิม ตามสกู้ปข่าวธุรกิจเท่านั้นเอง พอเห็นอาจารย์บอกนี่ยังคิดว่าจะไปชวน (หนังสือ) มาอยู่บ้านที่สิงคโปร์อยู่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ ปริมรู้ข่าวคราวหนังสือที่ออกใหม่ก็จากอาจารย์นี่แหละค่ะ

งั้นผมเดาในใจออกนะครับ อาจารย์ ...ปริม pirimarj... ;)...

เพราะเรื่องราวที่อาจารย์ได้เล่ามานั้น Advanced มาก ผมยังอ่านไม่ถึงเลย อิ อิ

แต่ตามที่อาจารย์ทราบมานั้น ผมเห็นควรว่า อาจารย์จงไปนำหนังสือเล่มนี้มาอยู่ด้วยด่วนเลยนะครับ ;)...

ตอนนี้ผมกำลังอ่านไปเรื่อย ๆ และทึ่งอยู่เป็นระยะ ... เหมาะกับอาจารย์ครับ เล่มนี้ ;)...

Size does not Matter , Really ! Depend on Heart :)

ไม่ตามอ่าน ไม่ได้แล้ว ของคุณสำหรับเรื่องราวดีที่นำมาบอกครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีที่นำมาบอกครับ

เรียนเชิญด้วยความจริงใจครับ คุณ ครูวุฒิ ;)...

ยินดีครับ คุณ ครูวุฒิ ;)...

ขอบคุณเช่นกันครับผม

ยินดีครับ ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า ;)...

อร่อยมากครับ เล่มนี้

อ่านจบมา 3 วันแล้วครับ เข้ามา search ต่อพบบันทึกนี้ก็เลยคลิกเข้ามาอ่านต่อครับ เป็นหนังสือน่าอ่านเล่มหนึ่งครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ท่านอาจารย์ Blank คนธรรมดา ;)...

ขอบคุณมากครับ

บางที "ความเก่ง" ก็ไม่ได้ ทำให้เราเข้าใจตนเอง เข้าใจโลก และประสบความสำเร็จเสมอไป

อย่างนั้นเลยค่ะ ^^

ขอบคุึณนะครับ น้องอาจารย์ "น้อง" Blank พิชชา ;)...

ตอนนี้คุณทิม เป็นว่าที่นายกคนที่30แล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท