พรากอารมณ์(ตอนจบ)


เขาอธิษฐาน ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงขออย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

(ต่อ)...

   เขาผ่านเดือนนั้นไปได้ด้วยดี เขาเริ่มจับอารมณ์ได้หลายตัว ตั้งแต่เจ้าความขุ่นมัวอันรุ่มร้อนที่ทำให้เกิดอารมณ์โมโหร้าย ซึ่งพาหะที่ทำให้เกิดก็มีเรื่องวัตถุเงินทองข้าวของบ้านช่องและความยึดมั่นว่าเป็นของตัวของตน หรือว่าบ้านหลังใหม่หลังนี้ที่ทำให้ความสุขของเขาหายไป เจ้าอารมณ์ขุ่นมัวมันแฝงอยู่ในบ้านหลังนี้เองหรือ ส่วนเจ้าอารมณ์ตัวใหม่ที่เขาเพิ่งพบเจอ แม้จะไม่ร้ายกาจเหมือนเจ้าขุ่นมัว แต่เจ้าความเหงาก็ทำให้จิตใจของเขาอ่อนแอลงจนกลายเป็นความซึมเศร้า มันมาพร้อมกับสายลมเย็น ค่ำคืนอันเงียบงันของรัตติกาล และเสียงหรีดหริ่งเรไรข้างๆคลองหน้าหมู่บ้าน แต่ข้อดีของทั้งสองอารมณ์ก็มี เพราะมันจะคอยช่วยป้องปรามซึ่งกันและกันไม่ให้สองอารมทั้งณ์เกิดขึ้นพร้อมกันได้ เขาพยายามเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อเตรียมรับมือกับอารมณ์เหล่านั้น

   ชีวิตครอบครัวของเขายังคงดำเนินไปในบ้านหลังใหม่ บ้านหลังที่เขาคิดว่าเป็นรังของเจ้าอารมณ์ทั้งหลาย เขาเก็บกดอารมณ์ขุ่นมัวที่ทำให้จิตใจโกรธเคืองเร่าร้อนและโมโหร้ายจนแทบแสดงตนไม่ออก จะมีก็อารมณ์เหงาที่เข้ามาแทนที่มากขึ้น แม้จะไม่ร้ายกาจแต่สภาพจิตใจของเขาเริ่มอ่อนแอลงมากขึ้น จนเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตที่มีแต่เรื่องราวซ้ำๆ เกิดขึ้นได้ทุกวัน ทุกเดือนและอาจต่อเนื่องไปเป็นปีๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบื่อต่อชีวิตครอบครัวภรรยาและลูก เบื่อที่เงินใช้จ่ายไม่เพียงพอ เบื่อกับงานการที่ซ้ำซากจำเจ เบื่อกับการประชุม การแก่งแย่งแข่งขันกันของหมู่หัวหน้างาน เบื่อต่อการทำงานของลูกน้องที่ทำงานไม่ได้อย่างที่ต้องการ
   หรือว่าเขาเจอกับเจ้าอารมณ์ตัวใหม่เข้าอีกตัวแล้ว อารมณ์ความเบื่อหน่าย ที่ทำให้เขาเบื่อระอาต่อการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเล่าเรียนของลูก ค่าอะไรๆต่างๆที่ดูเหมือนไร้ค่าในสายตาของเขา เบื่อต่อการบ่นของภรรยาต่อลูกสาวที่ไม่ช่วยงานบ้าน เบื่องานที่ซ้ำซากจำเจ เบื่อจนเจ้าอารณ์ขุ่นมัวที่เคยมีมากมายเริ่มจางหายไป และเจ้าความเบื่อหน่ายเจ้าความเหงาเศร้าสร้อยเข้ามาแทนที่ มันไม่ใช่แค่มีอยู่เพียงภายในบ้านหลังใหม่เท่านั้น มันแฝงอยู่ทุกหนทุกแห่ง มันพร้อมจะแทรกซึมผ่านจิตใจของเขาให้เกิดภาวะความซึมเศร้า ความอ่อนเพลียระเหี่ยใจได้ตลอดเวลาในทุกสถานที่ทุกโอกาส และเขายังหาวิธีกำจัดพวกมันไม่ได้ ที่สำคัญกว่านั้นความเบื่อหน่ายกับความเหงาหงอยมันคอยส่งเสริมซึ่งกันและกันเกาะกินหัวใจให้พร้อมจะอ่อนปวกเปียกสลายกลายเป็นผุยผงธุลีดินเมื่อใดก็ได้
   ที่เขาเคยคิดว่าเจ้าอารมณ์ขุ่นมัวผู้เร่าร้อนมันแอบซุกซ่อนอยู่ในบ้านหลังใหม่นั้นอาจจะไม่ใช่เสียทีเดียว แท้จริงทุกเจ้าอารมณ์มันอยู่ในจิตใจของเขาเอง เขาคือพาหะแห่งอารมณ์อันชั่วร้าย อารมณ์ที่สร้างความซึมเศร้า อารมณ์ที่คอยจะทำให้จิตใจเกิดความเอือมระอาต่อชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายนี้ แล้วเขาจะควบคุมพวกมันได้อย่างไร เขาพยายามครุ่นคิด
   ก่อนนอนในคืนวันนั้นหลังไหว้พระสวดมนต์เสร็จ เขาอธิษฐาน ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงขออย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
   วันเวลาช่างหมุนไปเร็วนัก สามปีผ่านไปกับบ้านหลังใหม่ ชีวิตของเขายิ่งเลวร้ายลงไปมากขึ้นและเขาก็ไม่สามารถกำจัดเจ้าตัวอารมณ์ทั้งหลาย ที่ผลัดกันแสดงผลัดกันเข้าจู่โจมจิตใจของเขาจนไม่สามารถควบคุมได้ในแต่ละวัน เขาทะเลาะกับภรรยาบ่อยมากขึ้น มีบางครั้งที่อารมณ์ก็พลัดหลงไปลงที่ลูกสาวของเขาด้วย
   "เราเลิกกันดีมั๊ย อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น" หรือว่า
   ใช่สิเสียงนั้นมันหลอกหลอนขึ้นมาอีก บ้านหลังใหม่ที่เขาคิดว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้อะไรดีขึ้น มันกลับกลายเป็นรังของเหล่าอารมณ์ร้ายทั้งหลาย แล้วลุกลามเข้ามาสิงอยู่ในจิตใจของเขาจนชีวิตเปลี่ยนไป อารมณ์ขุ่นมัวที่เร่าร้อน มันอาละวาดไปทุกสถานที่ไม่เว้นที่ทำงานหรือขณะขับรถอยู่ตามท้องถนน จนกระทั้งที่บ้านกับลูกกับภรรยาของเขา เจ้าอารมณ์ซึมเศร้าเหงาหงอยกับความเบื่อหน่ายก็จะตามเข้ามาซ้ำเติม เขาเข้าบ้านดึกมากขึ้นทุกวันเพื่อไม่ให้ภรรยาและลูกต้องมาเจอกับอารมณ์อันเลวร้ายเหล่านี้
   "เราเลิกกันดีมั๊ย..." หรือว่าเสียงหลอนนี้
....
   เช้าวันหนึ่งคนทั้งหมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งนั้น ก็ลือกันสะพัดว่ามีคนหายออกไปจากหมู่บ้าน โดยรปภ.บอกว่าเคยเห็นเขาเดินเข้าออกอย่างนี้ทุกๆคืน เหมือนคนใจลอย แต่ไม่คิดว่าคืนนั้นเขาจะไม่กลับเข้ามาอีก
   ส่วนเพื่อนบ้านที่อยู่ซอยเดียวกันและรู้จักมักคุ้นกันกับภรรยาและลูกของเขาก็เพียงแต่เข้าไปปลอบว่าเขาคงจะกลับมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง ขณะภรรยาของเขาเจอบันทึกที่เขียนไว้บนหัวเตียงว่า
   "เธอ...เลี้ยงลูกให้ดีนะ ฉันทนกับอารมณ์อันเลวร้าย อารมณ์อันน่าเบื่อหน่ายของฉันไม่ไหวแล้ว อีกอย่างฉันอยู่ไปรังแต่จะทำให้ครอบครัวมีแต่ความทุกข์ความเหงา ฉันมั่นใจว่าเธอเลี้ยงลูกได้  ขออโหสิกรรมให้ฉันด้วย..."
   "ถึงลูกสาวของพ่อ...ตั้งใจเรียนให้ดีนะลูกจะได้จบออกมาทำงานช่วยแม่  พ่อมั่นใจว่าแม่และลูกอยู่กันได้ อภัยและอโหสิกรรมให้พ่อด้วยนะลูก...พ่อรักลูกนะ  ลาก่อน ...จากพ่อ"
                                              จบ
                                  ...............................
โดย พ. แจมจำรัส
 
หมายเลขบันทึก: 479597เขียนเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2012 10:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน 2013 21:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ในที่สุดเจ้าอารมณ์ที่ว่าก็ชนะนะคะ เศร้าจัง

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณคุณปริม

ในชีวิตจริงเราจะต้องเอาชนะพวกมันครับ

Ico48  

ขอบคุณอ.โสภณครับ

บันทึกของเจ้าอารมณ์ที่มันสิงอยู่ในตัวพ่อครับ

 

ตามมาให้กะลังใจ...กะเวทนาอันปวดร้าว...

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

Ico48

Ico48

ขอบคุณครับ แว่นธรรมทอง ที่ติดตามอ่านและอยากให้มีภาค 2

จะพยายามเขียนเรื่องอื่นอีกครับอาจจะไม่ต่อเนื่องกับเรื่องนี้

...แต่ชีวิตมันก็คงวนเวียนอยู่กับสิ่งหล่านี้ล่ะครับ อารมณ์ เวทนา กับความรับรู้ในปัจจุบันขณะ ว่าจะตามมันจับมันได้หรือไม่

เท่านั้นเอง...

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท