บริจาคโลหิต : บอกรักมหาวิทยาลัยและสังคมอย่างสร้างสรรค์” (แทนคุณแผ่นดิน : จิตอาสาเพื่อในหลวง)


การบริจาคโลหิต ก็เปรียบได้กับการ “แบ่งปัน” และ “เสียสละ” สิ่งอันมีค่าของตนเองให้กับเพื่อนมนุษย์ รวมถึงการเป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนให้เห็นถึง “คุณค่าของตัวเอง” ที่มีต่อการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

ปีการศึกษา 2554  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประกาศให้เป็นปีแห่งการ
ขับเคลื่อนเรื่อง “จิตสำนึกสาธารณะ” 
อันเป็นคุณลักษณะสำคัญของเรื่องคุณธรรมจริยธรรมของนิสิต  ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญามหาวิทยาลัยว่า “ผู้มีปัญญา พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน”

ในบรรดากิจกรรมที่ถูกขับเคลื่อนนั้น  ถูกออกแบบอย่างหลากหลายรูปแบบ เปิดโอกาสให้แต่ละองค์กร หรือแต่ละหน่วยงานมี “อิสระ” ในการคิดภายใต้บริบทของตนเอง โดยยึดกรอบอันสำคัญสุดคือการปลูกสร้างให้นิสิตตระหนักในเรื่อง “จิตสำนึกสาธารณะ” เป็นที่ตั้ง

หากแต่ในความเป็นอิสระที่ว่านั้น  ก็ยังมีกิจกรรมส่วนกลางที่ทุกองค์กรต้องร่วมแรงใจกันจัดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง  นั่นก็คือการ “บริจาคโลหิต”

 

 

การบริจาคโลหิต  ไม่เพียงเป็นกลยุทธของการเสริมสร้างกระบวนทัศน์ในเรื่องจิตสำนึกสาธารณะเท่านั้น  แต่ยังถูกปักธงให้เป็นกิจกรรมหลักในหลายๆ กิจกรรมที่มุ่งให้นิสิตและบุคลากรได้ทำ “ความดี” แทนคุณแผ่นดินเกิด  ด้วยการถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “ในหลวง” อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย 

ในกระบวนการขับเคลื่อนนั้น  ทั้งผมและทีมงานเชิญชวนให้องค์กรนิสิตทุกคณะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างถ้วนทั่ว บนพื้นฐานของความ “สมัครใจ”   โดยเบื้องต้นได้ประสานกับเหล่ากาชาดให้ออกหน่วยรับบริการในทุกวันพุธของแต่ละสัปดาห์

 


ในระยะต้นดูเหมือนจะรุกคืบไปได้ค่อนข้างช้า  แต่พอประเมินผลถึงสภาพปัญหาต่างๆ ก็ค้นพบทางออกมากมาย  ด้วยการปรับแต่งกระบวนการประชาสัมพันธ์ให้หลากหลายรูปแบบ  กำหนดปฏิทินการรับบริจาคระยะยาวข้ามปี  รวมถึงการเติมเต็มกิจกรรมให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น  เช่น  มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ  มีการลงนามถวายพระพร  มีการแจกเสื้อยืดการทำความดีเพื่อในหลวง (84 พรรษา : จิตอาสาเพื่อในหลวง) ตลอดจนการประสานใจเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างกองกิจการนิสิตกับคณะนั้นๆ  ฯลฯ ...


 

นอกจากนี้ยังรวมถึงการพยายามปลุกเร้าให้นิสิตได้เห็นความสำคัญของการ “บริจาคโลหิต”  ในมิติของการ “บอกรักมหาวิทยาลัยและสังคมอย่างสร้างสรรค์”  ควบคู่ไปกับการพยายามสร้างองค์ความรู้ในทำนองว่าการบริจาคโลหิตเป็นเสมือนหนึ่งการ “บริจาคทาน”  หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “การให้ชีวิตเป็นทาน” นั่นเอง 

ครับ- การให้ชีวิตเป็นทานนั้น  หมายถึงการต่อชีวิต หรือลมหายใจให้กับอีกชีวิตหนึ่งที่กำลังเผชิญกับวิกฤต เช่น ขาดเลือดทั้งจากภาวะของการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ ซึ่งจำต้องได้รับเลือดเข้าไปทดแทนในส่วนที่ขาดหายไป  ด้วยเหตุนี้แม้เลือดเพียงหยดเดียวก็มีค่าประหนึ่งหยดน้ำเล็กๆ ที่หล่อเลี้ยงต้นไม้ในทะเลทรายอันกว้างใหญ่  ยังผลให้ต้นไม้ที่ว่านั้นสามารถหยัดยืนและเติบโตได้อย่างมหัศจรรย์

เช่นเดียวกันนี้  จึงอาจเรียกได้ว่าการบริจาคโลหิต ก็เปรียบได้กับการ “แบ่งปัน” และ “เสียสละ”  สิ่งอันมีค่าของตนเองให้กับเพื่อนมนุษย์  รวมถึงการเป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนให้เห็นถึง “คุณค่าของตัวเอง” ที่มีต่อการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม 

 

 

 

และถัดจากนี้ไปคือข้อมูลของการบริจาคโลหิตของนิสิตและบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  อันเป็นส่วนหนึ่งของการ “บอกรักมหาวิทยาลัยและสังคมอย่างสร้างสรรค์”  (แทนคุณแผ่นดิน)  ด้วยการถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “ในหลวง” เนื่องในปีมหามงคล 84 พรรษา โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่จำนวน  จำนวน  2,400  คน  (840,000  ซีซี)
 

ที่

ว.ด.ป

องค์กร

จำนวนคน

จำนวนซีซี

1

2  เม.ย. 54

กองกิจการนิสิต/นิสิต

178

65,450

2

14 มิ.ย 54

กองกิจการนิสิต/นิสิต

101

35,350

3

26 มิ.ย. 54

งานบริการนิสิตหอพัก/นิสิต

75

26,250

4

11  ก.ค. 54

วิทยาลัยการเมืองการปกครอง

105

36,750

5

19  ส.ค. 54

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

108

37,800

6

8 พ.ย. 54

คณะการบัญชีและการจัดการ

124

43,400

7

16 พ.ย. 5

คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์

103

36,005

8

23  พ.ย. 54

คณะวิทยาการสารสนเทศ

131

45,850

9

30  พ.ย. 54

คณะวิศวกรรมศาสตร์

95

33,250

10

  1 ธ.ค. 54

วันสถาปนามหาวิทยาลัย

84

29,400

11

7 ธ.ค. 54

วิยาลัยการเมืองการปกครอง

145

58,000

12

14 ธ.ค. 54

คณะพยาบาลศาสตร์

39

15,600

รวมทั้งสิ้น

1,288

463,105

 

 

หมายเลขบันทึก: 472169เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2011 08:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 18:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

เป็นแนวคิดที่น่าชื่นชมยิ่งค่ะ

คิดถึง เมื่อเลือดของตน ได้ต่อชีวิต ผู้อื่น..ผู้ให้โดยไม่ต้องมีใครรู้

เป็นจิตสาธารณะ ที่ชัดเจนและมีพลังมาก

เลือดมีน้อย ไม่พอบริจาค

ขอเปลี่ยนเป็นให้กำลังใจ จิตกุศล ทุกท่านแทนนะคะ

*มาร่วมชื่นชมกิจกรรมบริจาคโลหิตด้วยจิตอาสา ..อย่างมีเป้าหมาย..ถวายเป็นพระราชกุศลค่ะ

...........................................................................

*ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตทั้งปี ๒๕๕๔ ตามสาขาและสถานที่ต่างๆดังนี้ค่ะ :

.. สาขาธนาคารในเขต กทม. ๖ สาขา คือ สาขาถนนนวลจันทร์ สาขาถนนเสรีไทย สาขาอ้อมใหญ่ สาขาตลาดศาลายา สาขาซอยหมู่บ้านเสนานิเวศน์และสาขามีนบุรี

.. ภาคบริการโลหิตใน ๑๒ จังหวัด

.. หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่

 สอบถามกำหนดการ วันรับบริจาค ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. ๐๒ – ๗๗๗ – ๗๗๗๗

               

 

สวัสดีครับ คุณป.

การบริจาคเลือด เป็นการ "ให้" โดยไม่จำเป็นต้องรู้ว่า "ใคร" คือผู้รับ ผมถือเป็นการ "ให้" ที่คลาสสิคมาก และยิ่งดีใจที่เห็นกระบวนการของการจัดกิจกรรมในทำนองนี้มีพลังมากขึ้น มีเครือข่าย มีกระบวนการมากขึ้นจากที่ผ่านมา  ซึ่งทัั้งปวงนั้นก็มาจากการวิเคราะห์สถานะของปัญหาในการขับเคลื่อนของแต่ละครั้ง

และล่าสุดก่อนสิ้นปีเก่านี้จะมีวาระพิเศษบริจาคอีกรอบ เพื่อสำรองเป็น "ธนาคารเลือด" เพื่อรองรับชะตากรรมบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นในช่วง "ปีเก่า-ปีใหม่"

สวัสดีครับ อาจารย์ชาดา ~natadee

การส่งใจมาก็ถือเป็นการได้ร่วมทำบุญด้วยกันนะครับ...
เป็นการเติมเต็มในกระบวนการของการทำงาน ให้คนทำงานรู้สึกไม่โดดเดี่ยวกับวิถีที่เป็นอยู่  พลอยให้เกิดพลังในการทำงานและการใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ พี่นงนาท สนธิสุวรรณ

ชื่นชมกระบวนการมีส่วนร่วมกับสังคมของ "ธนาคารไทยพาณิชย์" เป็นอย่างมากเลยครับ มีหลากกิจกรรม ต่อเนื่องและสร้างคนไปในตัว  สำคัญก็คือการสร้างกระแสจิตสำนึกต่อผู้คนให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน  ซึ่งถือว่าธนาคารไทยพาณิชย์ได้ทำเรื่องนี้ได้อย่างเยี่ยมยุทธ ทั้งในระบบเด็ก เยาวชน คนทำงาน ฯลฯ ...

ขอบพระคุณครับ

บันทึกนี้มีความดีและจิตอาสาที่มีสุขครับ ขอบคุณครับ

Merry Christmas in advance :)

สวัสดีครับ อ. Pop

ไม่ว่าสังคมผันผวน แปรเปลี่ยน ลึกเร้น แค่ไหน  ผมก็ยังเชื่อมั่นในวิถีจิตอาสาว่าเป็นทางออกของสังคมเสมอ...

และยังจะเชื่อเช่นนั้นสืบไป ..

ขอบพระคุณครับ

มาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยคนนะครับ

สวัสดีครับ อ.โสภณ เปียสนิท

ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมและร่วมอนุโมทนากับกิจกรรมเหล่านี้นะครับ  ช่วงนี้พักสักระยะ หลังปีใหม่ก็จะมีการบริจาคโลหิตอีกหลายรอบ  ผมคิดว่าครั้งนี้จะมอบโล่ให้กับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง และถอดบทเรียนในทุกโครงการที่เกี่ยวกับการ "ทำดี" เพื่อแผ่นดินเกิด  เพื่อเป็นทุนในการสร้างงานของนิสิตต่อไป

ขอบพระคุณครับ

โครงการนี้เจ๋งมากครับ คุณ แผ่นดิน ;)...

เด็ก ๆ หน้าตาเกาหลีกันมากเลยนะครับ อิ อิ

สวัสดีครับ อ.วัส Wasawat Deemarn

จริงๆ ต้องบอกว่าอีสานๆ ..
หรือไม่ก็รูปหน้าแบบไทยๆ แต่ทรงผมเกาหลีต่างหาก -อิอิ

ดีครับพี่

ชอบและชื่นชมเสมอครับ

บางทียังรู้สึกว่า พี่น่าจะจัดอบรมผู้นำที่มีหน้าที่หรือสามารถเป็นได้อย่างที่พี่กำลังเป็นบ้างคงดีนะครับ หรืออาจจะใช้ว่าหลักสูตรผู้จัดการ หลักสูตรวิทยากร ให้มีคนที่สามารถไปดำเนินการอย่างนั้นได้ น่าสนใจไม่น้อยนะครับ

แหม...อาจารย์ใช้คำได้สมกับนั่งอยู่ในหัวใจวัยรุ่นจริง ๆ นะคะ

บอกรัก...มหาวิทยาลัย

บอกรัก...สังคม

บอกรัก...ผืนดินไทย

บอกรัก...โลกของเรา

ไกลห่างตัวเราออกไป...เพื่อใครคนอื่น

จากแนวคิดสู่การปฏิบัติจริง  หรือปฏิบัติแล้วได้แนวคิด

น่าชื่นชมทั้งหมดนะคะ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ว่าแล้ว...ก็อยากไปบริจาคเลือดมั่งแล้วค่ะ

...

สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ..^_^

ครับ อ.วัส Wasawat Deemarn

เด็กๆ ที่นี่ หน้าอีสาน ทรงผมเกาหลีครับ..

สวัสดีครับ เล็ก

ตอนนี้ในทีมของพี่เป็นเหมือนทีมกระบวนการแล้วล่ะ แต่ละคนเริ่มฝึกปรือและจัดกระบวนการกันได้ค่อนข้างดี มีความหลากหลายเน้น "บันเทิง..เริงปัญญา" ครบสูตร ตอนนี้ก็คิดเรื่องหลักสูตรเหล่านี้เหมือนกัน ทั้งในระดับบุคลากร และนิสิต...

ถ้าเริ่มเมื่อไหร่ เชิญมาร่วมเรียนรู้ด้วยกัน นะครับ

สวัสดีครับ พี่ณัฐรดา

การได้อ่านบันทึกนี้ร่วมกัน ให้ถือว่าเป็นการทำบุญร่วมชาติ ..ตักบาตรร่วมบล็อกนะครับ

ชื่นชมน้องนักศึกษาที่มีจิตเป็นกุศลค่ะ.....ที่โรงเรียนก็จะมีกิจกรรมบริจาคโลหิต แต่ไม่ถี่เนื่องจากวัยของเด็กมีขีดจำกัดนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท