KM การผลิตหน่อไม้ฝรั่งจังหวัดกาญจนบุรีตอนที่ 2


เคล็ดลับการผลิตหน่อไม้ฝรั่งของเกษตรกร
เคล็ดลับการผลิตหน่อไม้ฝรั่งให้ได้คุณภาพและปลอดภัย ตอนที่ 2                 คุณวิเชียร  แป้นกรม  อยู่บ้านเลขที่ 141 หมู่ที่ 9 ตำบลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย ได้เล่าประสบการณ์ความสำเร็จที่ปฏิบัติในแปลงหน่อไม้ฝรั่งหรือแปลงพืชผัก ว่าเดิมมีอาชีพรับจ้าง กู้เงิน  80,000  บาท  ปลูกหอมและกระเจี๊ยบแต่ไม่ได้มาตรฐาน  บริษัทริเวอร์แควฯรับซื้อ กิโลกรัมละ  15 บาท ใช้รถซาเล้งของตนเอง บรรจุใส่ตะกร้าไปส่ง  คุณวิเชียรล่าต่อว่า การทำการเกษตรถ้ารู้ไม่จริงจะลำบาก  ปัจจุบันปลูกหน่อไม้ฝรั่ง และรับซื้อจากลูกไร่ด้วย  ปัจจัยที่จำเป็นในการผลิตหน่อไม้ฝรั่งได้แก่ สายพันธุ์   ปุ๋ยคอก หน่อไม้ฝรั่งต้องการอาหาร   60 ก.ก./ไร่/ปี ทยอยใส่  7 วันหรือ  15 วัน  จากการศึกษาข้อมูลจากประเทศไต้หวันจำนวน   100ก.ก./ไร่/ปี  การเตรียมดินจะต้องใส่ปุ๋ยหมัก+ปุ๋ยอินทรีย์  1.5 ตัน  รดน้ำเช้า-เที่ยง  ถ้า รดน้ำตอนเย็น เชื้อราจะเกิดได้ง่าย    ส่วนเคล็ดลับของคุณลุงจันทร์ จันทร์อ้น บ้านเลขที่36/1 หมู่ 1 บ้านหนองสาหร่าย อำเภอพนนมทวน ได้แลกเปลี่ยนความรู้ให้แก่เพื่อนร่วมอาชีพว่า การเตรียมดินให้ดี โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ปรับดินปริมาณมาก 1ไร่ใส่ปุ๋ย 3 คันรถ ขี้ไก่ ขี้วัว หมักไว้ 6 เดือนก่อนแล้วทยอยใส่ปรับพื้นที่  ขุดหลุมห่างระหว่างแถว 1.40  - 1.50 เมตร  ห่างระหว่างต้น ประมาณ 40 ซ.ม.  ไถให้เป็นร่อง  ปลูกลึกประมาณ 10 ซ.ม. ถ้าลึกเกินจะไม่ออกดอกจะถอนไม่ขึ้น พรวนดินขึ้นมาให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หลุมละ 1 ช้อน โรยแล้วจึงปลุก พยายามให้รากแผ่ออกอย่าปล่อยเป็นกระจุก  4-5 เดือน ถอนหน่อ ตัดได้มีด 1 และ มีด 2 แล้วค่อย ๆ พูนดินให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ  ใส่ปุ๋ยเคมี 20 ก.ก./ไร่ ปุ๋ยอินทรีย์ 50 ก.ก./ไร่ ออกหน่อสม่ำเสมอ ให้ใส่ปุ๋ยห่างจากทางเดิน 10 ซ.ม. เพราะรากจะอยู่บริเวณร่องทางเดิน  เว้นไป 1 เดือนก็สามารถตัดได้ประมาณ 2-3 เดือน การใช้สปริงเกอร์รดน้ำจะมีโอกาสให้โคนเปียกจะเป็นเชื้อรา  แต่ถ้ารดน้ำตามร่องจะป้องกันโรคได้เนื่องจากไม่เปียก  ใช้น้ำหมักกันเพลี้ยไฟ มีการคัดเกรด                 A  B  C  ตกเกรด  และยังแยกเป็นแบบตูม และบาน ส่งให้พ่อค้าที่ ต.ตะคร้ำเอน ไม่มีการทำสัญญา ได้เงินประมาณ 7 วัน1) ไข่ 5 ฟอง กากน้ำตาลปริมาณเท่าไข่ และยาคูล  2 ขวด หมักไว้ 20 วันแล้วฉีดต้น เป็นสูตรการผสมฮอร์โมนเพื่อเร่งดอก                  2) นมน้ำเหลือง 3 ก.ก.  พุงปลาทะเล 3 ก.ก. กลูโคส 3 ก.ก.  หมักไว้ 1 เดือน เป็นสูตรบำรุงใบ และดอก                3) ไคโตซาน  1ฝา และ ผงชูรส  (ตราปูแดง) 1 ก.ก. ผสมกับน้ำ 200 ลิตร ฉีดเพื่อปรับสภาพดินและสามารถรักษาแผลบริเวณต้นได้ด้วยส่วนการผลิตหน่อไม้ฝรั่งของกลุ่มเกษตรกรบ้านดอนแสลบ ของคุณสมจิต วงษ์กรณ์ อำเภอพนมทวน ได้แลกเปลี่ยนความรู้ให้ที่ประชุมฟังว่า การเตรียมดิน จะใช้ขี้วัว 1 ตัน แกลบหมักไว้ 3 เดือน ถ้าหมักได้นานเป็นปียิ่งดีเพราะจะไม่มีความร้อน กองไว้รดน้ำเรื่อย ๆ บางครั้งมีการใช้สาร พ.ด. 1 หมักไว้  ใช้พันธุ์จาก อ.ด่านมะขามเตี้ย  Brocked  improved   ส่งผลผลิตขายให้พ่อค้าจังหวัดเชียงใหม่  โดยผ่านพ่อค้าคนกลางจากอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  ซึ่งรับซื้อทั้งหมด  โดยไม่มีการทำสัญญาล่วงหน้า  แบ่งเป็น A ตูม บาน  ราคา 50 และ 28  บาท ถ้า B ตูม บาน ราคา 30 และ 20 บาท ถ้าเป็น C ตูมและบานราคา 15 บาท  ตกเกรดราคา 6 บาท  สภาพอากาศมีผลถ้าร้อน  ดอกจะบาน จะแก้ไขโดยการใส่หมวก  ถ้าอากาศเย็นดอกจะตูม  การพักต้น  ถ้าหากต้องการหน่อ หากพบต้นใหญ่จะต้องถอนทิ้ง เก็บไว้เฉพาะเกรด B C  จะได้ไม่เปลืองปุ๋ยในการบำรุงต้นใหญ่  โรคเพลี้ยไฟ ใบหงิกจะพบช่วงเดือนเมษายน ให้ใช้ยาจากบริษัทสูตร 99 เพราะสามารถใช้ได้จัดอยู่ในประเภทปลอดสารพิษ  คุณสุพจน์  กิจเกตุเกษตรอำเภอพนมทวนซึ่งย้ายมาจาก อำเภอด่านมะขามเตี้ย ดินแดนที่มีการปลูกหน่อไม้ฝรั่งมาหลายปี ได้ ให้ข้อมูลในเวทีแลกเปลี่ยนความรู้เพิ่มเติมว่า สภาพดินของ 2 พื้นที่ด่านมะขามเตี้ยกับอำเภอพนมทวนแตกต่างกัน  ที่ด่านมะขามเตี้ยจะเป็นดินทรายร่วน ระบายน้ำ ตลาดต้องการหน่อเล็ก ปลูก ระหว่างแถวห่าง 1.2 ระหว่างต้น 30 ซ.ม.  เพื่อให้ได้หน่อเล็ก อวบหนา 1 ซ.ม. ยาว10 ซ.ม.ต้นตอถอนง่าย พื้นที่ลาดเทไปตามร่องน้ำ  ส่วนที่บริเวณอ.พนมทวน ผู้รับซื้อจะต้องการหน่ออวบใหญ่ จึงต้องปลูกระยะห่างระหว่างต้นมากกว่าอ.อ่านมะขามเตี้ย ไม่มีปัญหาเรื่องการระบายน้ำ การพักต้นทำเหมือนกัน ใช้รถไถเล็กขึ้นได้เลย  การใส่ปุ๋ยให้ทางราก หว่าน  พูนดิน  ใส่แกลบดิบจะไม่มีเชื้อรา  ถ้าใช้ขี้ไก่จะพบเชื้อรามาก  ใบร่วงสีเหลือง  หน่อไม้ฝรั่งชอบความชื้นแต่ไม่ชอบแฉะ  การให้น้ำแบบสเปรย์เพื่อช่วยล้างน้ำค้างป้องกันใบเป็นเชื้อรา...........................................................
หมายเลขบันทึก: 48098เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2006 09:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
เยี่ยมมากครับ จะรอตอนที่ 3
  • แวะมาทักทาย
  • จะนำเข้าแพลนเน็ต
  • และแนะนำให้น้องบ่าวที่พัทลุงรู้จักครับ


เชิญท่านสู่โลกของไคติน-ไคโตซาน ( สารมหัศจรรย์ )
ไคโตซาน คืออะไร
คือ สารโพลิเมอร์ชีวภาพที่สกัดจากไคติน ซึ่งไคตินเป็นวัสดุธรรมชาติของกลุ่มคาร์โบไฮเครทประเภทโครงสร้างที่เป็นเส้นใย โดยมีลักษณะเป็น โคโพลิเมอร์ที่อยู่รวมกันในสายโซ่ของโมเลกุล ระหว่างโมโนเมอร์ของไคติน และโมโนเมอร์ของไคโตซาน กล่าวคือ ถ้าสัดส่วนที่อยู่ร่วมกันนั้นมีโมโนเมอร์แรกมากกว่า จะแสดงลักษณะสมบัติเด่นของไคติน แต่ถ้าสัดส่วนที่อยู่ร่วมกันนั้นมีโมโนเมอร์ที่สองมากกว่า ก็จะแสดงลักษณะเด่นของไคโตซาน ซึ่งลักษณะโคพอลอเมอร์นี้จะมีผลต่อเนื่องไปยังสมบัติการละลายของไคติน-ไคโตซาน

ภาพรวมการใช้ไคติน-ไคโตซาน ในประเทศไทย ณ วันนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคของโลกเทคโนโลยีชีวภาพ ประเทศไทยได้เปรียบกว่าประเทศอื่นๆ อันเนื่อวมาจากเรามีความพร้อมในด้านวัตถุดิบ ( เปลือกกุ้ง,ปู ) ปัจจุบันเราได้มีการดำเนินธุรกิจ ผลิตไคติน-ไคโตซาน ออกมาสู่ตลาดตามความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่าผลิตภัณฑ์ไคโตซานได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมา ซึ่งปัจจุบันตลาดมีความต้องการสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตลาดในด้านการเกษตร ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ อาหารเสริม และต่างประเทศเช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น อเมริกา เยอรมัน ฯลฯ ซึ่งเราได้มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อนำไปใช้เช่น ในด้านการเกษตร อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ฯลฯ
ไคโตซาน เป็นสารโพลิเมอร์ธรรมชาติที่สกัดได้จากเปลือกกุ้ง,ปู,แกนปลาหมึก เป็นต้น อนุพันธุ์ของมันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น ด้านการเกษตร บำบัดน้ำเสีย เครื่องสำอางค์ การแพทย์ เป็นต้น เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษหลายประการ อันได้แก่ความไม่เป็นพิษ สามารถเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อของคนและสัตว์ ความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดเพื่อการเกษตรปลอดสารพิษ ไม่มีสารตกค้าง ย่อยสะลายด้วยเอนไซม์ในดิน ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้มากมายดังนี้

ผลิตภัณฑ์การเกษตร
ไคโตซาน เป็นสารที่สกัดได้จากธรรมชาติ เพื่อประโยชน์ในด้านการเกษตรทั่วๆไป เพื่อเป็นแนวทางในการลดสารเคมีและยาฆ่าแมลง ที่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงทุกชนิด
ณ.ปัจจุบันเกษตรกรประสบปัญหาในด้านต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะด้านต้นทุนการผลิต ราคาของผลผลิต อัตราการใช้ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช และการบำรุงปรับปรุงคุณภาพดิน อันเนื่องมาจากการใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืชในอดีตที่ผ่านมานั้น เกษตรกรต้องพึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ในการจัดการดูแลและบำรุงในด้านต่างๆจากสารเคมีทุกชนิด เพื่อผลิตผลทางด้านการเกษตรของเกษตรกร ที่มุ้งเน้นในการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่จะป้อนต่อความต้องการของตลาดโลกแลผู้บริโภค แต่ปัจจุบันผลผลิตต่างๆ เริ่มเกิดมีผลกระทบจากการใช้สารเคมีที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่น ผลผลิตลดลง คุณภาพของผลผลิตต่ำลง เกิดสารพิษตกค้างในผลผลิต ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราสารถแก้ไขได้ หากเกษตรกรให้ความสำคัยและเปลี่ยนทัศนะคติและพฤติกรรม ที่จะหันมาใช้สารชีวภาพ เพื่อทดแทนสารเคมีที่รุนแรงและมีพิษตกค้าง เพราะปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้น ในการรับประทานอาหาร ดังนั้นผลผลิตจึงต้องมีคุณภาพดีและปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง
ดังนั้นอดีตจนถึงปัจจุบัน นักวิชาการหลายๆท่าน จึงได้พยายามคิดค้นและวิจัยเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ เพื่อเป้นไปตามแนวพระราชดำริ ( การเกษตรปลอดสารพิษ ทุกชีวิตยั่งยืน ) และตามกระแสของตลาดโลก สิ่งเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะคิดค้นและพัฒนาในผลิตภัณฑ์ทางด้านเกษตรทุกชนิด ซึ่ง ไคโตซาน เป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ได้คิดค้นและวิจัยและพัฒนา เพื่อนำมาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการที่จะลดปริมาณการใช้สารเคมีให้ลดลง และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อพัฒนาคุณภาพของผลผลิต และต้นทุนของเกษตรกรดังนี้

1. นำมาใช้เป็นสารเร่งการเจริญเติบโตของพืช ทุกชนิด เช่น กระตุ้นการแตกราก ใบ ออกดอก ติดผล เป็นต้นฯลฯ
2. นำมาใช้ป้องกันและยับยั้งโรคพืช เช่น โรคเชื้อรา ไวรัส แบคทีเรีย และโรคแมลง เป็นต้น ฯลฯ
3. นำมาใช้เคลือบรักษาผลผลิตทางการเกษตร หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต
4. นำมาใช้เคลือบรักษาเมล็ดพันธุ์
5. นำมาใช้เป็นส่วนผสมและเคลือบเม็ดปุ๋ย ( ปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยอินทรีย์+เคมี )
6. นำมาใช้ปรับสภาพดิน เพิ่มความพรุนในดิน การดูดซับน้ำ การอุ้มน้ำ เป็นต้นฯลฯ
7. ช่วยกระตุ้นต้นพืชสร้างเอนไซม์ไคติเนส ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลง จะย่อยสะลายไคตินที่เป็นองค์ประกอบของเปลือกหุ้มตัวของแมลงศัตรูพืชได้ดี

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
คุณสมบัติเด่น
1. ช่วยดักจับไขมันในร่างกาย
2. ช่วยลดคลอเลสเตอรอล ในเลือด
3. ช่วยปรับระดับความสมดุลในร่างกายให้ปกติ
4. ช่วยปรับระดับและควบคุมโรคได้บางชนิดไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือขยายวงกว้างขึ้น
4. ช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ
5. ช่วยขับถ่ายและดักจับสารพิษในร่างกายให้ขับถ่ายออกไป

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์
1. ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ ซึ่งนิยมกันมาก ( ในปัจจุบัน ) เช่น สบู่ ครีมกันแดด เป็นต้นฯลฯ
2. ผลิตภัณฑ์น้ำยาแต้มสิว ช่วยรักษาสิว ฝ้า และลดรอยด่างดำให้จางหายไป และยังช่วยปรับสภาพฟื้นฟูของผิวหน้าด้วย

ผลิตภัณฑ์ในด้านอาหาร
1. นำมาใช้ทดแทนสารกัดบูด
2. เคลือบรักษาคุณภาพอาหารทางโภชนาการ
3. ยึดอายุการเก็บรักษาคุณภาพอาหาร เป็นต้น ฯลฯ

ในต่างประเทศเช่น เยอรมัน รัสเซีย เบลเยียม และญี่ปุ่น ฯลฯ มีการวิจัยและพัฒนาไคโตซาน เพื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมากมาย ทั้งในวงการเกษตร การแพทย์ และอาหาร เพื่อพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ต่างๆ และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดฯลฯ

รับผลิตและจำหน่าย ไคติน - ไคโตซาน ( chitin-chitosan )
สารสกัดจากธรรมชาติ ผลิตจากเปลือกกุ้ง,แกนปลาหมึก รับประกันคุณภาพสินค้าส่งออก ผลิตและจำหน่ายใช้ได้ทั้งในด้านการเกษตร พืชสวนพืชไร่ , ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ เป็นต้นฯลฯ

หจก.อินทรีเพิ่มผล
โทร    0819892588

ขอนแก่นอ่านแล้วเยี่ยมมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท