บทสรุปบันทึกที่เพิ่งเริ่มต้น ใน go to know


ถอดบทเรียน "เครือข่ายนักลิขิตฯ"

จากประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมา 39 ปี อาจจะดูน้อย ในความรู้สึกของใครบางคน แต่สำหรับตัวเองแล้ว รู้สึกว่าตัวเองได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ปัญหา ความสุข ความทุกข์มามากมาย จนทำให้วันนี้ตัวเองเข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันทางจิต ที่เต็มร้อย  จึงอยากเอาประสบการณ์มาถ่ายทอด ให้ ใครๆอีกหลายคน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผื่อมุมมองที่เราคิดหรือดำเนินชีวิตนั้น จะเป็น แรกบันดาลใจให้ใครอีกหลายคน ได้ ได้มีพลังในการที่จะสู้ต่อไป ซึ่งบันทึกที่เพิ่งเริ่มต้นนี้ ได้ เขียน ไว้ หลัก 2 บล็อก คือ

     1. Loves best life ในบล็อกนี้ ตั้งใจเขียนถึงมุมมอง ในการ ดำเนินชีวิต ที่ง่ายๆ แบบมีความสุขได้ทุกวันผ่านมุมมองการคิดเชิงบวก  แม้จะมีเพื่อนร่วมทางที่ ไม่ค่อยรักเราเท่าไร คือโรคประจำตัวที่เป็นอยู่  การเขียนครั้งนี้ ไม่มีเจตนา ให้มีคนมาสงสาร หรือเห็นใจ เพราะชีวิตได้ผ่านกระบวนการ compensation ตัวเอง จนเข้มแข็งพอที่จะออกมาบอกผู้คนอื่นๆ ว่า ตัวเองอยู่ กับความทุกข์ทุกวันได้อย่างมีความสุข  ตื่นนอนตอนเช้าขึ้นมาวันไหน ไม่มีวันที่รู้สึกว่า เบื่อหรือท้อ แม้จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการ ของโรค แต่ก็ยังรู้สึกดีว่ายังได้ตื่น เห็นหน้า คนที่เรารัก  เรายังอยู่ได้ทำประโยชน์ให้สังคม อยากถ่ายทอด แนวคิด ในการเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความสุข  แนวคิดการแก้ปัญหา ที่ เริ่มด้วยตัวเอง และจบด้วยตัวเอง แนวคิดในการ พิจารณาความทุกข์ รับรู้ความทุกข์ให้เป็นปัจจุบัน จะไม่ระลึกชาติ หรือ วาดฝัน

        2. นวัตกรรมการดูแลผู้ป่วย ต้องการที่จะถ่ายทอด แนวคิด ที่ ไม่เพียง ได้จากตำรา แต่ ได้จากประสบการณ์ หรือ การพยายามแก้ไขปัญหา ให้ผู้ป่วย ทั้งสิ่งที่ตัวเองคิดทำ และ ของโรงพยาบาล เผื่อ นวัตกรรมนี้จะเป็นแนวคิดให้คนอื่นเอาไปปรับปรุงต่อยอด ในการดูแลผู้ป่วย ส่งผลลัพธ์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

   และรองอีกบล็อกที่เพิ่ม คือ เฮฮาประสาพยาบาล  เรื่องเบาๆ ที่เราสามารถยิ้มได้ที่นึกถึง  รวบรวบเรื่องขำๆที่เกิดขึ้นได้ในโรงพยาบาล

         เดิมทีตั้งใจจะเขียน web site ของตัวเองขึ้นมา เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนี้ แต่ก็นึกได้ว่า ยังมีที่หนึ่งที่พร้อมให้เราถ่ายทอด คือที่บ้านหลังใหญ่ go to know ที่เป็นสมาชิกของบ้านมาตั้ง 2 ปี แต่ไม่ได้เข้ามาพูดคุยกับคนในบ้านเลย  มีเพียงแวะมาเยี่ยมเยือน แล้วก็กลับไป แต่พอได้เริ่มลองเขียน กลับได้มากกว่าสิ่งที่ตัวเอง ต้องการคือถ่ายทอดแนวความคิด สิ่งที่ได้ นั้นยิ่งใหญ่ นั้นคือ ไมตรี และมิตรภาพที่ได้จากทุกท่าน  ซึ่งผู้เขียนขอเรียกมันว่า " มิตรภาพบำบัด" ทำให้ผู้เขียนมีภูมิคุ้มกันทางจิตมากกว่า ร้อย  ขอบคุณทุกๆ กำลังใจและความรู้สึกดีๆ  ทำให้พยาบาล ตำแหน่งเล็กๆ ( ตัวไม่เล็ก) คนหนึ่ง พร้อมมากกว่าเดิมในการที่จะใช้ชีวิต ต่อไปในวันข้างหน้ากับเพื่อร่วมทางที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่(พาร์กินสัน)  อย่างไม่ท้อ ..........

http://www.youtube.com/watch?v=vRXkpNLOXeE

หมายเลขบันทึก: 481601เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2012 00:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 18:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ชอบมากๆบันทึกของคุณชลัญธร  ไม่น่าเชื่อว่าเจ็บป่วยปางนี้แล้ว ยังจะสามารถเขียนบันทึกได้สดใสมาก 

เอาใจช่วยเสมอครับ

มิตรภาพบำบัด เดินทางมาใกลจากใต้ มาหามิตรภาพบำบัดความรู จากใต้สู่อิสาน

ขอบคุณ คุณพยาบาลมีงานให้อ่านได้บำบัดความรู้

ชื่นชมในมุมมองด้านบวกในวิถีชีวิตที่สร้างคุณค่าแก่ตนและผู้อื่นเช่นนี้ค่ะ

ตื่นนอนตอนเช้าขึ้นมาวันไหน ไม่มีวันที่รู้สึกว่า เบื่อหรือท้อ

แม้จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการ ของโรค

แต่ก็ยังรู้สึกดีว่ายังได้ตื่น เห็นหน้า คนที่เรารัก

เรายังอยู่ได้ทำประโยชน์ให้สังคม

...

อ่านข้อความนี้แล้ว สะท้อน สะทก สะเทือนใจ

ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยเตือนให้ระลึกได้บางอย่าง

ขอบคุณ คุณไกลบ้านที่ให้กำลังใจ ข้ามทวีป ไมตรีและมิตรภาพที่ให้ทำให้จิตใจแช่มชื่นข้นมาก มอบภาพตุ๊กตาทำเองกะมือ ให้ก่อนนะ ถ้ามีโอกาสได้พบกันจะมอบให้ตัวเป็นๆ

ขอโทษคุณ คนบ้านไกล ที่เอ่ยชื่อผิดเป็นไกลบ้าน มัวคุยกับเพื่อนไปด้วยเรื่องที่ทำงานเขาอยู่ไกลบ้าน สมองกับมือทำงานไม่สัมพันธ์กัน นี่แหล่ะน้าพาร์กินสัน

ขอบคุณ ลุงวอญ่า ที่ให้กำลังใจ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้ไมตรีที่ดี จากคนที่มีชื่อที่เราอ่านเจอในหนังสือ แล้วแอบชื่นชมในแนวคิดมาตลอด

ขอบคุณ พี่ใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ ที่ให้กำลังใจมาตลอด ตอนที่เห็นดอกไม้กำลังใจจากพี่ใหญ่ ขนลุกไปหมด เพราะ เหมือนเห็นพี่ในความฝัน ยังรู้สึกจำใบหน้าของผู้ใหญ่ใจดี ที่ให้ความเมตตา ในฝันแก่ผู้เขียนได้ ตอนนี้ฝันนั้นเป็นจริงแล้ว

ขอบคุณ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ ที่ให้กำลังใจ ให้มาตลอด

ขอบคุณ คุณหมอ ป. ที่ให้กำลังใจ ข้อความ

"ตื่นนอนตอนเช้าขึ้นมาวันไหน ไม่มีวันที่รู้สึกว่า เบื่อหรือท้อ

แม้จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการ ของโรค

แต่ก็ยังรู้สึกดีว่ายังได้ตื่น เห็นหน้า คนที่เรารัก

เรายังอยู่ได้ทำประโยชน์ให้สังคม"

ขอบคุณที่ชอบ ทุกวันนี้ บอกครอบครัว พ่อ แม่ ไว้ตลอด ว่า ถ้าวันหนึ่ง ฉันไม่ตื่น ไม่ต้องร้องไห้ หรือเสียใจ ฉันไม่ได้จากไปไหน เพียงแต่ไปอยู่ไกลกลับมาไม่ได้ ฉันอยู่ในที่ ที่สบายแล้ว

 

 

.....Loves best life....ดีจริงๆๆค่ะ

เป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตและการทำงานที่..

สงบ เย็น เป็นประโยชน์ ของคุณชลัญธรนะครับ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณ อ.นุ, tamtam1, นาง...มณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์, ครูอ้อย แซ่เฮ, ทิมดาบ, Somsri ที่ให้กำลังใจค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท