2011G11_10_เตรียมสมรรถนะที่มากกว่าความอยู่รอดของตัวเอง


บทเรียนจากสถานการณ์คับขัน
ผู้เขียนขออนุญาตเขียนบันทึกเรื่องน้ำท่วมที่อาจแตกต่างออกไป
จากวันที่ เขื่อนรอบเกาะเมืองอยุธยาพัง
ค่ำคืนที่ฝนตกหนัก ไฟดับ การสื่อสารขัดข้อง เป็นเวลาที่น้ำเข้าเกาะเมืองอยุธยา มีประกาศให้อพยพคน สักพักเดียว (ชั่วโมงกว่าๆ) ก็ได้ข่าวว่าน้ำได้ท่วมโรงพยาบาลมิดหัว น้องพยาบาลที่อยู่เวรในคืนวันนั้นจึงรับภาระหน้าที่ดูแลคนไข้ที่ติดอยู่ในโรงพยาบาลอย่างเต็มกำลัง ในสภาวะที่คับขัน โดยที่ไม่มีน้ำ-ไฟใช้ ไม่มีระบบที่คอยสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานให้แก่เขา
บุคลากรโรงพยาบาลที่อยู่ภายนอกเกาะเมืองแม้จะมีอยู่หลายร้อยคนก็ตาม แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยกู้โรงพยาบาลได้มากนัก ไม่สามารถเข้าไปช่วยคนไข้และน้องๆที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลได้อย่างที่ใจต้องการ แม้หลายคนมีใจที่อยากช่วยอย่างมาก เราคนนึงที่พายเรือไป แต่ไปได้ค่อนทางแล้วก็ต้องพายกลับ เนื่องจากน้ำเชี่ยวแรงมาก ทักษะการว่ายน้ำของเราที่ไม่แข็ง อุปกรณ์เพื่อเอาตัวรอดก็ไม่มี สภาพเรือที่ไปก็แย่ แม้คนที่ไปด้วยคือพี่ชายและพี่สะใภ้ของเราเขาจะแข็งแกร่ง ว่ายน้ำเก่ง และมีใจสู้อย่างมาก แต่เราก็อดเป็นห่วงพวกเขาไม่ได้
เราพายเรือไปด้วยความสับสน เป็นห่วงคนที่มาส่งเรา เป็นห่วงทางบ้าน (พ่อ-แม่-เด็กๆ) น้ำท่วมบ้านแบบนี้จะออกมาทันอย่างไร ใครจะดูแล แม้พ่อแม่จะบอกว่าให้มาช่วยคนไข้เหอะไม่ต้องห่วง เราพายเรือกันมาครึ่งทาง ก็เจอฝนตกหนัก โทรศัพท์มือถือก็ติดต่อไม่ได้แล้ว
เราสับสนมากเป็นห่วงทั้งสองทาง
ทางบ้าน                  
และทางโรงพยาบาล

สุดท้ายก็ต้องตั้งสติ และต้องตัดใจทางใดทางหนึ่งให้ได้ เราอาจเห็นแก่ตัวนิดหน่อยที่เลือกทางบ้านไว้ก่อนแล้วพายเรือกลับ ..เรารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นักที่ตัดสินใจแบบนั้น คงจริงอย่างที่เขาว่า “คนเราจะมีความสุขเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรที่ดีๆ ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น”  คำพูดนั้นเป็นจริงค่ะ
เรารู้สึกละอายตัวเอง และรู้สึกชื่นชมน้องพยาบาล ทีมบุคลากรที่ช่วยอยู่ในโรงพยาบาล ที่เสียสละมากๆ มีน้ำใจมาก (มากกว่าที่จะหาได้ในคนทั่วไป) เขาเหล่านี้ได้ช่วยอพยพคนไข้จนคนสุดท้าย เขาเหล่านี้ทำตัวเองให้อยู่ได้ทุกสภาวะไม่เรื่องมาก ทั้งๆที่ตนเองเหนื่อยแสนเหนื่อย กลัว และท้อมากๆ ทุกขณะที่อยู่ในโรงพยาบาล ในค่ำคืนนั้น
 
เหตุการณ์วิกฤตทำให้เราได้เห็นความหนักแน่นของญาติ พี่ชาย  ผู้บริหารโรงพยาบาล ทีมกู้ชีพ รวมทั้งทีมสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ผ่านประสบการณ์มามาก จึงมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาอย่างน่านับถือ คือใจเย็นไม่ตื่นตระหนก แต่สุขุม ไม่เฉื่อยชา พยายามตั้งสติคิดและเตรียมตัวไว้ให้พร้อม ทำให้การตัดสินใจออกมาดีเมื่อเจอภาวะวิกฤต ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น
 เราได้เห็น ได้รับรู้ถึงน้ำใจ ความเป็นห่วงเป็นใยอย่างจริงใจ จากหลายๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ที่เรานับถือ เพื่อนๆ ญาติๆ เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน และหน่วยงานต่างๆ มากมาย เช่น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลอานันทมหิดล ช่วยเป็นกำลังใจ คอยอยู่เป็นเพื่อน และคอยช่วยเหลือ ทั้งอุปกรณ์ กำลังแรงกาย และเวลา
 
 
 
เราจะจดจำวันนั้นไปอีกนาน วันที่น้ำเข้าเกาะเมือง มันให้บทเรียนว่า...
- เราต้องเตรียมตัวเอง ครอบครัว รวมทั้งโรงพยาบาล ให้พร้อมเสมอกับเหตุการณ์วิกฤต ที่จะมาหาเราเมื่อไร เวลาใดก็ได้
- เรา (และพวกเรา) ต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่ง ทั้งกายใจ เช่น ฝึกว่ายน้ำให้เก่ง นอกจากจะสามารถเอาตัวรอดได้แล้วยังสามารถช่วยผู้อื่นได้ด้วย  ฝึกเย็บแผลให้เก่งเพื่อช่วยปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บได้อย่างดี เป็นเรื่องที่มองเห็นโอกาสพัฒนาได้ง่ายๆ และที่สำคัญคือการฝึกให้ตนเองสามารถอยู่ได้ทุกสภาวะ การฝึกทำใจให้สุขุม เป็นต้น
 
"ทั้งหมดมันจะช่วยให้เราสามารถเอาตัวรอดได้ ที่มากกว่าการช่วยตัวเองตามสัญชาตญาณพื้นๆ คือช่วยหลีกเลี่ยงการเห็นแก่ตัว แต่กลับสามารถมีพละกำลังกายใจไปช่วยคนอื่น และสังคมได้"
  
เราจะคอยเตือนตัวเองไว้เสมอ ในสถานการณ์คับขันเผื่อจะทำให้เกิดความโชคดีได้บ้าง ดังบันทึกนี้ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/464598 ของอาจารย์ นพ.วิจารณ์

 

และ... "ในสถานการณ์คับขันของผู้ใหญ่ เรายังมีอนาคตของเด็กที่สดใสรออยู่เสมอ"
               
๘ - ๙ ต.ค. ๕๔

ภาพน้ำท่วมโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา  http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11176092/NE11176092.html

บันทึกเหตุการณ์ http://www.youtube.com/watch?v=rVKcMnaRK1w

บันทึกอพยพผู้ป่วยทาง ฮ. http://77.nationchannel.com/video/179227/

 

หมายเลขบันทึก: 467757เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2011 07:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 23:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เรียน อ.หมอ JJ

๑. เนื่องจากเวลาซื้อ(ไม่)ได้ ใช่ไหมคะ (In time)

๒. ขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงด้วยความจริงใจ

๓. ทีมโรงพยาบาลระลึกถึงอาจารย์ และติดตามอาจารย์อยู่เสมอ

เคารพ

ลูกศิษย์ AYH

เรียน อ.ขจิต

- ตอนนี้โรงพยาบาลน้ำลด พื้นแห้งแล้วแต่ระบบต่างๆยังใช้ไม่ได้เช่นระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบน้ำใช้

- หน้าโรงพยาบาลมีรถทหารจอดแทนเรือทหารแล้วค่ะ

- ขอบคุณในน้ำใจที่มีให้อย่างสม่ำเสมอค่ะ

รักและนับถือครับ

ทีม รพ.พระนครศรีอยุธยา

ก้อยจ๊ะ พี่ดวงอ่านแล้วดีมากเลยจ่ะ หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึงแต่เราก็ได้เรึยนรุ้และทำสิ่งที่เราสามารถทำได้ให้ดีที่สุดแล้วพี่ดวงขอชื่นชมก้อยนะ ก้อยเป็นคนดีมีนำ้ใจจ่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันมาให้ได้เก็บไว้ดูนะจ๊ะ

เรียน พี่ดวง

โรงพยาบาลสนามรุ่งเจริญมี เด็กชายคนนี้หรือเปล่าคะ

เห็นภาพแล้ว จี๊ดหัวใจ จะมีการถอดบทเรียนกันใหมนี่ ว่า จะเกิด เหตุการณ์ ซ้ำซาก อีก หรือไม่

เรียน อ.หมอ JJ

ที่ผ่านมาเราคงแปลความหมายของการทำงานหนักผิดไป

ต่อไปคือการทำงานรุกอย่างหนัก เนื่องจากเดิมพันคือ..."ชีวิต จิตใจ ของผู้ป่วย และของทุกคน"

แวะวัดถ้ำป่าอาชาทอง พระขี่ม้าสวดมนต์ด้วยนา

 

เรียน อ.โสภณ

ขอบคุณสำหรับภาพและเรื่องราวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แวะไปอ่านบันทึกมาแลัวค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท