วันก่อนมีชาวหาดใหญ่สอบถามเข้ามาเรื่อง แนะนำให้ชุมชนสนับสนุนภูมิปัญญาไทย ใช้น้ำมันไพลที่ผลิตขึ้นเอง มานวดแทนโลชั่นได้หรือไม่ และจะให้ประโยชน์หรือโทษแค่ไหน บังเอิญคุณไม่ได้ให้สถานที่ติดต่อ ดิฉันจึงถือโอกาสนี้นำเสนอให้ทราบตามความรู้ที่มีอยู่นะคะ
เทคนิคการนวดผิวถือเป็นเทคนิคที่ดีคุ้มเกินการลงทุนมาก คนที่ปฏิบัติสมำเสมอจะได้รับประโยชน์มาก เพราะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อ ต้องงอเข่า ขยับข้อ เคลื่อนไหวแขนและมือ ที่สำคัญทำให้ตามีโอกาสตรวจเช็คความงามให้เท้า จะได้มีการดูแลทำความสะอาดก่อนที่จะทำการให้อาหารผิว ซึ่งวิธีการนวดก็เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและกล้ามเนื้อให้ยืดหยุ่น
น้ำมันไพล หรือโลชั่น ต่างก็เป็นอาหารผิว ใครควรได้แบบไหนต้องเลือกให้เหมาะสมกับผิว คนที่ผิวไม่แห้งแสดงว่าต่อมไขมันหรือต่อมเหงื่อทำงานปกติ อาจไม่ต้องเสริมอาหารผิว เราจะแนะนำให้หมั่นตรวจเท้า ทำความสะอาด และบริหารเท้าก็พอ ส่วนคนที่ผิวแห้งขาดน้ำหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื้น ดิฉันเลือกโลชั่นเพราะมีส่วนประกอบที่ดี ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นน้ำดูดซึมเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี และส่วนที่เป็นน้ำมันป้องกันการสูญเสียน้ำแถมยังช่วยหล่อลื่นเวลานวด เคยทดลองนวดOIL กับโลชั่นในปริมาณเท่ากัน พบว่าโลชั่นใช้ระยะเวลานวดสั้นและไม่เหนอะหนะไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในเวลาเดิน
น้ำมันไพลอาจจะเหมาะกับคนที่ไม่เดินมาก ต้องใช้เวลานวดนานกว่าเสี่ยงต่อผิวจะเกิดความร้อนและแรงกดมากขึ้น เพราะมีแต่น้ำมันต้องระวังในคนที่ผิวบางและอักเสบง่าย น่าจะเป็นการนวดที่ไม่ค่อยได้ความชุ่มชื้นถ้าไม่นวดหลังผิวโดนนำ และที่ต้องระวังในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือไพล เนื่องจากเราไม่ทราบว่าเขาใช้น้ำมันอะไรมาทำ ถ้าเป็นน้ำมันโมเลกุลใหญ่ผิวจะดูดซึมยาก แล้วไพลคืออะไรมีผลต่อผิวอย่างไร คงต้องพิจารณาเป็นราย ๆ นะคะ
ยุวดี มหาชัยราชัน