เมื่อทารกแรกเกิดมีภาวะเจ็บป่วย ต้องแยกจากมารดามารับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่ในงานผู้ป่วยหนัก ทำให้มารดามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการและแนวทางการดูแลบุตร พยาบาลวิชาชีพจึงต้องให้ข้อมูลและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพที่ ครอบคลุมปัญหา ความต้องการ และเสริมพลังอำนาจแก่มารดาและครอบครัวให้สามารถปรับตัวกับความเจ็บป่วยที่วิกฤตของทารกได้
งานผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด จึงพัฒนาแนวทางการปฏิบัติการให้ข้อมูลสุขภาพในทารกที่มีภาวะวิกฤตแก่มารดา เพื่อให้มารดาได้ข้อมูลสุขภาพที่รวดเร็ว ลดความวิตกกังวล และเพิ่มความพึงพอใจ ต่อระบบการให้ข้อมูลของงานผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดยิ่งขึ้น
@มารดาได้รับข้อมูลสุขภาพของทารกภาวะวิกฤตภายใน48 ชั่วโมง
@มารดามีความเครียดลดลง
@มารดามีความพึงพอใจต่อการได้รับข้อมูลสุขภาพ
จัดทำสื่อเป็นภาพพลิกในการให้ข้อมูลแก่มารดาเพื่อให้มารดาได้เห็นภาพชัดเจนและเข้าใจมากขึ้น
การออกไปให้ข้อมูลแก่มารดาหลังคลอดเนื่องจากมารดาบางรายมีข้อจำกัดไม่สามรถลุกจากจากเตียงได้/หรือยังเจ็บแผลผ่าตัดและออ่นเพลียไม่สามารถมาเยี่ยมบุตรได้ทำให้มารดาอาจได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องจากญาติ หรือมารดาท่านอื่น
เราจึงจำเป็นต้องออกไปให้ข้อมูลแก่มารดาเพื่อลดความวิตกกังวลและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องสามารถปรับตัวกับความเจ็บป่วยของทารก
และสามารถเตรียมตัวในการดูแลบุตรขณะอยูโรงพยาบาลได้
ปล.ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูใน ศูนย์อนามัยที่8/ D.k/ผู้ป่วยหนัก/ครังความรู้/KM55....
- ทีมงานของเราได้เริ่มดำเนินการประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เองคะ
เมื่อได้ผลการดำเนินงานแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกที
หากท่านไดมีข้อเสนอแนะได้โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้เลยคะ
ยินดีรับคำแนะนำ....เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขต่อไปคะ
ขอถามว่าทำไมถึงคิดทำเชิงรุกละ
แวะมาตอบให้....
เนื่องจาก ที่ผ่านมาบิดา/ญาติ จะเป็นผู้มารับทราบข้อมูลของลูกจากพยาบาลตอนแรกรับ
แต่เมื่อมารดาลุกไหวมาเยี่ยมลูก มารดาจะบอกว่าไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับลูกไม่มีใครบอก
และมารดาจะร้องให้ เมื่อมาพบลูก
ดังนั้น พวกเราจึงต้องออกไปให้ข้อมูลแก่มารดาเชิงรุก...ดั่งเหตุผลข้างบน
ตอนนี้กำลังจะพัฒนาเป็น R2R แล้วนะค่ะ...