โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์'เห็นอะไรที่ศปภ.


การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องรู้ นักการเมืองคือผู้รับใช้ประชาชน ดูแลผู้รับใช้ของท่านให้ดี ไม่อย่างนั้นเขาจะโกง

'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์'เห็นอะไรที่ศปภ.

'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' เห็นอะไรที่ศปภ.ดอนเมือง

 

คลิป 'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' ดารานักแสดงชื่อดังพร้อมทั้งมีจิตอาสาอุทิศตัวเพื่อสังคมร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูมาเป็นเวลานานกว่า 25 ปี และน้ำท่วมครั้งนี้เขาก็ได้ทุ่มกำลังเพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการของบริจาคของ ศปภ.ดอนเมือง ที่ผู้ใช้นาม firststepkeng อัพโหลตขึ้นเว็บไซต็ยูทูป โดยอ้างอิงที่มาจากเว็บไซต์ http://www.bangkokbiznews.com เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2554


 

ช่วยกันพิสูจน์หน่อยว่าจริงหรือไม่ครับ

เชิญชมคลิปที่นี่

หมายเลขบันทึก: 468245เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2011 08:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2014 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

พบสิ่งมีค่าจึงนำมาฝากครับ

ood one

     สิ่งธรรมดาคือสิ่งพิเศษ... 
 
http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/hs120.snc4/36378_123582177683305_119762461398610_117025_1921757_n.jpg
ท่าน ติช นัท ฮันท์ พูดเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ
 "ขอบคุณสรรพสิ่ง" 

"ปาฏิหารย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ 

แต่ปาฏิหารย์คือ
  การเดินอยู่บนผืนดินและมีความ      สุขในทุกย่างก้าว" 

ชีวิตเราเต็มไปด้วยเรื่อง "ธรรมดา" เช่น ตื่นมา    อาบน้ำ แปรงฟัน 

ขับรถไปทำงาน กินอาหารเที่ยงกับเพื่อนในที่เดิมๆ ตอนเย็นกลับมา
 ก็เห็นหน้าภรรยาหรือสามีคนเดิมๆ ใส่ชุดธรรมดาๆ หน้าตาเราหรือก็ธรรมดาๆ 
... เราส่วนใหญ่แล้ว          ก็เป็นคนธรรมดาๆ  มีชีวิตธรรมดาๆ กันทั้งนั้น

แต่ถ้าความ "ธรรมดา" นี้หมดไปล่ะ 

เช่น อยู่ดีๆ ลูกเราเกิดเป็นมะเร็ง ไปมีเรื่องนอกบ้าน ติดยา คบเพื่อนไม่ดี 

หรือสามีเราตายไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม   หรือเราถูกไล่ออกจากงาน... 
เรื่องก็จะ "ไม่ธรรมดา" ไปในทันที
 
และในเวลานั้นเอง เราจะหวนมาคิดเสียดายความ "ธรรมดา" จนใจแทบจะขาด...


ให้เรารีบชื่นชมกับความ
 "ธรรมดา" ที่เรามี   
และใช้ชีวิตประหนึ่งว่า 
    สิ่งนั้นคือสิ่งมหัศจรรย์ของ  จักรวาล 
เพราะสิ่งธรรมดาๆแท้จริงแล้วคือ 

สิ่งที่พิเศษที่สุดแล้ว    สำหรับมนุษย์อย่างเรา 

 

สภาพความสับสนอลหม่านในหลายพื้นที่ มีความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านต่อชาวบ้าน ชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กำลังเกิดขึ้น หรือเคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เหมือนกับว่าไม่มีผู้นำบริหารประเทศอีกต่อไปแล้ว 
       
       การกล่าวแบบนี้รับรองว่าไม่มีทางเกินเลยเด็ดขาด ตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นชัดๆเช่น ที่ประตูระบายน้ำหลายแห่งทั้งที่รังสิต ปทุมธานี คลองสามวา และหมาดๆที่เหนือคันกั้นน้ำบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตที่มีชาวบ้านชุมชนดอนเมืองกว่ายี่สิบชุมชนมาประท้วงกดดันให้เปิดคันกั้นน้ำที่นำถุงขนาดใหญ่(บิ๊กแบ็ก) มาวางเอาไว้ออกไป
       ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทั้งการเรียกร้อง ชุมนุมกดดันของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ของรัฐเต็มไปด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ขาดการประสานงาน ทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายแทบทุกครั้ง
       
       ปัญหาที่เกิดขึ้นล้วนมาจากการขาดการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ ขาดการประสานงานที่ดีดังกล่าวข้างต้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้อำนวยการ ลักษณะไม่ต่างจากหนังหน้าไฟ ยังเป็นการผิดฝาผิดตัว แม้ว่าในความเป็นจะมี นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาคอยกำกับดูแล นั่งเป็นประธานการประชุมอยู่ด้วยเกือบทุกครั้ง แต่การบริหารสั่งการก็เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย
       
       เพราะขนาดสำนักงานของ ศูนย์ปฏิบัติการฯดังกล่าวยังต้องอพยพหนีน้ำกันชุลมุนวุ่นวาย และแม้มาปักหลักอยู่ที่อาคารเอนเนยีคอมเพล็กซ์ชั้นที่ 15 ของกระทรวงพลังงาน น้ำคงขึ้นลิฟท์ไปท่วมไม่ถึงแน่ แต่ที่ผ่านมาน้ำก็ได้ไหลบ่ามาล้อมรอบอาคารอยู่แล้ว
       
       หลายฝ่ายสรุปตรงกันว่าปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คราวนี้เกิดขึ้นเป็นเพราะขาดการบริหารจัดการน้ำ เกิดจากความล้มเหลว ไม่รู้เรื่องของผู้นำเพียงคนเดียว เนื่องจากการกักเก็บหรือปล่อยน้ำล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมและสั่งการโดย “คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ”ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานโดยตำแหน่ง ดังนั้นเมื่อ ยิ่งลักษณ์ เข้ามาเป็นผู้นำมีการตั้งคณะรัฐมนตรีเมื่อกว่าสามเดือนที่แล้ว ก็ต้องมีการคำนวณมีการปล่อยและกักเก็บให้เหมาะสม จะไปอ้างว่าคนนั้นคนนี้ กักน้ำ-อมน้ำ เพื่อปัดความรับผิดชอบไม่ได้เป็นอันขาด
       
       อีกทั้งตัวเองก็มีอำนาจอยู่ในมืออย่างเบ็ดเสร็จ มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการพรรคพวกของตัวเอง กระชับอำนาจ อย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาอยู่ที่สติปัญญาของตัวผู้นำนั่นเอง 

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000145482

ท่านนัท ฮันห์ สุดยอดความคิด วาทะ ที่มีพลังควรแก่การบริโภคธรรมของท่าน

ถ้าเป็นจริง เราก็ได้เห็อนาคต "เปรต" ขณะมีชีวิตครับ..

โดยส่วนตัวนับถือคุณบิณฑ์ครับ..

ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันนะครับ ท่านอาจารย์

คนไทยว่าอย่างไร
จาก: จรรยา มีนะพันธ์
ส่ง: 4 พฤศจิกายน 2011 10:37
ถึง: 
เรื่อง: ส่งต่อ: เมืองไทยในสายตาคนสิงคโปร์ (pls read)
 
  


ไม่รู้ว่าควรร้องไห้ หรือดีใจดี ที่มีคนเข้าใจคนไทยได้ดีมากกกก...เก็บมาแบ่งปันกัน

 


เมื่อวานผมได้มีโอกาสเสวนากับ CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งจากสิงคโปร์
มีเรื่องน่าสนใจมาเล่าแชร์ให้ฟังครับ
เป็นสามชั่วโมงของการสนทนาที่ได้ความรู้มากครับ

 


1.  เขาบอกว่าอายุขัยของกรุงเทพนั้น
จากการคำนวนของนักวิทยาศาสตร์และธรณีวิทยา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา
ของสิงคโปร์ เค้าบอกว่า มีอายุอีกราวๆ 19 ปี ถ้าไม่มีการแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น
(เค้าใช้คำว่า 
Life span of Bangkok City)

 

2.   หลากหลายเรื่องราวที่เราเห็นจากหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการเมืองในประเทศเรานั้น
จริงๆ แล้วเป็นฉากละครฉากหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้ผู้ชม(คนไทย)นั้นเชื่อไปอย่างนั้นเอง
เช่น การทำเหมือนเป็นศัตรูกันของนักการเมือง

แต่แท้จริงแล้วทะเลาะกันบังหน้า เพื่อผลประโยชน์ฮั้วกันลับหลัง 

หลายๆอย่างที่เราเห็นนั้น รัฐบาลของเค้ามีส่วนอยู่ด้วย
เชื่อไหมครับว่า เงินของทักษิณที่โอนไปเกาะเคย์แมนนั้น
รัฐบาลสิงคโปร์ เป็นคนฟอกเงินให้และจัดการส่งไปให้

 
3.   เค้าบอกว่า ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาล สุดท้ายเข้าสู่วงจรโกงกินอยู่ดี

แน่นอนเพราะผลประโยชน์และเงินสกปรกจะถูก Offer มาโดยรํฐบาลของเค้าเอง

รวมถึงนักธุรกิจใหญ่ๆจากหลายชาติ โดยเฉพาะสิงคโปร์

ฉะนั้นอย่าไปหวังเลยว่า สีเหลืองแดง อะไรทั้งหลาย
เขาบอกว่าหนีไม่พ้นหรอก ต่อให้ใครขาวสะอาดมาแค่ไหน
สุดท้ายก็ทนเงินก้อนโตที่ถูกยัดให้ปิดปากไม่ไหว


4.   20 ปีก่อน
รัฐบาลไทยเคยเชิญรัฐบาลสิงคโปร์ นำผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อทำการวิเคราะห์ว่า

ทำยังไง ถึงจะแก้ปัญหาผังเมืองและการขนส่งคมนาคม ผลสรุปคือ แก้ไมได้
เพราะผังเมืองผิดแต่แรกแล้ว
เค้าแนะนำให้ ย้ายเมืองหลวงหรือไม่ก็ขยายออกรอบนอกไปไกลๆ แล้วตั้งผังเมืองใหม่
จากวันนั้น-จนวันนี้ ก็ไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด
ผิดกับรัฐบาลของสิงคโปร์ ที่จัดทำการวางผังและปรับปรุงตลอดเวลาใหม่
ควบคุมแม้กระทั่งการกระจายตัวของชนชาติต่างไม่ให้กระจุกตัว เพื่อสร้างสังคมเฉพาะใหม่ๆขึ้นมา
รวมไปถึง มีการสร้างเขื่อนกำแพงรอบและประตูกั้นน้ำ

เพื่อป้องกันปัญหา Global warming และน้ำทะเลสูงขึ้นจนท่วมเมืองสิงคโปร์


5.   คนไทยนั้น เป็นสังคม idol กล่าวคือ เชิดชู บูชา "คนที่เด่นดัง"

โดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี (ไม่ว่าอยู่ข้างไหนก็ตาม) ฉะนั้นการชนะใจคนไทยนั้นง่ายมาก 

จากเหตุนี้ การเข้ายึดประเทศไทยไม่ใช่เรื่องยากเลย สำหรับคนที่มุ่งมั่นตั้งใจ 

พ้น 19 ปี น้ำทะเลจะหนุน จนทำให้เกิดการท่วมถาวรในบางพื้นที่
จนสุดท้าย อสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ ทั้งหลาย ที่เคยลงทุนไปโดยรัฐบาล

จะใช้ไม่ได้ เสียเงินลงทุนไปเปล่าๆ
เค้าบอกว่า ถ้ายังทะเลาะกันไม่เลิกแบบนี้ ก็เตรียมขายที่ดินใน กทม ทั้งหมดได้เลย


6.   พอเริ่ม AEC เมื่อไหร่   คนไทยรากหญ้าจะเป็นกลุ่มแรก ที่ซวยที่สุด
ตามมาด้วยตระกูล SMEs ทั้งหลาย


7.   เค้าบอกว่า อย่าได้คิดว่า คนที่ดูดีภายนอก (พวกนายกฯ) จะไม่ทำเรื่องสกปรก  

คนส่วนมากไม่รู้  แค่นั้นเอง ยกตัวอย่างเช่น

นายกของสิงคโปร์เอง ลีกวนยู ที่สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ทั้งหลายแก่สิงคโปร์
ทำให้สิงคโปร์พัฒนามาจนมีวันนี้ เบื้องหลังแล้วนั้น :-
เค้าจับคนยัดข้อหาเข้าคุกมากมายโดยที่ไม่มีความผิดอันใด

แม้แต่เพื่อเขาเองเขาก็ทำมาแล้ว จุดประสงค์เพียงเพื่อต้องการเสถียรภาพของการปกครอง

บางครั้ง คนที่ยิ่งใหญ่มันก็จำเป็นต้องทำเรื่องเลวๆบ้าง

นายกของไทยกี่คนต่อกี่คนก็เช่นกัน  ไม่มีข้อยกเว้น


8.   จุดยุทธศาสตร์ของประเทศไทยนั้น จริงๆแล้ว ดีมากๆในแง่ของที่ตั้งและการเชื่อมต่อ
แต่เขาสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลไทยมัวแต่ทำอะไรอยู่ 

ถ้าวางโครงสร้างพื้นฐาน และวางกำหนดทิศทางประเทศให้เป็น Center of Asean Distribution ให้ดี
ป่านนี้ คงจะเจริญไปไกลแล้ว


9.   ทั้งไทย  และมาเลเซีย รวมถึงเวียดนาม   มีปัญหาเดียวกันคือ
"การรับเงินสกปรกใต้โต๊ะ"   การจะเป็นเจ้าของสัมปทานอะไรบางอย่าง หรือธุรกิจอะไรที่จะผูกขาดบางอย่าง เช่น กลุ่มพลังงานหรือเหมืองแร่ธาตุสำคัญอะไรทั้งหลาย
ทำได้ง่ายกว่าประเทศอื่นๆ   เพราะคน "ซื้อ" กันได้


10.   เค้าแนะนำให้รัฐบาลหาทางเปลี่ยนโครงสร้างของ "ค่านิยมและความคิด" ของประชากรไทย
ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ   ไม่อย่างนั้นเราก็จะอยู่แค่นี้
คนที่รวยจะรวย   คนที่จนจะยิ่งจน

และสุดท้ายโครงสร้างของชนชั้นทางสังคม จะกลายเป็น M society กล่าวคือ  

ไหล่ซ้ายแทนคนรวย
ไหล่ขวาแทนคนจน  

แปลว่า คนชนขั้นกลางจะหายไป หรือ เหลือน้อยลงไปมาก
อนาคต จะกลายเป็นเหลือแค่คนจน และข้ามไปคนรวยเลย


11.   เค้าบอกว่า คนไทยเป็นสังคมที่แปลกคือ เป็นสังคม "รู้ทั้งรู้"
คือทุกคนรู้ดีว่า อะไรคือปัญหา   และทุกคนรู้ดีว่า จะแก้ยังไง
และทุกคนก็รู้ดีว่า จะไปทางไหน   

แต่ทั้งๆที่รู้ ทั้งรู้ แต่ก็เหมือน "ไม่ทำอะไร"

 

มาชมครับ

แวบ ๆ มาอ่านนะครับผม

เห็นค่ะ

เราต้องรับชะตากรรม  เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศเลือกนักการเมืองแบบนี้หรือ???

ไม่รู้น้ำลดแล้ว  เงินช่วยเหลือ (ก็เงินของพวกเรา) จะไปถึงประชาชนถึง 50 % หรือเปล่า

ใครก็ได้ช่วยประเทศไทยด้วย

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์โสภณ
  • แวะมาชื่นชมคุณบิณฑ์  บรรลือฤทธิ์
  • อนุโมทนากับท่านติช นัท ฮันท์
  • ดูละครการเมืองแล้วสมเพชเวทนา  เมาเหล้ายังมีวันสร่างเมา
    แต่เมาอำนาจลาภยศ  ไม่มีวันสร่างหากขาดพื้นฐานทางธรรม
  • อนาคตคนเหล่านั้นก็เป็นตาแก่ยายแก่ที่ไร้ค่าแม้มีเงินมากมาย  สุดท้าย
    เหลือแต่คำสาปแช่งและความอัปยศอดสูอยู่ในความทรงจำ...ที่ไม่เหลือ
    ความภูมิใจใด ๆ ในชีวิต

ได้ข้อมูลจากไหนกันหนอ

ควรรับฟังอย่างยิ่ง

2.   หลากหลายเรื่องราวที่เราเห็นจากหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการเมืองในประเทศเรานั้น
จริงๆ แล้วเป็นฉากละครฉากหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้ผู้ชม(คนไทย)นั้นเชื่อไปอย่างนั้นเอง
เช่น การทำเหมือนเป็นศัตรูกันของนักการเมือง

แต่แท้จริงแล้วทะเลาะกันบังหน้า เพื่อผลประโยชน์ฮั้วกันลับหลัง 

หลายๆอย่างที่เราเห็นนั้น รัฐบาลของเค้ามีส่วนอยู่ด้วย
เชื่อไหมครับว่า เงินของทักษิณที่โอนไปเกาะเคย์แมนนั้น
รัฐบาลสิงคโปร์ เป็นคนฟอกเงินให้และจัดการส่งไปให้


เจ็บปวดสุดๆ กับข้อนี้ ใครเห็นว่าอย่างไรบ้าง เชิญ แบ่งปันกันหน่อย

9.   ทั้งไทย  และมาเลเซีย รวมถึงเวียดนาม   มีปัญหาเดียวกันคือ
"การรับเงินสกปรกใต้โต๊ะ"   การจะเป็นเจ้าของสัมปทานอะไรบางอย่าง หรือธุรกิจอะไรที่จะผูกขาดบางอย่าง เช่น กลุ่มพลังงานหรือเหมืองแร่ธาตุสำคัญอะไรทั้งหลาย
ทำได้ง่ายกว่าประเทศอื่นๆ   เพราะคน "ซื้อ" กันได้

Ico48เรียนคุณเล็กครับ

เห็นด้วยครับ เรียบง่ายแต่เเหลมคม

ภาษาธรรมก็เป็นเช่นนี้

Ico48เรียน ดร. ครับ

ชอบประโยคที่นำมากล่าว แบบตีเปรี้ยงตรงแสกหน้าเลย

 เราก็ได้เห็อนาคต "เปรต" ขณะมีชีวิตครับ..

Ico48เรียนอ.ยูมิครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยือน

เหมือนเดิม สบายดีนะครับ

ทางใต้น้ำไม่ท่วม

สาเหตุแห่งความวุ่ยวายเริ่มขึ้นแล้ว โปรดบันทึกไว้เป็นปฐมบท

ทักษิณบังคับในหลวง ครม.ลักไก่ผ่านพรฎ.อภัยโทษ‘เหลิม’คุมแผนชั่วกัน‘ปู’ออก




Ico48เรียนคุณนุ้ยครับ

คนไทยยึดมั่นตัวบุคคล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท

ที่ไม่ค่อยมีคนสนใจพวกเขามากนัก

พอมีคนสนใจพวกเขามาก

พวกนั้นกลับใช้เล่ห์เหลี่ยม ........เป็นพวกโจรปกคอขาว (White collar)

ก็ฟังกันไว้ ว่าจะจริงหรือไม่?

6.   พอเริ่ม AEC เมื่อไหร่   คนไทยรากหญ้าจะเป็นกลุ่มแรก ที่ซวยที่สุด ตามมาด้วยตระกูล SMEs ทั้งหลาย

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic CommunityAEC

 

ดาวใดใสกระจ่างสว่างฟ้า

ดาวนั้นคือดวงตาแห่งสวรรค์

ดาวใดเด่นนานกาลนิรันดร์

ดาวนั้นเจิดจรัสด้วยศรัทธา

 

 

which star is shining in the sky,

that star is an eye of heaven,

which star forever shines,

that star is the faith of mine.

 

เหตุแห่งความขัดแย้งเริ่มอีกแล้ว

อาจมีคนตายเพิ่มขึ้นอีก เตือนสังคมไทยระวัง ช่วยกันหยุดวิกฤติเร้ววววว

รัฐบาลนอมินีเหิมหนัก รู้ว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษเป็นพระราชอำนาจ แต่ยังไม่สำนึก “ยิ่งลักษณ์” ปิดปากเงียบ "เหลิม" พลิ้วเป็นเรื่องลับ โยนให้ ก.ยุติธรรมตั้ง กก.ศึกษา แล้วส่งเข้าครม.ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย "ปึ้ง" โต้ยุค ปชป.ระบุเงื่อนไขยาเสพติด-ทุจริตยุคเพื่อแม้วก็ตัดทิ้งได้ "ขวัญชัย" ขู่ขนเสื้อแดง 2 แสนคนหนุน

อยากให้รัฐบาลชี้แจงสักหน่อยครับว่า นำไปใช้ด้านใดบ้าง

image.png

ระวังเปรตกินของบริจาคก่อนถึงมือประชาชน

http://soponslifeandwork.blogspot.com/

 

เอาเพลงเก่ามาลองร้องดูบ้างครับ 
มีท่อนที่ผิดด้วย เพี้ยนสมชื่อพรรคเลย
เพราะในไฟล์มิดี้ของ All In One Karaoke Player
พิมพ์ผิด เลยร้องตามผิดไปครับ

เพลง อำนาจเงิน
ศิลปิน สุเทพ วงค์คำแหง

งุนงง หนักหนา
เงินตราเจ้าเอย
ไม่เคยเว้นเลยทุกวี่วัน
ชมรมเชื่อถือเล่าลือลั่น 
งุ่นง่านแต่เงิน งก งง งัน 
เสียงซุบซิบกัน ออกแซ่ซ้อง
..งมงายเงียบเหงา
ถ้าเราขาดเงิน
กลัดกลุ้มเหลือเกินดังเกิดกรรม
ใครมี ครึกครื้นทุกคืนค่ำ 
เจ้าจู่ เจ้าโจม ฝังใจจำ
เนื้อนั้นมันนำ อำนาจ เงิน
..มีเงินเดินซื้อ สินค้าได้
บางคราวเชื่อไหม
แม้ใจที่แกร่งเกิน
ยังถูกน้ำเงิน กระหน่ำเสียยับเยิน
โอ้เงิน เอ๋ยเงิน
โอ้เงิน เอ๋ยเงิน
อำนาจมันเกินจะเอื้อมอาจ
คนเราเคารพ คบกันที่เงิน
ไม่มีเขาเมิน ดังหมดญาติ
เงินตรานี่หรือ คือกระดาษ
ผู้สร้างขึ้นมา ซิอนาถ
หลงใหลเป็นทาส อำนาจเงิน


เข้ามารับฟังข้อมูลข่าวสารครับ ;)...

เรียน อ.Ico48ครับ

หลายคนไม่สนใจการเมืองเท่าใดนัก

รวมทั้งผมเองด้วยเช่นกัน

แต่คราวนี้ทราบว่า บ้านเมืองเกิดปัญหา

ทราบว่า งบประมาณของมหาวิทยาลัย ถูกตัดลดไปมากเทียวครับ

แปลกที่สุดในโลก

 

เป็นผู้แทนของไทยอยู่เมืองไทย 
ก็แล้วใยยอมรับไปปรับโผ 
ครม.แดนไกลในสิงคโปร์ 
อพิโถ น่าอนาถสัญชาติไทย เอย

ส.ส.เพื่อไทย เคาะบินพบ ทักษิณ ที่สิงคโปร์ 9 ธ.ค.นี้

http://fb.kapook.com/hilight-65439.html

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท