ยอดยากินแก้มะเร็งทุกชนิด


ต้มกินไม่เกิน 5 หม้อ โรคมะเร็งชนิดนั้นๆ หายแน่นอนแล

หมอชีวกโกมารภัจจ์
นายแพทย์ประจำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ยอดยากินแก้มะเร็งทุกชนิด

  1. หัวร้อยรู                                         หนัก  50  กรัม
  2. ไม้สักหิน                                       หนัก  50  กรัม
  3. ข้าวเย็นเหนือ-ข้าวเย็นใต้                   หนัก 200 กรัม
  4. โกศจุฬา-โกศเชียง อย่างละ               หนัก  50  กรัม
  5. กำแพงเจ็ดชั้น                                หนัก  50  กรัม
  6. ทองพันชั่ง                                     หนัก 200 กรัม
  7. เหงือกปลาหมอ                              หนัก 200 กรัม
  8. ผีหมอบ                                        หนัก 100 กรัม
  9. หญ้าหนวดแมว                               หนัก  50  กรัม

ข้อปฏิบัติ  

จุดธูป  3  ดอก เทียนคู่  ทำสมาธิ  ระลึกถึงคุณพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  พร้อมทั้งสวดพระคาถาสักกัตวาฯ 3 จบ และอัญเชิญบารมีของพระพุทธไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา (พระกริ่งอโรคยศาล) และบรมครูชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งเป็นผู้คิดค้นตำรายานี้ และนำไปปักไว้กลางแจ้ง

 

วิธีต้มยา  

นำตัวยาทั้งหมดใส่ลงไปในหม้อดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (แหล่งจำหน่ายอยู่ที่เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี) และใส่น้ำฝน (เน้นย้ำ น้ำฝนดีที่สุด) ลงไปในหม้อดิน แช่ยาไว้ประมาณ 10 นาทีให้พอท่วมยา จากนั้นตั้งไฟแรงปานกลางปิดฝาหม้อ ต้มให้เดือดนาน 15 นาที ยกหม้อยาลง แล้วรินยาเก็บไว้ในหม้อเคลือบใหญ่มีหูหิ้ว ขนาดเบอร์ 32  (ครั้งที่ 1) จากนั้นเติมน้ำลงไปให้ท่วมตัวยา แล้วต้มให้เดือดนาน 15 นาที แล้วรินน้ำยาเก็บรวมไว้กับของเก่า (ครั้งที่ 2) ใส่น้ำให้ท่วมตัวยาใหม่อีกครั้ง ต้มให้เดือดนาน 15 นาที แล้วรินน้ำยาเก็บไว้รวมกับของเก่า (ครั้งที่ 3) ส่วนกากยาที่เหลือทิ้งให้เย็น จึงนำไปเทที่ต้นโพธิ์

หมายเหตุ  เวลา 15 นาที เริ่มนับตั้งแต่ยาเดือดเต็มที่ เป็นต้น

              ในกรณีที่ยังไม่เป็นมะเร็ง ก็สามารถกินยานี้เพื่อป้องกันก่อนได้

 

วิธีกินยา  

อุ่นยา (อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง) ไว้กินเรื่อยๆ ก่อนอาหาร 3 เวลา ครั้งละ 1 ถ้วยกาแฟ (มีหู) และก่อนกินยาทุกครั้งให้สวดคาถาพระสักกัตวาฯ 3 จบ เมื่อหมดน้ำยาก็ให้ทำใหม่ ต้มกินไม่เกิน 5 หม้อ โรคมะเร็งชนิดนั้นๆ หายแน่นอนแลฯ (หากว่ามะเร็งลุกลามไปมากให้ทานยาเพิ่มขึ้นอีกในแต่ละมื้อ และอาจจะต้องกินยาเพิ่มอีกหลายหม้อ)

หมายเหตุ  ผู้ป่วยจะต้องมีจิตใจที่ศรัทธามั่นคงตัวยา จึงจะมีศักดานุภาพมหาศาล

 

พระคาถากำกับยาสมุนไพร

 

          อาญะตัญจะ  กะโรถะ  วิตถะตัญจะ  อัปปิตัญจะ  สุวิตัญจะ

สุปะวายิตัญจะ  สุวิเลกขิตัญจะ  สุวิตัจฉิตัญจะ  กะโรถะ  อัปเปวะนามะ

สัตถาธะนุง  อากัฒฑิตุง  นาทาสิ  นะปะโรปะรัง  นิพกุเภถะ

นาติมัญเญถะ  กัตถะจิ  อะสังวิสุโร  ปุสะพุพะ  สังวิธา  ปุกะยะปะ

อาปามะจุปะ  ทีมะสังอังชุ  จิเจรูนิ  นะมะอะอุ  พุทธะเมตตัง  จิตตังมะมะ

พุทธะพุทธา  นุภาเวนะ ธัมมะเมตตัง  จิตตังมะมะ ธัมมะธัมมานุภาเวนะ

สังฆะเมตตัง  จิตตังมะมะ  สังฆะสังฆานุภาเวนะ................ฯ

 

พระคาถาสักกัตวาฯ

           สักกัตตวา  พุทธะระตะนัง                   โอสะถัง  อุตตะมัง  วะรัง

          หิทัง  เทวะมะนุสสานัง                       พุทธะเตเชนะ  โสตถินา

          นัสสันตุปัททะวา  สัพเพ                     ทุกขา  วูปะสะเมนตุ เม

          สักกัตวา ธัมมะระตะนัง                      โอสะถัง  อุตตะมัง  วะรัง

          ปะริฬาหูปะสะมะนัง                          ธัมมะเตเชนะ  โสตถินา

          นัสสันตุปัททะวา  สัพเพ                     ภะยา  วูปะสะเมนตุ  เม

          สักกัตวา  สังฆะระตะนัง                     โอสะถัง  อุตตะมัง  วะรัง

          อาหุเนยยัง  ปาหุเนยยัง                     สังฆะเตเชนะ  โสตถินา

          นัสสันตุปัททะวา  สัพเพ                     โรคา  วูปะสะเมนตุ เม

(สวด  3 จบ)

จากหนังสือ..."สมาธิบำบัดกับการรักษาโรคมะเร็ง"  วัดคำประมง  ต.สว่าง  อ.พรรณานิคม  จ.สกลนคร

 

หมอชีวกโกมารภัจจ์

           หมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นนายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงมากในครั้งพุทธกาล สำเร็จการศึกษาวิชาแพทย์จากสำนักตักกศิลา ได้รับแต่งตั้งจากพระเจ้าพิมพิสาร เจ้าแห่งมคธรัฐให้ดำรงตำแหน่งแพทย์หลวงประจำพระราชสำนัก ต่อมาเขาได้ถวายการรักษาพระโรคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความใกล้ชิดกับพระพุทธองค์นี่เอง เขาจึงเกิดศรัทธาในพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ถวายตัวเป็นแพทย์ประจำพระองค์ปรุงพระโอสถถวายทุกคราวที่ทรงพระประชวร นอกจากนี้เขายังได้ถวายสวนมะม่วงอันเป็นสมบัติของเขาให้เป็นอารามที่ประทับประจำของพระพุทธเจ้าอีกด้วย ตลอดชีวิตเขาได้บำเพ็ญแต่คุณงามความดี ช่วยแหลือผู้เจ็บไข้ ไม่เลือกยากดีมีจน จนได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า เป็นเอตทัคคะในทางเป็นที่รักของปวงชน เรื่องราวชีวิตของเขามีกล่าวไว้ในพระวินัยปิฎกและคัมภีร์อรรถกถา  

       เพื่อประกาศเกียรติคุณของบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งตลอดชีวิตมุ่งทำแต่ประโยชน์เพื่อคนอื่น ในด้านที่ตนถนัดจนแทบไม่มีเวลาให้กับตนเองคนชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นคนที่น่าสรรเสริญ และเจริญรอยตามเป็นอย่างยิ่ง

เสฐียรพงษ์ วรรณปก

หมายเลขบันทึก: 474450เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2012 15:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอขอบคุณมากครับที่ให้กำลังใจ และที่อวยพรปีใหม่ พรใดที่พี่ให้ ขอให้กลับคืนแก่พี่ร้อยเท่าพันเท่านะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท