สวดมนต์ข้ามปี ทำความดีเพื่อใครกัน ???
ปีใหม่ 2555 เป็นปีที่แปลก อาจเป็นเพราะว่าบางปีหนีความวุ่นวายไปนอกประเทศ แต่ปีนี้เศรษฐกิจไม่อำนวย ทำให้ต้องมานั่งๆนอนๆ ในเมืองหลวงที่มีประชากรเกิน 10 ล้านคน แย่งกันกิน แย่งกันใช้ แต่ทุกคนก็อยากมาอยู่เมืองฟ้าอมรฯ แห่งนี้
ในปี 2554 เป็นปีที่มีน้ำท่วมทั้งประเทศ คนจน คนรวยได้รับความทุกข์ทรมานเท่าเทียมกัน ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนพบสัจจะธรรม หลายคนนัดแนะ กันให้ไปร่วมทำพิธีสวดมนต์ข้ามปี ผลปรากฏว่าเกือบทุกวัดใน กทม. และในพื้นที่จังหวัดปริมณฑลโดยรอบของกรุงเทพฯ ต่างแน่นขนัดด้วย อุบาสก อุบาสิกา ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ที่มีศรัทธาอย่างแรงกล้าในการสวดมนต์ข้ามปี เสียงสวดมนต์ดังก้องกังวาน จากลำโพงที่ติดบนต้นไม้ ที่ยืนเรียงรายรอบวัด ยิ่งสร้างความรู้สึกที่ดี ดื่มด่ำไปกับท่วงทำนองเสนาะ ทำให้อยากรู้จริงๆ นะ พวกเขาสวดมนต์เพื่อใคร เพื่อเจ้ากรรมนายเวร เพื่อบิดามารดา เพื่อวงศาคณาญาติ เพื่อผู้วายชนม์ เพื่อภูตผี ปีศาจที่ไร้
ญาติขาดมิตร เพื่อการสเดาะเคราะห์ของตนเอง เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของคนในตระกูลเดียวกัน หรือเพื่ออะไรก็ไม่รู้ คนข้างบ้านเขาชวนก็มากัน การนั่งนานๆ ทำให้หลายคนตะคริวกินที่ขา แต่ทุกคนอดทนไม่มีใครลุกหนีไปไหน
หลังจากดูหนังข้ามปี ก็กลับบ้าน พบเพื่อนบ้านที่กลับจากการไปสวดมนต์ข้ามปี ที่วัดในจังหวัดนนทบุรีแห่งหนึ่ง ต่างพากันกลับถึงบ้าน ใบหน้าอิ่มเอิบด้วยส่วนบุญที่ทำ รวมทั้งแววตาที่แจ่มใส เป็นเครื่องบ่งบอกว่า ไม่ว่าจะทำเพื่อใคร แต่ผลการกระทำดังนั้นได้ส่งผลถึงตนเองอย่างแน่นอน ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เวลาที่เสียไปในโรงหนังน่าจะไปกับเพื่อนบ้านซักยังดีกว่า
เฮ้อ ! ไม่เป็นไร ปีหน้าก็ยังมีคราวนี้จะไปด้วยแน่นอน ขอสัญญา แม้ว่าน้ำจะไม่ท่วมก็ตามที
