นิทานอีสปกับการอนุรักษ์ป่าบ้านแม่ตาด


บางเรื่องก็ก้าวไปไกลกว่าที่ผมคิดเอาไว้เสียอีก เช่น การขอผืนป่าคืนจากผู้บุกรุก การยึดพื้นที่ป่าคืนจากผู้ครอบครองที่มิได้ใช้ประโยชน์จริง เป็นต้น

 

 

 

 

 

เรื่องเล่าจากบ้านแม่ตาด  :

นิทานอีสปกับการอนุรักษ์ป่าบ้านแม่ตาด

 

 

คณะกรรมการ พทสม.และชาวบ้านแม่ตาด

 

(๑)

 

 

               “กวางป่าตัวหนึ่งหนีการตามล่าของนายพรานเข้าไปแอบพรางตัวอยู่ใต้พุ่มไม้แห่งหนึ่งซึ่งมีใบหนา ทำให้นายพรานมองไม่เห็นและเดินผ่านเลยไป

                กวางป่าตัวนั้นคิดว่านายพรานได้เดินทางผ่านไปแล้ว คงไม่กลับมาอีกแล้ว มันก็เลยจัดการเล็มกินใบไม้ที่อยู่รอบๆ ตัวมันอย่างเอร็ดอร่อย จนใบเริ่มเบาบาง และหมดลงในที่สุด

                ทันใดนั้น  นายพรานคนเดิม ก็เดินย้อนกลับมาอีกครั้ง กวางป่าเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่เดิม  ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีใบหนาทึบ แต่คราวนี้กลับไม่มีใบเหลืออยู่เลย  นายพรานจึงมองเห็นและยิงกวางป่าตัวนั้นตายในที่สุด

                นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า .....ผู้เนรคุณย่อมได้รับผลร้ายตอบแทน”

-------------------------------------------------------------------------

               

                บ่อยครั้งที่ผมมักจะยกเอานิทานอีสป เรื่อง “กวางป่ากับนายพราน” มาเล่าให้คณะกรรมการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจำหมู่บ้าน(พทสม.)ของหมู่บ้านแม่ตาดได้รับฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นแรงกระตุ้นให้ชาวบ้านแม่ตาดได้มองเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในอาณาเขตของหมู่บ้าน

                บ้านแม่ตาดเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มีทั้งหมด 160 ครัวเรือน ประชากรทั้งหมด 637 คน เป็นหมู่บ้านที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพยากรป่าไม้  น้ำ พืชพันธุ์ และสมุนไพรนานาชนิด

                อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังๆ มานี้ทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ในเขตปกครองของหมู่บ้านแม่ตาดได้ถูกบุคคลต่างๆ ทั้งคนในหมู่บ้านเองและคนนอกหมู่บ้าน เข้ามารุกรานทำลายเพื่อนำไปใช้เป็นผลประโยชน์ส่วนตน โดยมิได้คำนึงถึงความเสียหายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อส่วนรวมในอนาคต ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่เกิดความเสื่อมโทรมและเสียหายอย่างหนัก และมีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

                หลังจากที่ผมได้เฝ้ามองดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ ด้วยความห่วงใยมาหลายปี ต่อมาเมื่อนักเดินทางตัวเล็กๆ อย่างผมเกิดจับพลัดจับผลูได้มาเป็น “ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน” ของบ้านแม่ตาดอย่างตกกระไดพลอยโจน  ทำให้ผมมองเห็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นดังกล่าว  โดยผมได้คิดแผนงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ขึ้นมา จากนั้นก็นำเสนอต่อผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการของหมู่บ้าน พร้อมทั้งอธิบายชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ ให้ทุกคนได้รับทราบอย่างชัดเจน

                ต่อมาทางหมู่บ้านแม่ตาดได้มีการแต่งตั้ง “คณะกรรมการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจำหมู่บ้าน(พทสม.)”  ขึ้น โดยให้คณะกรรมการฯ ดังกล่าวทำหน้าที่ร่วมกันดูแล เฝ้าระวัง คุ้มครองป้องกัน พิทักษ์รักษา และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในหมู่บ้าน  โดยครอบคลุมทั้ง ป่าไม้  แหล่งน้ำ  พืชสมุนไพร สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ขยะ  สิ่งปฏิกูล และมลพิษต่างๆ  ตลอดจนร่วมกันกำหนดกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือกติกาต่างๆ สำหรับนำมาบังคับใช้  เพื่อทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของหมู่บ้านดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน  และสิ่งแวดล้อมภายในหมู่บ้านมีความสดใสและบริสุทธิ์มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

 

 

(๒)

 

 

                หลังจากที่ได้มีการตั้ง คณะกรรมการ พทสม.ขึ้นมาแล้ว (จำนวน  45 คน) จากนั้นคณะกรรมการฯ ดังกล่าว ก็ได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานและบรรลุผลตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

                โดยในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการ พทสม.ของบ้านแม่ตาด ได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องหลายอย่าง เช่น  ออกกฎระเบียบของหมู่บ้าน การสำรวจป่าทุกเดือน การปลูกป่าในโอกาสต่างๆ การรักษาสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้าน การขอผืนป่าคืนจากผู้บุกรุก  การดูแลรักษาต้นน้ำลำธาร การจัดตั้งเขตอภัยทานหลังวัดแม่ตาด การสอดส่องดูแลไม่ให้มีการนำขยะหรือสิ่งปฏิกูลมาทิ้งในเขตหมู่บ้าน การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้ตระหนักถึงโทษภัยของการทำลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม  ฯลฯ

                ในการดำเนินงานช่วงแรก ชาวบ้านแม่ตาดในนามของ พทสม. ได้ร่วมกันทำงานเองตามลำพัง โดยไม่มีงบประมาณแต่อย่างใด  ทำงานกันเป็นทีมด้วยความเสียสละ เข้มแข็ง และมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยกัน ดูแล เฝ้าระวัง คุ้มครองป้องกัน พิทักษ์รักษา และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในหมู่บ้าน  เพื่อทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของหมู่บ้านดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

                อย่างไรก็ตาม  ต่อมาได้มีหน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆ หลายหน่วยงาน ได้มองเห็นความสำคัญและเข้ามาให้การสนับสนุนการดำเนินงานของชาวบ้าน เช่น  สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตำรวจป่าไม้ และองค์กรภาคเอกชน เป็นต้น ทำให้การดำเนินงานของชาวบ้านได้รับการยอมรับและดำเนินไปได้ด้วยดีทุกประการ

 

 

(๓)

 

                ในส่วนของผมเองนั้น  ผมได้เฝ้ามองการทำงานของชาวบ้านแม่ตาด ในนามของ พทสม. อยู่ตลอดเวลา ทำให้มองเห็นถึงพัฒนาการการทำงานของชาวบ้านได้อย่างน่าทึ่งและน่าสนใจหลายอย่าง

                เดิมทีผมคิดแผนงานขึ้นเพียงเพื่อใช้เป็น “กุศโลบาย” ให้ชาวบ้านได้ช่วยกันดูแลและเอาใจใส่ต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าที่มีอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นมรดกตกทอดไปสู่ลูกหลานต่อไปในอนาคต โดยที่ผมตั้งเป้าหมายไว้ในระดับหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนัก เนื่องจากเห็นว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะหนักและยากลำบากพอสมควรสำหรับชาวบ้าน

                อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวบ้านได้ร่วมกันทำงานอย่างจริงจัง เมื่อเขามองเห็นผลสำเร็จที่เริ่มเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้เขามีความมั่นใจว่าเขาเดินมาถูกทางแล้ว และจะลุยทำงานต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ อีก ซึ่งบางเรื่องก็ก้าวไปไกลกว่าที่ผมคิดเอาไว้เสียอีก เช่น  การขอผืนป่าคืนจากผู้บุกรุก การยึดพื้นที่ป่าคืนจากผู้ครอบครองที่มิได้ใช้ประโยชน์จริง เป็นต้น ซึ่งมีหลายครั้งที่ถูกเจ้าของที่ข่มขู่และคุกคาม  แต่ชาวบ้านก็ไม่ยอมและไม่เกรงกลัว พร้อมที่จะต่อสู้จนตาย เพื่อช่วยกันรักษาผืนป่าของหมู่บ้านเอาไว้  เมื่อเห็นว่าชาวบ้านพากันเอาจริง  ในที่สุดเจ้าของที่ก็ต้องยอมถอยไป

                ผมเฝ้ามองการทำงานของชาวบ้านแม่ตาดด้วยความชื่นชมและนับถือในหัวใจอันแข็งแกร่งของพวกเขา

                ผมได้พูดคุยและสอบถามชาวบ้านหลายๆ คนดู เขาบอกว่าที่ผ่านมาทุกคนพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว เพราะมีความรู้สึกและมีความคิดเห็นเหมือนกัน  หากแต่เขาขาด “ผู้นำ” ทั้งผู้นำทางด้านความคิดและผู้นำทางด้านการปฏิบัติการ

                จวบจนกระทั่งเมื่อมีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ขึ้นมาแทนผู้ใหญ่บ้านคนเก่าที่หมดวาระลงไป ทำให้ได้ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่(นายดำรงค์ พระจิตคำ)เข้ามาแทน ซึ่งเป็นคนหนุ่ม ไฟแรง และเปิดกว้างทางด้านความคิด  โดยเขาได้ขอให้ผมเข้ามาช่วยทำงานด้วย เลยทำให้หมู่บ้านแม่ตาดมี “ผู้นำรุ่นใหม่” ขึ้นมา โดยมีการทำงานกันเป็นทีม กล่าวคือผมเป็นผู้คิดค้นแผนงานต่างๆ ให้ ในขณะที่พ่อหลวงหรือผู้ใหญ่ดำรงค์ พระจิตคำ เป็นผู้นำแผนงานไปลงมือปฏิบัติร่วมกับชาวบ้านเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีและบรรลุผลตามเป้าหมายที่ได้ช่วยกันวางเอาไว้

 

 

(๔)

 

 

                ปัจจุบัน “พุ่มไม้”แห่งบ้านแม่ตาด ที่ถูกกวางป่าแทะเล็มจนใบเบาบางลงไปในช่วงที่ผ่านมา กำลังได้รับการฟื้นฟูสภาพและเริ่มจะมีใบใหม่ๆ งอกเงยขึ้นมาแทนที่ ทำให้มั่นใจได้ว่าอีกไม่นานพุ่มไม้แห่งนี้ ก็คงจะมีใบหนาทึบที่สามารถจะเป็นที่บังแดดบังฝน หลบภัย และเป็นที่พักพิงให้กับบรรดาสัตว์นานาชนิดได้อย่างดีและมีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น


 

 

 

คณะกรรมการ พทสม.กำลังประชุมปรึกษาถึงแนวทางการทำงาน

บรรยากาศการประชุมที่เต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

 

สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ของบ้านแม่ตาด


ต้นไม้ที่ถูกลักลอบตัดโค่น


ไม้ที่ถูกตัดเพื่อนำไปใช้ทำหลักรั้ว

บริเวณป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถาง

มีการทำรั้วกั้นและสร้างกระท่อมเอาไว้ด้วย

คณะกรรมการ พทสม. พากันเข้าไปขอพื้นที่ป่าคืน

ป้ายประกาศเขตป่าชุมชนที่ชาวบ้านจัดทำขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้ใครรุกล้ำเข้าไป

คณะกรรมการฯ กำลังช่วยกันทำแนวเขตป่าชุมชน

ยึดไม้ที่ถูกตัดไปเก็บไว้เป็นของกลาง

ชาวบ้านกำลังช่วยกันรื้อเสารั้วที่รุกล้ำเข้าไปในแนวป่า

แนวรั้วที่ผู้บุกรุกสร้างเอาไว้

ช่วยกันคนละไม้คนละมือ

เยาวชนและชาวบ้านช่วยกันปลูกต้นไม้บริเวณอ่างน้ำแคว่นจู 

ทำงานกันเป็นทีม....ถึงเวลาก็อิ่มด้วยกัน

เยาวชนกำลังช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

2 หนุ่มหล่อแห่งบ้านแม่ตาดกำลังช่วยกันขนกล้าไม้

3 สาวน้อย กำลังช่วยกันปลูกต้นไม้(เสื้อขาวตรงกลาง คือ....น้องเพียพอ)

ต้นไม้เพียงต้นเดียว แต่ปลูกกันหลายคน

ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย

พวกเราสู้ๆ  เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กลุ่มแม่บ้านกำลังจัดเตรียมอาหารกลางวัน

เหนื่อย.....แต่ก็อิ่ม(ใจ)และมีความสุขน่ะ.....จริงไหมพวกเรา?

 


เพลง   "คนดีไม่มีวันตาย"

ร้องโดย  "ธีร์    ไชยเดช"

(เพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่อง "ขุนรองปลัดชู")

 

 


หมายเลขบันทึก: 471085เขียนเมื่อ 13 ธันวาคม 2011 01:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (38)

(ตอนนี้อยู่ทีฟาร์มค่ะ มีปัญหาต่อ 'net ปั้มตั้งแต่ตีสอง ให้ดอกไม้ก็ไม่ได้ เรียกเครื่องมือจัดการข้อความก็ไม่ได้ค่ะ)

เป็นที่น่าภาคภูมิใจในความสำเร็จของ "โครงการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" ของหมู่บ้านแม่ตาดนะคะ กุศโลบายการเล่านิทานอีสปเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ของคุณอักขณิช (ผู้ช่วยผ้ใหญ่บ้านผู้มีวาทศิลป์)นับว่าได้ผลจริง

เสียดายว่าพ่อใหญ่สอเล่านิทานไม่เป็น ไม่งั้นจะให้นำวิธีของคุณอักขณิชนี้ไปใช้บ้าง เผื่อจะทำให้บางโครงการที่แกวางแผนไว้และมีประโยชน์ แต่ไปไม่ได้เพราะชาวบ้านไม่ให้ความสนใจ เช่น “โครงการบ้านน่าอยู่” ได้ผลขึ้นมาบ้าง

นำรูปที่ไปเยี่ยมเยียนและศึกษาดูงานการทำสวนผลไม้ของคุณครูวิราช กองแก้ว (คุณพ่อบุญธรรมของคุณอักขณิช) และคุณครูกัญญจนา ภรรยาคุณครูวิราช มาฝากค่ะ ประทับใจทั้งสองท่านมาก เห็นรอยยิ้มสดใสของคุณครูกัญญจนา ก็ดีใจว่าท่านคงจะมีความสุข ที่ได้ให้การต้อนรับสองตายายจากฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้

ตอนแรกไม่กล้าไปรบกวนทานข้าวเที่ยงที่บ้านคุณครูทั้งสอง กลัวจะถูกมองว่าซวดลวด แต่พอไปทานจริง กลับลืมคำว่า "ซวดลวด" เสียสิ้น รวมทั้งลืมระวังกิริยา ยกจานตำบักหุ่งซดน้าจนเกลี้ยงจาน ไม่รู้คุณครูทั้งสองท่านจะมองยังไงนะคะ

สวัสดีครับ

อ่านแล้วรู้สึกดีมากครับ

เห็นการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในการ

อนุรักษ์ป่า

แล้วมีความสุขมาครับ

นิทานอีสป ยังใช้เตือนใจได้เสมอค่ะ

เป็นกำลังใจให้ท่านผู้นำ คุณอักขณิชทำแผนงาน สานต่อโครงการนี้ต่อไปนะคะ

สวัสดีครับ อาจารย์ ผศ.วิไล แพงศรี

 

-บ้านแม่ตาดเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กนะครับ มีประชากรไม่มากเกินไป เวลาทำอะไร ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหา ทุกคนร่วมไม้ร่วมมือกันอย่างดี จึงทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความราบรื่น ทั้งนี้ คงจะต้องชื่นชมและขอบคุณผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทุกๆ คนนะครับ

-คุณครูวิราช ท่านก็ดีใจมากๆ เลยครับ ที่อาจารย์และพ่อใหญ่สอไปเยี่ยม บอกว่าเห็นอาจารย์ซดน้ำปลาร้าอย่างเอร็ดอร่อยแล้ว ก็พลอยมีความสุขไปตามๆ กัน คิคิคิ

หากมีเวลาว่าง ก็เชิญแวะเข้าไปเยี่ยมท่านได้ทุกวันนะครับ โดยเฉพาะช่วงที่ผลไม้กำลังออกผลผลิต รับรองว่าจะได้ของฝากกลับมาเต็มคันรถ(แบบฟรีๆ)อย่างแน่นอนครับ

สวัสดีครับ คุณหมออดิเรก(ทิมดาบ)

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจเป็นประจำ

-ขอให้คุณหมอมีความสุขและสนุกกับการทำงาน/การใช้ชีวิตในทุกๆ เวลานะครับ

ขอเอาใจช่วยครับผม

ขอชื่นชมกับพลังมวลชน ของคนในพื้นที่แห่งนี้จริงๆครับ ข้าน้อยขอคารวะสัก 2 จอก 55+

สวัสดีครับ คุณหมอแต้/CMUpal/ ป.

 

-ขอบคุณครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ

-นิทานอีสป ไม่ใช่นิทานสำหรับเล่าให้เด็กฟังเพียงอย่างเดียวนะครับ หากแต่เราสามารถที่จะนำมาเล่าให้ผู้ใหญ่ฟังหรือนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับเรื่องราวที่เราต้องการจะนำเสนอได้ตลอดเวลาด้วยครับ เชื่อว่า....แม้แต่ในทางการแพทย์เอง ก็น่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกันนะครับ

-ผลงาน/ความดีงามที่เกิดขึ้นทั้งหมด คงจะต้องขอมอบให้กับพ่อหลวงหรือผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทุกคนนะครับ ในฐานะที่เป็นผู้ลงมือปฏิบัติการอย่างจริงจัง จนทำให้เกิดผลสำเร็จขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

แม้ว่าผมจะคิดแผนงานที่ดีเลิศมากขนาดไหนขึ้นมาก็ตาม แต่ถ้าหากปราศจากการนำไปปฏิบัติจริงแล้ว ทุกอย่างก็คงจะสูญเปล่านะครับ

-แผนงานทุกอย่างที่คิดขึ้นมา ส่วนใหญ่จะเป็นแผนงานที่มีความต่อเนื่องนะครับ จะมีการสานงานต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าทุกอย่างจะบรรลุเป้าหมายตามที่ได้วางไว้

นักเดินทางตัวเล็กๆ อย่างผม คงทำได้เพียงแค่นี้แหละนะครับ

เห็นป่าถูกทำลายแล้วมันสะท้อนใจ ทำไมคนเราต้องเผาบ้านตัวเองด้วยนะ

สวัสดีครับ คุณพี่ประชัน Peter p

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

-ผลงาน/ความสำเร็จ/ความดีงามที่เกิดขึ้นทั้งหมด คงจะต้องขอมอบให้กับพ่อหลวงหรือผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทุกคนนะครับ ที่เป็นผู้ลงมือปฏิบัติการอย่างจริงจัง จนทำให้เกิดผลสำเร็จขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนอย่างที่เห็น

-2 จอก น้อยเกินไป ขอเพิ่มเป็น 1 ไห....ได้ไหมเอ่ย? คิคิคิ

สวัสดีครับ คุณนกขมิ้น

 

-มนุษย์เราส่วนหนึ่ง ก็คงจะเป็นเหมือนกับ "กวางป่า" ตัวนั้นนะครับ ซึ่งกว่าจะรู้สึกตัวและมองเห็นโทษภัยที่ตามมา ก็สายเกินไปเสียแล้ว

-ยินดีที่ได้รู้จัก/ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมครับ

ขอร่วมชื่นชมนักอนุรักษ์ป่าทุกท่าน..ทุกรุ่นค่ะ..

สวัสดีครับ คุณนงนาท สนธิสุวรรณ

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

-ในอนาคตตั้งใจว่าจะทำโครงการเสนอของบสนับสนุนจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่เหมือนกันนะครับ..... เพียงแต่ไม่ทราบว่าจะเสนอไปถึงใครเท่านั้นเอง

ไม่แน่ใจว่า.....เสนอผ่านคุณป้าใหญ่ จะได้หรือเปล่า?

ทำงานอนุรักษ์ได้ดีมากเลยครับ ขอชื่นชมครับ น้องพอก็ไปด้วยนะครับ

..มาเป็นกำลังใจ..กับความดี..เจ้าค่ะ..เรารักษ์ป่า.ร่วมกัน..วันนี้..เราพบกับคำว่า..มีป่า..แน่นอน..กับอนาคตอันใกล้..ถ้าเราร่วมใจกันและไม่รอเวลา...(ยายธีได้เห็นและประสพกับตัวเองมาแล้วเจ้าค่ะ..และที่ยังต้องสู้อยู่..คือ..คนลักลอบตัดต้นไม้..ทั้งของที่เป็นส่วนบุคคลและเขตหวงห้าม..ซึ่งมีอยู่ทุกมุมโลกใบกระจิ๋วหริว..ทุกวันนี้.เจ้าค่ะ)

สวัสดีครับ อาจารย์ขจิต ฝอยทอง

 

-ที่ผ่านมา ชาวบ้านเขาอยากจะทำแบบนี้อยู่แล้วนะครับ เพียงแต่ขาดคนนำเท่านั้นเอง แต่พอมีคนนำ เขาก็เลยร่วมมือร่วมใจกันทำอย่างเต็มที่ และก้าวไปไกลเกินกว่าที่ผมเคยคิดเอาไว้เสียอีก ซึ่งความสำเร็จ/ความดีทั้งหมด ก็ต้องยกให้กับผู้นำ คือผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านแม่ตาดทุกๆ คนนะครับ

-น้องเพียงพอและเพื่อนๆ เป็นนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์นะครับ เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นด้วย 555

สวัสดีครับ คุณยายธี

 

-ผลงาน/ความสำเร็จ/ความดีงามที่เกิดขึ้นทั้งหมด คงจะต้องขอมอบให้กับพ่อหลวงหรือผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านแม่ตาดทุกคนนะครับ ที่เป็นผู้ลงมือปฏิบัติการอย่างจริงจัง จนทำให้เกิดผลสำเร็จขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนอย่างที่เห็น

-หากเราทุกคนช่วยกันอย่างจริงจังคนละไม้คนละมือ เชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งผืนป่าของเมืองไทยคงจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนนะครับ

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

เอาเด็กๆ มาปลูกต้นไม้อย่างนี้ทุกปี ป่าย่อมงอกงามได้แน่

สวัสดีครับ อาจารย์โสภณ เปียสนิท

 

-เราทำงานกันเป็นทีมนะครับ เด็กๆ เป็นคนปลูกก็จริง แต่คนที่ขุดหลุมไว้ให้คือผู้ใหญ่ครับ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือรักษาผืนป่าให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน

-หากคนไทยช่วยกันจริงๆ จังๆ เชื่อว่าในอนาคตป่าไม้ของเมืองไทยคงจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ

เมื่อกระรอกน้อย ไร้พงไพร เพราะต้นไม้ใหญ่ ไร้หยัดยืน อยู่ทนง

ธรรมชาติคงความงาม สารธารคงชุ่มชื้น คืนนี้เจ้าจะนอนอย่างไรน้อ

เจ้ากระรอกน้อย ..

"คืนป่าให้สัตว์" ฝากความคิดถึงกระรอกน้อยด้วยคน ครับ

สวัสดีครับ คุณ korn

-แล้วผมจะนำความปรารถนาดีไปบอกเจ้ากระรอกน้อยตัวนั้นนะครับ (ถ้าหากมันยังมีชีวิตอยู่)

-ขอบคุณหลายๆ ที่แวะมาเยี่ยมเยือนครับ

สวัสดีค่ะ

เยี่ยมมากและชื่นชมมากค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่เล่าการทำงาน พร้อมภาพ ที่ประทับใจให้ทราบ ชอบมากค่ะ คนเราเมื่อมีโอกาสแล้วต้องรีบทำรีบเสนอฯลฯ

สวัสดีครับ คุณกานดา น้ำมันมะพร้าว

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

-งานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบ้านแม่ตาด เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เองนะครับ ตอนนี้กำลังไปได้ด้วยดี หากเป็นอย่างนี้ไปตลอด เชื่อว่าในอนาคตผืนป่าของบ้านแม่ตาดคงจะเพิ่มขึ้นและคงจะอุดมสมบูรณ์เหมือนในอดีตอย่างแน่นอนครับ

สวัสดีครับคุณ อักขณิช

ป่าชุมชน กฎหมายป่าชุมต่อสู้กันนานพอดู

ต้องรอมรับว่าทรัพยากรถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาจัดการ ก็จะไม่เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างเป็นธรรมได้

แนวเขตป่ากันชน คนพื้นต้องขีดแนวเขตเองไม่ใช่ทางการ

เขตประมงชายฝั่งคนที่หากินริมฝั่งต้องกำหนด

บ้านผมมีปัญหาเรื่องทะเล และป่า

แต่เราก็ฝันและฝ่าฟันที่จะกำหนดอนาคตของชุมชน เพื่อนำไปสู่ชุมชนจัดการตนเอง

สวัสดีครับ ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

 

-ปัญหาเรื่องทรัพยากรในหมู่บ้านแม่ตาดก่อนหน้านี้ถูกละเลยมานาน เนื่องจากผู้นำไม่เข้มแข็ง ทำให้เกิดการบุกรุกและทำลายลงเรื่อยๆ ทั้งคนในและนอกหมู่บ้าน จวบจนมีผู้นำคนใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งสนใจเรื่องนี้มานาน จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และมีการลุกขึ้นมาร่วมกันทำงานเชิงรุกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยไม่ได้พึ่งพาทางราชการหรือองค์กรภายนอกแต่อย่างใด ซึ่งก็เริ่มจะเห็นความคืบหน้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ

-ไม่ว่าจะเป็นปัญหาป่าไม้ ทะเล หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ถ้าหากชาวบ้านไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้หรือจัดการด้วยตนเอง ผมว่าคงยากที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมเยือน

สวัสดีค่ะ

"... ทำให้มั่นใจได้ว่าอีกไม่นานพุ่มไม้แห่งนี้ ก็คงจะมีใบหนาทึบที่สามารถจะเป็นที่บังแดดบังฝน หลบภัย และเป็นที่พักพิงให้กับบรรดาสัตว์นานาชนิดได้อย่างดีและมีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น...."

นี่คือความสำเร็จของการที่ชุมชนเข้มแข็งอย่างแท้จริงค่ะ

ภูมิใจด้วยคนนะคะ

และขอเป็นกำลังใจค่ะ

สวัสดีครับ คุณป้าลำดวน

 

ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

น่าชื่นชมมากค่ะ

"โดยไม่ได้พึ่งพาทางราชการหรือองค์กรภายนอกแต่อย่างใด "

กว่าชาวบ้านจะรู้ว่า...ไม่มีใครยืนได้ด้วยลำแข้งของคนอื่น

ที่รู้เร็ว..ก็ยืนตั้งตรงแหน่ว พร้อมก้าวต่อ เช่น บ้านแม่ตาด

ที่ยังคิดว่าต้องมีคนประคองก่อน..ก็ยังพอไปได้

แต่ที่คิดว่าชุมชนตัวเองทำอะไรไม่ได้หรอก ต้องรอแต่งบประมาณราชการ

อันนี้ตายตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำ

ตัวเองมีความหวังเสมอนะคะ เมื่อเห็นตัวอย่างที่ชุมชนเข้มแข็ง

ยังมีกำลังใจในการเริ่มทำงานกับชุมชนที่พร้อม...อยากพัฒนาชุมชนของตนเอง

ขอบคุณเรื่องราวที่มีคุณค่ามาก สร้างกำลังใจในการทำงานต่อไป

สวัสดีครับ คุณหมอ ทพญ.ธิรัมภา

 

-ก่อนหน้านั้น ชาวบ้านแม่ตาดก็พากันคิดว่าไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องรองบประมาณหรือรอให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากที่ได้ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่และผมได้คิดแผนงานให้ ชาวบ้านก็มองเห็นความเป็นไปได้ และช่วยกันทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาภายนอกแต่อย่างใด ซึ่งก็สามารถทำงานได้อย่างดีและมีความต่อเนื่อง

-ที่น่าคิดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ หลังจากชาวบ้านแม่ตาดเริ่มทำงานจนเห็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้ว ทางราชการหรือองค์กรอื่นๆ ถึงเริ่มให้ความสนใจและเข้ามาร่วมประสานงานด้วย (เหมือนกับเข้ามาร่วมเพื่อหวังผลงาน) ทั้งๆ ที่ก่อนจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ชาวบ้านต้องทำงานหนักและเหน็ดเหนื่อยไปตามๆ กัน

-ปัจจุบันชาวบ้านแม่ตาดสามารถยืนบนขาของตัวเองได้แล้วนะครับ อะไรที่ทำได้ก็ช่วยกันทำ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ค่อยเป็นค่อยไป ทำช้าๆ แต่มั่นคงและยั่งยืนครับ

เย้ๆ กม. ป่าชุมชน เป็นรูปธรรม และยั่งยืนด้วยการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่นะคะ

เห็นพท. ป่ายังอุดมฯ งามจังค่ะ แถมบรรยากาศที่ล้อมวง อิ่มลำ กะข้าวห่อใบตอง ถูกใจหลายๆ เจ้า ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ คุณ Poo

 

-ผมและชาวบ้านแม่ตาดยังไม่เคยเห็นเนื้อหาของ กม.ป่าชุมชนเลยนะครับ ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่พวกเราช่วยกันทำนั้น ล้วนเกิดขึ้นมาจากความรู้สึกที่มีอยู่ในใจของทุกคน ที่ต้องการอยากจะให้ผืนป่าดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

-พื้นที่ป่าของบ้านแม่ตาด ถือเป็นพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดของ อ.สันกำแพงนะครับ จึงต้องช่วยกันดูแลและป้องกันรักษาเอาไว้อย่างเต็มที่

-ขอบคุณที่แวะเข้ามาให้กำลังใจครับ

ไม่มีใครดูแลพื้นที่ป่าได้ดีเท่ากับคนในพื้นที่ ...
ผมเห็นพลังของผู้คนในทำนองนี้มากมาย
หากแต่บางทีกลับถูกบดทับจาก "มือที่มองไม่เห็น" ..

ปีที่ผ่านมา  เรื่องสิ่งแวดล้อมถุกเปิดเปลือยออกมาอย่างหดหู่
ในอีสาน พื้นที่บางแห่งถูกลักลอบตัดและลำเลียงออกต่างแดน...

เศร้าใจน่าดูเลยครับ

สวัสดีครับ คุณแผ่นดิน

 

-เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ ที่บอกมาว่า "ไม่มีใครดูแลพื้นที่ป่าได้ดีเท่ากับคนในพื้นที่" เพราะก่อนหน้านั้นที่บ้านแม่ตาดเองก็ประสบกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่ามาตลอด เนื่องจากผู้นำคนก่อนๆ ปล่อยปละละเลย ทำให้มีการบุกรุกและทำลายป่าอยู่เป็นเวลานาน แม้ชาวบ้านคนอื่นๆ อยากจะช่วยกันดูแลรักษา แต่เมื่อผู้นำไม่ใส่ใจ ก็เลยทำอะไรไม่ค่อยได้....จนกระทั่งมีผู้นำคนใหม่เข้ามาทำงาน จึงทำให้ผืนป่าพลิกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง และชาวบ้านก็ช่วยกันดูแลเอาใจใส่อย่างดีด้วย

-อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้บางครั้งก็ยังมีคนนอกพื้นที่แอบเข้ามาลักลอบตัดไม้อยู่บ้างเหมือนกัน เนื่องจากพื้นที่ป่าของหมู่บ้านเป็นพื้นที่ๆ มีป่าไม้สมบูรณ์ที่สุดของอำเภอสันกำแพง แต่ก็ถูกขัดขวางจากกลุ่มพิทักษ์ป่าของหมู่บ้านเสียก่อน เลยต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

-ในหมู่บ้านผมไม่มี "มือที่มองไม่เห็น" นะครับ หากจะมีก็คงจะอยู่นอกพื้นที่ ซึ่งพวกผมและชาวบ้าน ก็ตกลงกันแล้วว่าจะร่วมกันต่อสู้จนถึงที่สุด ไม่ว่าจะใหญ่มากแค่ไหนก็ตาม

-ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมครับ

สวัสดีคะอาจารย์อักขณิช

ขอแสดงความชื่นชมต่อพลังของชุมชน ที่ร่วมดูแลรักษาเพื่อคนในอนาคต...และการปลูกฝังอุดมการณ์ต่อคนรุ่นใหม่ให้ตระหนักต่อวิถีป่าวิถีชุมชน..

มาส่งความสุขด้วยปฏิทินชุด "รอยยิ้มของพ่อ" ค่ะ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/471969

สวัสดีครับ อาจารย์รุ่งทิพย์ กล้าหาญ

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่อาจารย์กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

-โอกาสหน้า อาจารย์สามารถนำพระนิสิตของ ม.มจร. เชียงใหม่ มาศึกษาดูงานที่นี่ได้นะครับ ยินดีต้อนรับเสมอครับ

-ขอให้อาจารย์มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ตลอดปีและตลอดไปนะครับ

สวัสดีครับ คุณนงนาท สนธิสุวรรณ

 

-ขอบคุณคุณป้าใหญ่มากๆ เลยครับ ที่กรุณาส่งปฏิทินปีใหม่มาให้ชื่นชม เป็นปฏิทินที่สวยงามและมีคุณค่ามากๆ เลยครับ

ไม่ทราบว่ามีแจกที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาหรือเปล่า?

ถ้ามี จะแวะเข้าไปขอเอามาไว้ที่บ้านสักฉบับนะครับ

-ขอให้คุณป้าใหญ่มีความสุข เบิกบานใจ สุขภาพแข็งแรง และโชคดีตลอดไปนะครับ

  • ชุมชนจะเข้มแข็งได้ก็ต่อเมื่อมีผู้นำที่เข้มแข็งนะคะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับการทำงานเพื่อชุมชนและเพื่อลูกหลานในอนาคต
  • น้องเพียงพอน่ารักมากกกกค่ะ ชื่นใจแทนคุณพ่อ

สวัสดีครับ คุณครู krupadee


-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

-ขอให้มีความสุข เบิกบานใจ ปราศจากโรคภัย สุขภาพแข็งแรง และพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ตลอดปีและตลอดไปนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท