พระมหากษัตริย์องค์ต่อไป


เราควรปรับระบบการสืบทอดพระราชอำนาจอย่างไร จึงจะประกันได้ว่า กษัตริย์พระองค์ต่อไป จะทรงเก่ง และ ทรงดี อย่างในหลวงองค์ปัจจุบัน ไม่เช่นนั้นแล้ว ...

ในหลวงได้ทรงพระราชดำรัสทำนองว่า “คนชั่วมีมาก คนดีมีน้อย ดังนั้นทำอย่างไรจะสร้างระบบให้คนเก่ง คนดี ได้มีอำนาจในการบริหารประเทศ”

 

ในบริบทแบบสังคมไทยเราในปัจจุบันนี้ ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจการเมืองในระบอบปชต.อย่างถ่องแท้  ที่ส่วนใหญ่คิดว่าปชต.คือการเลือกตั้ง ดังนั้นถ้าเราใช้ระบบปชต.แบบฝรั่ง  แบบวันแมนวันโหวต  ใช้เสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ เชื่อได้ว่าส่วนใหญ่แล้วเราก็คงได้แต่นักการเมืองชั่ว ที่ซื้อเสียง(ข้างมาก)เข้ามา แล้วมาบริหารประเทศเพื่อประโยชน์สุขของพวกเขา นั่นแล

 

ท่ามกลางเงื่อนไขต่างๆ ในสังคมไทยวันนี้ (ที่พวกฝรั่งอเมริกันไม่มีวันเข้าใจได้อย่างแท้จริง) ผมยังเห็นด้วยกับระบอบปชต.อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  และไม่ใช่เป็นประมุขแต่เชิงสัญลักษณ์ แต่ในเชิงที่มีพระราชอำนาจในการทัดทานแนวทางการเมืองนั่นเทียว ดังเช่นพระราชอำนาจตาม รธน. มาตรา ๑๕๐ และ ๑๕๑

 

ในบริบทสังคมไทยวันนี้ ผมเห็นว่า กษัตริย์ที่เป็นประมุขของประเทศนั้นคือตำแหน่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นจึงยิ่ง จำเป็นที่ต้องประกันได้ว่าต้องได้ “องค์เก่งองค์ดี” เข้ามาเป็นประมุข..ดังพระราชดำรัสข้างต้น  หาไม่แล้วก็จักสุ่มเสี่ยงต่ออนาคตชาติยิ่งนัก

 

เรื่องการปรับปชต.ไทยเราเพื่อให้ได้คนเก่งคนดีเข้ามาเป็น สส. สว. นั้นผมได้เขียนไว้มากแล้ว  ..แต่ในทำนองเดียวกัน ผมเห็นว่า เราควรปรับระบบให้ได้ “เจ้าเก่งเจ้าดี” มาเป็นประมุขของชาติด้วย ...หาไม่แล้วเราจะได้ประมุขของชาติที่อาจไม่เก่งและไม่ดีที่สุด เพื่อเข้ามาคานอำนาจกับ นักการเมือง ที่ก็รู้ๆกันอยู่แล้วพวกนี้มันชั่วและโง่ เสียเป็นส่วนมาก  (และเขี้ยวลากดินแบบสุดๆอีกด้วย)

 

นักการเมืองพวกที่เก่งและดีมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งตามระบบปชต.เสียงข้างมากนั้น พวกนี้ก็ไม่อาจทัดทานกระแสชั่วโง่ของนักการเมืองส่วนมากได้  ...ดังนั้นจึงอยากเห็นมีกลไกถ่วงดุลอำนาจจากพระ “ธรรมราชา” อีกขั้นตอนหนึ่ง

 

วันนี้ต้องถามกันว่า เราควรปรับระบบการสืบทอดพระราชอำนาจอย่างไร จึงจะประกันได้ว่า กษัตริย์พระองค์ต่อไป จะทรงเก่ง และ ทรงดี อย่างในหลวงองค์ปัจจุบัน  ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจจะต้านอำนาจหื่นของนักการเมืองไทยส่วนใหญ่ไม่อยู่

 

ที่ผ่านมาวิกฤตการณ์คอมมิวนิสต์อันยาวนาน ถึง    ๑๔ ตุลา  ๖ ตุลา  พฤษภาทมิฬ  ประชานิยมผสมเผด็จการทุนนิยมสามานย์   เราก็มีเพียงพระราชอำนาจจากในหลวงของเรานี่แหละ ที่ต้านอำนาจหื่นจากนักการเมือง จนประคองชาติไทยไว้ได้จนถึงทุกวันนี้

 

แต่อนาคตนั้นไม่แน่ หากในหลวงองค์ต่อไปไม่ใช่องค์ที่เก่งที่สุด และดีที่สุด ...ถามว่าอะไรอาจเกิดขึ้น

 

...คนถางทาง (๓ มีค. ๒๕๕๕)

หมายเลขบันทึก: 480809เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2012 07:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 20:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

วันนี้ผมขอเสนอเสริมด้วยว่า คนเก่ง คนดี ฉลาดรอบ นั้น ประเทศไทยเราพอมีอยู่

แต่จะหาที่กล้าด้วยนั้น..แสนยาก

ยิ่งกว่า งมฟางในมหาสมุทร

ส่วนใหญ่มีแต่เก่งดี และกอกระดุม

อนิจจา..ประเทศไทย

สงสัยจะถึงคราวล่มสลายจริงๆแล้วกระมัง

ขอบวกดอกไม้ให้ท่านอีก 99 ดอกครับ

 

ผมเสริมอีกนิดว่า ในอดีต หากกษัตริย์ไม่เก่ง ไม่ดี ก็อยู่ไม่ได้ จะถูกล้มราชบัลลังก์จากอำมาตย์ใหญ่ในที่สุด แล้วตั้งราชวงศ์ใหม่ แต่ในวันนี้บริบทเปลี่ยนไป อำมาตย์ใหญ่ ไม่อาจทำเช่นนั้น ซึ่งเป็นการ "คานอำนาจ" ได้อีกต่อไป ผมจึงเห็นว่า เราต้องมีระบบการคัดสรรพระรัชทายาท ให้ดี ทีสามารถเป็นดุลที่คานอำนาจกับนักการเมืองเลวส่วนใหญ่ให้ได้ ถ้าไม่เช่นนั้นพระมหากษัตริย์ก็เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ ตามที่พวก "มัน" ต้องการเท่านั้นเอง ทำให้มันสามารถละเลงชาติเราอย่างไรก็ได้ตามใจน้ำเงินของพวกมัน

ประชานิยม เปรียบเหมือนสาวงามช่างน่ารัก ...เผด็จการทุนนิยมสามานต์เปรียบเหมือนสัตว์ร้าย เมื่อสองอย่างนี้มารวมกัน มันจึงกลายเป็นอสูรในร่างของสาวงาม กษัตริย์ที่เก่ง และมีธรรมราชา เป็นคู่ต่อกรที่สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่อาจชนะได้ กษัตริย์องค์ต่อไปอาจปกป้องบ้านเมืองไว้ได้ ถ้าพระองค์ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท