เปรียบเทียบภาวะผู้นำ โอบามา /รอมนีย์, โบ ซิไล /สิ จินผิง และอภิสิทธิ์/ทักษิณ (บทเรียนจากความจริง กับดร.จีระ)

เปรียบเทียบภาวะผู้นำ โอบามา /รอมนีย์, โบ ซิไล /สิ จินผิง และอภิสิทธิ์/ทักษิณ (บทเรียนจากความจริง กับดร.จีระ)

ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้กลับไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กับสถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันที่ผมก่อตั้งและทำงานอยู่กว่า 20 ปี
รศ.ดร.พิภพ อุดร ผู้อำนวยการสถาบันฯ เปิดกว้างที่จะทำงานร่วมมือกับแนวร่วมหลาองค์กรช่วยกันทำวิจัย
- คุณอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในนามกระทรวงแรงงาน
- ผมในนามมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
- สถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- มูลนิธินิคม จันทรวิทุร โดย ดร.โชคชัย สุทธาเวศ
ในยุคอาเซียนเสรี ทรัพยากรมนุษย์ทั้งระบบไตรภาคี ปัจจุบันอ่อนแอมาก ทำอย่างไรที่จะปรับให้ดีขึ้นเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน
งานวิจัยครั้งนี้จะใช้เวลา 3 ปี ท่านผู้อ่านติดตามได้
สัปดาห์นี้ผมไปบรรยายให้ไลอ้อนส์ในการการประชุมใหญ่ประจำปีที่หาดใหญ่เรื่อง AEC กับ Lions คนไลอ้อนส์มีแนวคิดเรื่อง Liberty + Intelligence + Safety คือ เสรีภาพ ความฉลาดและปัญญา เพื่อความมั่นคงในระยะยาว
ถ้าอาเซียนเสรีไม่มีความมั่นคง ประเทศไทยจะมีแต่ความเสี่ยงอันตราย
อาเซียนเสรีมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ยิ่งจะเป็น ASEAN +6+8 ก็จะต้องเตรียมบุคลากรของไทยให้ดีเพื่ออยู่รอดให้ได้
ปัจจุบันไลอ้อนส์มีสมาชิกทั้งโลกกว่า 200 ประเทศ จะผนึกกำลังช่วยประเทศไทยสู่สากลได้ ในประเทศไทยมีสมาชิกกว่า 8,000 คน ที่มีคุณภาพ ถ้าสมาชิกสนใจและกระจายเรื่องประชาคมอาเซียนให้คนไทยในมุมกว้างจะมีประโยชน์มาก
สัปดาห์นี้ผมเลือกการจับคู่ 3 คู่ของผู้นำ 3 ประเทศเพื่อให้ท่านผู้อ่านศึกษาเปรียบเทียบใน 3 ประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นบทเรียนที่ดีที่เพราะเห็นข้อเท็จจริง
คู่แรกคือประเทศจีน

โอบามา

รอมนีย์

โบดีไล

สิ จินผิง

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ทักษิณ ชินวัตร

จีนเป็นระบบพรรคเดียวคือพรรคคอมมิวนิสต์ แต่การจะได้ผู้นำก็ไม่ใช่ง่ายๆ
เช่น ปัจจุบัน สิ จินผิง (Xi Jinping) จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนใหม่แน่นอน แต่ข่าวการขัดแย้งในจีนก็ไม่ใช่ไม่มี โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ก็มีข่าว โบ ซิไล (Bo xilai) ผู้นำในเทศบาลชุงกิง (Chongqing) ซึ่งมีบทบาทสูงและมีประชาชนในประเทศจีนให้ความสนใจและชื่นชอบมาก ถูกปลดออกจากตำแหน่งและอาจจะถึงกับถูกดำเนินคดี
การขัดแย้งก็คือความคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของ 2 ฝ่าย
คุณโบยังคิดแบบเดิมคือ อยากให้รัฐบาลมีนโยบายเศรษฐกิจแบบกระจาย ผลประโยชน์ให้คนในสังคมอย่างทัดเทียมกันและให้รัฐมีบทบาทในทางเศรษฐกิจมากขึ้นกว่าเดิมแทนที่จะปล่อยให้เป็นภาคเอกชนและระบบตลาดอย่างที่เป็นอยู่
ปัจจุบันภายใต้การทำงานของแนวคิดเดิมของ เติ้ง เสี่ยว ผิง (Deng Xiaoping) ภาคเอกชนมีบทบาทมากในจีน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ มีคนรวยรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาก
วิธีการคิดแตกต่างกับฝ่าย สิ จินผิง (Xi Jinping) ซึ่งยังเห็นว่าจีนเป็นประเทศใหญ่ ต้องมีระบบเศรษฐกิจที่พึ่งภาคเอกชนและตลาดเพื่อให้มีประสิทธิภาพ การผลิตเข้มแข็งและกระจายผลประโยชน์ทีหลัง
ฝ่ายคุณโบเห็นว่าถ้าปล่อยให้เป็นระบบตลาด จะเกิดการเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยมากขึ้น
ผมไปประเทศจีนหลายครั้งเคยพูดเสมอว่า ไม่ว่าจีนจะมีผู้นำแบบไหนจะต้องปฎิรูปประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่
ถ้าวันหนึ่งคุณโบชนะ คาดว่าจีนจะปิดประเทศอีกครั้งหนึ่งแน่นอน และจะมีการล้างสมอง ปฎิวัติวัฒนธรรมรอบสองคือ เอาคนมีความรู้ไปอยู่ภาคชนบทแบบที่เคยปฏิวัติวัฒนธรรมยุคเมาเซตุง (Mao Tse-tung) โดยภรรยาของท่าน
ปัจจุบันกลุ่มของคุณสิ จินผิง (Xi Jinping) ยังครองอำนาจอยู่ แต่ในอนาคตคนจนรากหญ้าอาจมีความโกรธแค้นภาคธุรกิจที่สร้างความเหลื่อมล้ำมากๆ ก็อาจจะไปสู่การเมืองและเศรษฐกิจแบบเก่า ต้องดูกันต่อไป
สรุปก็คือ จีนมีพรรคเดียว แต่ก็สู้กันในพรรคด้วยอุดมการณ์
แต่อเมริกันมี 2 พรรค ต้องสู้กันอย่างหนักในพรรคริพับลิกันก่อนเพื่อชนะการเลือกตั้งขั้นต้น
ปัจจุบันน่าจะสรุปอย่างที่คาดไว้ว่าคุณรอมนีย์ คงจะชนะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน แต่กว่าคุณรอมนีย์จะชนะก็ต้องต่อสู้กับอุดมการณ์ของคนในพรรคริพับลิกันที่ไม่ต้องการผู้นำที่ขาดอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมขวาจัด เช่น
- ไม่เก็บภาษีคนรวย
- บ้าคลั่งศาสนา
- ไม่ชอบทำแท้ง
- เกลียดคนมุสลิม
- ไม่ให้รัฐบาลใหญ่เกินไป
- ทหารอเมริกาต้องเข้มแข็งดูแลโลกต่อไป
คู่แข่งของคุณรอมนีย์ก็คือ คุณริกแซนทอรัม ซึ่งเป็นพวกขวาจัด คุณรอมนีย์จะชนะในที่สุดเพราะคนอเมริกันต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะการว่างงาน
การแข่งขันระหว่างรอมนีย์และโอบามาที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาการว่างงานจะเป็นตัวแปรสำคัญซึ่งรอมนีย์ดูจะได้เปรียบโอบามาเล็กน้อยตรงที่ว่า เคยเป็นนักธุรกิจ มีประสบการณ์มากกว่าโอบามา ส่วนโอบามาเป็นแค่นักการเมืองอาชีพเท่านั้น ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน อาจจะไม่มีประสบการณ์ แก้ปัญหาไม่ได้อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ซึ่งประเด็นนี้คือ ข้อเปรียบเทียบระหว่างคุณอภิสิทธิ์กับคุณทักษิณ ในมุมหนึ่งมองว่าคุณอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองอาชีพพูดเก่งเท่านั้น แต่คุณทักษิณเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์ทางธุรกิจมาก่อนซึ่งคล้ายๆกับการแข่งขันระหว่างโอบามากับรอมนีย์
ปัญหาการเปรียบเทียบระหว่างคุณอภิสิทธิ์กับคุณทักษิณมีมากกว่านั้น ซึ่งคนไทยต้องนำมาพิจารณา
- ความยั่งยืนว่าใครจะพาประเทศให้อยู่รอดระยะยาว
- ปัจจุบันปัญหาการขาดคุณธรรม จริยธรรมมีความสำคัญอยู่มาก
- ปัญหาการไม่เคารพกฎหมาย
- สุดท้ายคุณอภิสิทธิ์และคุณทักษิณเล่นการเมืองเพื่ออะไร?