กลับบ้าน...


กลับมาเถอะ กลับมา "บ้าน" นะคนดี - กลับมา "ณ ที่นี่" "ณ ปัจจุบัน"

ทุกช่วงเวลาของวันนั้นงดงามเสมอ....

ไม่ว่าจะเป็นยามเช้า ยามแสงแรกแห่งวันเบิกฟ้า ยิ่งในช่วงหน้าหนาว ยามหมอกบางช่วยทำให้พระอาทิตย์เป็นสีแดงกลม ดูแล้วไม่แสบตา สวยงามยิ่ง หมูนกเริ่มออกหากิน..

พอสายๆ เหล่าแมลง และผีเสื้อ เริ่มออกโบยบิน ดอกไม้เบ่งบานรับแสงตะวัน...

ยามกลางวัน แสงแดดช่วยให้เราเห็นวิว ทิวทัศน์ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา...

ยามบ่ายมักมีฝนตก ให้ความรู้สึกชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำ...

และในยามเย็นยามตะวันจะลาลับ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ สดสวย ดวงอาทิตย์ค่อยๆ จมหายไป จนกระทั่งทไวไลท์ถูกกลบไปด้วยความมืดมิด...

ในตอนกลางคืน เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงม แสงเดือน แสงดาวพราวฟ้า ก็งดงามสำหรับคนที่ชอบดูดาว โรแมนติกไปอีกแบบ...

ฉันชอบยามเย็น ยามตะวันลับฟ้าเป็นที่สุด

สำหรับฉัน...ยามเย็นเป็นเวลาแห่งความอบอุ่น หลังเลิกงาน ยามที่เราปล่อยความวุ่นวายของวันไว้เบื้องหลัง  มุ่งหน้ากลับบ้านไปหาครอบครัว คนรัก...

 

ยามเย็นวันนี้ที่ Upper Seletar Reservoir...

..

..

 

..

..

สำหรับคนที่ชอบไปรอดูตะวันตกดิน เขาจะรู้ว่าเวลาของการรอคอยนั้น ยาวนานมากมาย แต่ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจริงๆนั้น รวดเร็วยิ่งนัก สำหรับตากล้องมือใหม่หัดขับอย่างฉัน บางทีเวลานั้นมีไม่พอสำหรับภาพงามๆ สักใบด้วยซ้ำ

ช่วงเวลาที่สำคัญยามนั้น การอยู่ในปัจจุบันขณะ...งดงามที่สุด...

ยามเย็นย่ำเช่นนั้น การเดินทาง "กลับบ้าน" ก็ยังชวนให้ฉันนึกถึงคำพูดของ หลวงปู่ ติช นัท ฮันท์...

 

“How can you be alive when only your body is there

and your mind still wanders in the past or in the future.

You are not really alive.

You are not available to you.

You are not available to your beloved ones.

So come home to yourself in the here and now.

Become free and alive.

And your true presence will profit yourself and your beloved ones.”

 

เธอจะมีชีวิตได้อย่างไร

ในเมื่อมี "เพียงกาย" อยู่ตรงนี้

จิตใจหรือ ลอยล่องไป มิใยดี

ไปอยู่ที่ แห่งใด โอ้ใจตน

 

ใฝ่ฝันหา เวลา ที่ยังมาไม่ถึง

เฝ้าคำนึง ถึงวันวาน ที่ผ่านพ้น

กับความคิด วนเวียน และวกวน

หาได้อยู่ กับคน ที่สำคัญ

 

เธอจะมีชีวิตได้อย่างไร

ในเมื่อมี "เพียงกาย" อยู่ตรงนี้

กลับมาเถอะ กลับมา "บ้าน" นะคนดี

กลับมา "ณ ที่นี่" "ณ ปัจจุบัน"

แค่เพียงใจ กลับมา เคียงกายนั้น

สุขคงพลัน เป็นของเธอ และคนที่เธอรัก


 

 

ด้วยความนอบน้อม,


ปริม ทัดบุปผา
สิงคโปร์,
๑๗ มกราคม ๒๕๕๕

คำสำคัญ (Tags): #กลับบ้าน...
หมายเลขบันทึก: 474995เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2012 21:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 01:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

...

อาจารย์ปริม เขียนกลอน ได้ลึกซึ้ง
ทำให้ผม ตะลึง ดวงตากว้าง
โอ้นี่กลอน การเดิน ในเส้นทาง
การก้าวย่าง ก้าวหนึ่ง พึงระวัง

...

งดงามครับ ;)...

"Here and now" ของพระคุณเจ้าช่างดีนัก แม้ว่าจะทำได้ยากหน่อย คงต้องฝึกกันไป

สวัสดีค่ะคุณปริม.

...ขอบคุณที่กรุณาแวะไปทักทายค่ะ.

...ขอบคุณสำหรับบันทึกธรรมะ-ธรรมชาติที่แสนอบอุ่นค่ะ (คำพูดเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งถึงใจ).

ขอบคุณคะ ภาพที่ออกมาอบอุ่น โดยเฉพาะภาพสุดท้ายที่ฟ้าเริ่มมืด รู้สึกถึงความเยือกเย็นมั่นคงด้วย

..

นึกถึงตอนขับรถกลับบ้านที่เชียงใหม่ บนถนนสุเทพ และถนนเลียบคลองชลประทาน

เห็นทิวเขา กับฟ้าสีชมพู ก็รู้สึกผ่อนคลาย ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง (เพื่อไปเจอวันพรุ่งนี้ต่อไป)

ธุ คุณปริมค่ะ..

 

เห็นภาพพระอาทิตย์ยามจะลาลับไปจากขอบฟ้า  ต้อมนึกถึงเพลง "คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว" ค่ะ ^^ 

 

ไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกที่อลาสก้า  คอยเฝ้าดูเกือบทุกวัน ก็ไม่เคยเจอ

เหมือนความสุขที่เราเฝ้าแสวงหา ยิ่งตามก็ยิ่งไม่เจอ

จงจำไว้ว่ามีเวลาที่สำคัญที่สุดเวลาเดียว คือ ปัจจุบัน ช่วงขณะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นเวลาที่เราเป็นเจ้าของที่แท้จริง บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือคนที่เรากำลังติดต่ออยู่ ...คนที่อยู่ต่อหน้าเรา เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะมีโอกาสได้ติดต่อกับใครอีกหรือไม่... และภารกิจที่สำคัญที่สุก็คือการทำให้คนที่อยู่กับเราขณะนั้นๆ...มีความสุข เพราะนั่นเป็นภารกิจอย่างเดียวของชีวิต........ ติช นัท ฮันห์ จาหหนังสือ มหัศจรรย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ

เวลา

เมื่อเธอรู้สึกว่าเธอมาถึงบ้านที่แท้จริง เธอจะรู้สึกสุขและสันติ เธอไม่ต้องกระวนกระวายมองหาบ้านที่ใหนอีกต่อไป การหาบ้านที่แท้จริง ไม่ได้เ้หมายความว่าบ้านของเราตั้งอยู่ ณ พื่นที่ใหน บ้านที่แท้จริงนั้น อยู่ในหัวใจของเราอยู่ในขณะนั้น ณ ปัจจุบันขณะ (ติช นัท ฮันห์)

ท่านอาจารย์ Wasawat Deemarn,

จากประสบการณ์อันมากมายของอาจารย์ คงจะทราบนะคะว่าตอนสุดท้ายเกือบจบไม่ลง หุ หุ

ขอบคุณค่ะ

บ้านคือวิมานของเราที่อยากกลับไปทุกเวลา..มีความสุข..สงบ..ปลดปล่อยจากภาระทั้งปวงจริงๆค่ะ..

กลับบ้าน ภายในใจ ณ ขณะนี้

กลับบ้าน ตระหนักรู้ ทุกแห่งหน

กลับบ้าน เรามีกัน ในตัวตน

กลับบ้าน หนีไม่พ้น จวบสิ้นลมหายใจ

...

ภาพสวยงาม เปี่ยมความหมาย เคยอ่านหนังสือ Now แต่ยังไม่จบ ขอบคุณค่ะ  

  • ช่วงเวลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ารวดเร็วจริงๆครับ ซึ่งอาจเป็นเหตุที่ทำให้หลายคนหลงใหลห้วงเวลานี้ด้วยนะครับ 
  • ขอบคุณภาพสวยๆ และข้อคิดดีๆ รวมทั้งขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยือนครับ

                       ***...เฝ้ารอคอย..ที่สิ้นสุดแห่งวัน-เวลา !...*** 

                             
                                      

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์โสภณคะ

เหตุผลหนึ่งที่ข้าพเจ้าเองเขียนเรื่องปัจจุบันขณะบ่อยมากก็เพื่อใช้ทบทวนและเตือนตนให้บ่อยขึ้นค่ะ

ค่อยๆ ทำไปอย่างอาจารย์ว่าค่ะ

โปรดรักษาสุขภาพนะคะช่วงนี้ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

สวัสดีค่ะคุณน้อย น้ำพอง,

ขอบคุณค่ะที่กรุณามาทักทาย

จะพยายามแบ่งปันเท่าที่รู้และร่ำเรียนมาตามความเข้าใจค่ะ

ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

อาจารย์ ชวนกลับบ้าน แต่ผมห่างบ้านมาหลายร้อยกิโล มาทำกิจกรรมของรพ.ที่เชียงใหม่ คงหลายวัน กว่าจะได้กลับบ้าน

แต่มีโอกาสเห็นอาทิตย์ อุทัยเริ่มไขแสงที่ดอยอินทนนท์ เช้านี้

เมื่อคิดถึงคุณปริม...ความรู้สึกแรกคือต้องมาดูภาพถ่าย เพราะ

สวย และมุมมองที่แปลกและตะลึง

ประทับใจ....

และกลับไปอ่านบันทึก

รู้สึกอิ่มในใจทุกบันทึกครับ

สวัสดีค่ะ อ. หมอ ป.

ขอบคุณค่ะ ภาพถ่ายยามทไวไลท์ นักถ่ายภาพมือโปรบอกว่าจะได้ภาพท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม แต่มือใหม่อย่างเราพยายามเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่เห็นแหละค่ะ คงต้องหาข้ออ้างแวะไปฝึกอีก

เมื่อไหร่คุณหมอจะกลับเชียงใหม่ค่ะเนี่ย นักศึกษาคิดถึงแย่

สวัสดีค่ะ คุณเนปาลี

คำทักทายเก๋จัง ทำให้นึกถึงตอนเป็นเด็กที่ผู้ใหญ่บอกให้เรา "ตุ๊จ้า" คนอื่นเสมอ

ขอบคุณที่ช่วยให้ความหลังอันมีค่าย้อนมาอีกทีค่ะ

ตามไปฟังเพลงที่บอกค่ะ ติดใจมาก เจนิเฟอร์ ร้อองเพลงได้อารมณ์มาาก ครั้งแรกที่ได้ฟังค่ะ ขอบคุณนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณพี่คนบ้านไกล

ความสุขไม่ได้ออยู่ที่การรอคอยนั้นหรือคะ? แม้ไม่มีพระอาทิตย์แต่ท้องฟ้าสีครามก็งดงามมากนะคะ...

ขอบคุณค่ะ :)

สวัสดีค่ะคุณพิชัย,

ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันถ้อยคำที่อ่านแแล้วทำให้หยุดคิดว่าวันนี้ ได้ทำให้คนที่อยู่กับเราขณะนั้นๆ...มีความสุข หรือยัง...

รักษาสุขภาพนะคะ

จงจำไว้ว่ามีเวลาที่สำคัญที่สุดเวลาเดียว คือ ปัจจุบัน ช่วงขณะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นเวลาที่เราเป็นเจ้าของที่แท้จริง บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือคนที่เรากำลังติดต่ออยู่ ...คนที่อยู่ต่อหน้าเรา เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะมีโอกาสได้ติดต่อกับใครอีกหรือไม่... และภารกิจที่สำคัญที่สุก็คือการทำให้คนที่อยู่กับเราขณะนั้นๆ...มีความสุข เพราะนั่นเป็นภารกิจอย่างเดียวของชีวิต........

ติช นัท ฮันห์ จาหหนังสือ มหัศจรรย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ

สวัสดีค่ะ คุณประทีป วัฒนสิทธิ์,

ขอบคุณที่กรุณามาเยี่ยมเยียนนะคะ... :)

สวัสดีค่ะท่านรอง small man,

ขอบคุณที่ช่วยสรุปบทความได้งดงามมากค่ะ

วันนี้กลับถึงบ้านนรึยังคะ

ที่นี่ยังเลยค่ะ วุ่นทั้งวัน ไม่ได้รู้สึกสงบเลย :)

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่,

ขอให้มีความสุขทั้งที่บ้านที่กรุงเทพ และที่บ้าน (ในใจ) ค่ะ :)

สวัสดีค่ะคุณปู

ขอบคุณค่ะที่มาเยียมชม

อ่าน Now จบเมื่อไหร่เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

จะรอติดตามค่ะ :)

สวัสดีค่ะอาจารย์ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ,

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมค่ะ

เพราะความงามยามอาทิตย์ตกค่ะ เลยอยากได้ภาพงามๆ เก็บไว้ แต่ยังไม่ได้สักที :)

สวัสดีค่ะคุณ K.Pually,

ขอบคุณค่ะที่มาทักทาย

เวลาทีอยู่กับตัวเองนั่นถือว่าเป็นการสิ้นสุดแห่งการรอคอย เพราะเราได้มาถึง "บ้าน" แล้ว

ฝันดีนะคะ

สวัสดีค่ะท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei,

ยินดีต้อนรับสู่บ้านเกิดข้าพเจ้าเอง

สนุกไหมคะเชียงใหม่ เที่ยวให้สนุกนะคะ แล้วมาเล่าสู่กันบ้าง

ไม่อยากบอกเลยว่าปริมยังไม่เคยขึ้นไปดอยอินทนนท์ หุ หุ...

สวัสดีค่ะคุณหมอดิเรก

ขอบคุณค่ะ อย่างนี้มีกำลังใจออกไปหัดถ่ายภาพสวยๆ มาฝากอีกมากมายค่ะ

ปริมก็ชอบอ่านบันทึกของคุณหมอค่ะ อ่านแล้วมีความสุข โรแมนติกดีด้วย :)

  • สวัสดีครับ
  • แวะมาเยี่ยมเยียนและเรียนรู้ครับ
  • ภาพสวยมากครับ
  • ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน

ยิ้ม อิ่มเพลิน ลืม... สาธุค่ะ ^____^

ขอบคุณมากมายสำหรับบันทึก ชวนกลับบ้านค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท