การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการศึกษา

การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

              ข่าวท่านโสภณ เพชรสว่าง ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ที่ประชุม ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการหารือกันถึงการปรับปรุงโครงสร้างของ ศธ. ระเบียบ และกฎหมาย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยมีข้อเสนอมากมาย อาทิ เสนอให้ตั้งหน่วยงานที่อยู่ในสังกัดสำนักงานปลัด ศธ. ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ขึ้นเป็นองค์กรหลัก หรืออย่างน้อยให้เป็นกรมที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล เพราะแต่ละหน่วยงานมีภารกิจและหน้าที่ที่ต้องรับผิด ชอบมาก จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสถานะของหน่วยงาน ขณะเดียวกันก็มีการเสนอให้มีกรมวิชาการ และ เสนอให้ปลัด ศธ. มีอำนาจบังคับบัญชาสูงสุดใน ศธ. เหมือนกระทรวงอื่น ถึงแม้ปัจจุบันตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของอีก 4 องค์กรหลักจะเท่ากับปลัด ศธ. แต่ก็ควรให้ปลัด ศธ.สามารถสั่งการข้ามแท่งได้
              นายโสภณ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้ตั้งหน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด และระดับอำเภอที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงการทำงานเหมือนในอดีตที่มีศึกษาธิการอำเภอ โดยให้ทำงานประสานเขตพื้นที่การศึกษาและดูแลหน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่ และเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) แยกการทำงานจาก ศธ.เหมือนครั้งที่เป็นทบวงมหาวิทยาลัย เพื่อให้การบริหารงานมีอิสระ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปจัดทำรายละเอียดในข้อเสนอแต่ละประเด็นมาเสนอต่อคณะกรรมการฯ ที่มีการประชุมทุกสัปดาห์ต่อไป
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ปัจจุบันการทำงานของแต่ละองค์กรหลักมีความซ้ำซ้อนกัน ทั้งที่บางส่วนไม่ควรต้องแยกกันอยู่ ทำให้ไม่เกิดการบูรณาการและเกิดการแยกส่วนต่างคนต่างรู้เฉพาะเรื่องของตัวเอง ส่งผลให้ ศธ. ไม่คล่องตัวในการบริหารจัดการ จริง ๆ แล้ว ศธ. ต้องเป็นก้อนเดียว แต่ตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นแนวทางที่จะปรับ เพราะการรวม 5 องค์กรหลักเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนจะกลับไปเป็น ศธ. แบบเดิมหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ แต่ตนคิดว่าอย่างไรก็ต้องปรับ เพราะการบริหารงานที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้มันแยกส่วนเกินไปและต่างคนต่างใหญ่
รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. เพราะการปรับโครงสร้างที่ผ่านมาก่อให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่ไม่คำนึงถึงบริบทการจัดการศึกษา ยังมีการรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่รมว.ศธ.คนเดียว แต่ก็ขอเสนอว่าการปรับปรุงโครงสร้างครั้งนี้ไม่ควรให้ข้าราชการเข้ามาร่วมคิดอีก เพราะที่คิดมาผิดพลาดหมด ควรให้มีนักการเมือง นักวิชาการ ประชาชน สื่อมวลชน และท้องถิ่นเข้ามาช่วยคิด พร้อมกันนี้ควรต้องปรับปรุงหลักสูตรการเรียนควบคู่ไปด้วย เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษามีคุณภาพอย่างแท้จริง.

             นับเป็นข่าวที่ดีในการปฎิรูปการศึกษาอีกครั้งหนึ่ง

ที่มา เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 พ.ย. 2554 (กรอบบ่าย)