พยายามแล้ว.. ไม่ไหวจริงๆ


เคมีบำบัด
วันนี้...ไปนั่งรับเวรจากพยาบาลเวรดึก มาถึงเตียง 9
เด็กวัยรุ่น ชายไทย  รับยาเคมีบำบัดต่อเป็นวันที่ 2 ได้ไม่นาน หายใจหอบเหนื่อย ไอมาก และขอไม่รับยาเคมีบำบัดต่อ
เราจำได้ว่า เป็นคนไข้ที่เราเคยบันทึกไว้  เป็นคนไข้ไม่สมัครรักษาต่อ..หลายครั้งแล้ว
28 พค 54  ผมไม่รักษา... อย่ามาบังคับผมนะ
และ 09 มิถุนายน 2554  มีชีวิตอีก 1 ปี ..ก็ดีแล้ว
น้องพยาบาลเล่าว่า  ...........
แม่ของน้องโทรมาว่า   จะขอพาน้องมารักษาต่อ เพราะทนไม่ได้ ที่น้องไอเป็นเลือดและหายใจหอบเหนื่อย จึงแนะนำให้มาพบแพทย์เจ้าของไข้ที่ห้องตรวจอายุรกรรม  แม่ของน้องยืนยันว่า น้องยอมมารักษา หมอ..สงสารจึงให้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อให้ยาเคมีบำบัด เป็นการรักษาแบบประคับประคอง
ตอนขึ้นมารักษา น้องก็ยินยอมเป็นอย่างดี พอได้ยาเคมีไป 1 วัน
น้องก็ร้องบอกว่า ไม่ไหวแล้ว  ผมพยายามแล้ว.. ไม่ไหวจริงๆ  ขอให้ถอดยาออก
แม่เลี้ยงของน้องก็กลัวว่า พ่อจะไม่ยอม เพราะเคยบอกน้องว่า ถ้ารักษาไม่ครบ จะตัดพ่อตัดลูกกัน  เมื่อวานนี้จึงได้กลับบ้านไปคุยกับพ่อของน้องก่อน ที่จะกลับมารับน้องกลับบ้าน
บ่ายวันนี้ ดิฉันจึงเข้าไปคุย กับแม่เลี้ยงของน้อง
แม่บอกว่า หลังจากออกจาก รพ คราวที่แล้ว 09 มิถุนายน 2554   แม่จริงของน้อง พาไปอยู่ด้วย 4 เดือน เพิ่งจะมาอยู่กับพ่อได้ 2 เดือน อาการหนักมากขึ้น แม่เขาเลี้ยงไม่ไหว เลยนำส่งให้พ่อ ตอนนี้ก็ติดต่อแม่จริงของน้องไม่ได้ เขาเป็นเด็กน่าสงสารมาก เงียบๆไม่ค่อยพูด หนูก็สงสารเลยลาออกจากงานเพื่อจะได้มาดูแลน้อง  ตอนนี้ก็กลับไปคุยกับพ่อเขาแล้วว่าไม่ควรจะดุลูกและให้เห็นใจลูก
เราก็ได้ให้กำลังใจว่า..
 เราเป็นแม่ที่ดีที่สุดและทำดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องไปบังคับเด็กมาก เพราะเขาคงทรมานและไม่มีความพร้อมทางด้านจิตใจ แต่ถ้าเด็กทรมานหลังจากกลับบ้านแล้ว เพราะอาจจะไอเป็นเลือดอีก ให้พาไปหาหมอ รพ ใกล้บ้านก็ได้ น้องจะได้ไม่ทรมานมากเกินไปนะคะ
แม่เลี้ยงของเด็กบอกว่า..
จะพาไปลองฝึกปฏิบัติธรรมที่ชัยภูมิ  เผื่อจะทำให้เด็กเข้มแข็งขึ้น คราวหน้าหมอนัดมา รพ ถ้าพอไหวจิตใจพร้อม จะขอขึ้นมารักษาอีกนะคะ
เราก็บอกว่า ...ลองดู แล้วโทรมาอีก เราคิดว่า เราควรให้โอกาสอีกครั้ง ..
แก้ว

 

หมายเลขบันทึก: 467496เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2011 19:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

อืมฟังแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วย. คนรอบตัว. หมอและพยาบาล ครับ

ผมว่าที่แม่ของน้องพาไปปฏิบัติธรรมนั้นดีแล้วครับ.

นาทีนี้คงต้องเป็นมิติด้านจิตวิญญาณแล้วครับ.

น้องเขาผ่านการดูแลมายาวนาน ทั้งหมอที่ให้ยาเคมี จิตแพทย์ พยาบาล และ แพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

เราให้โอกาสน้อง ในการมารักษาหลายครั้ง เคยรับยาครบ course เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้น จะต้องทิ้งยาทุกครั้งไป

เราทุกคนให้ความรัก ความเข้าใจ ทุกสิ่งที่ผ่านมา คงจะเหลืออย่างเดียวที่จะเยียวยาได้ น่าจะลองฝึกปฏิบัติธรรมมะก่อนค่ะ อาจารย์ ดร ภิญโญ

น่าเห็นใจจังเลยครับ มากๆ เลย

สวัสดีค่ะคุณแก้ว

การที่คนเราจะมีจิตใจนักสู้หรืออ่อนแอนั้น

ล้วนเกิดจากการฝึก และอดทน

ที่สำคัญคือกำลังใจ

ให้เขาถอย เพื่อกลับไปตัดสินใจเอง

เป็นการสร้างความเข้มแข็งอีกวิธีหนึ่ง

ขอส่งแรงใจให้น้องเขาค่ะ

เมื่อใจพร้อม...ทุกอย่างก็ง่าย
เหมือนใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว..
...

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ พี่แก้ว

ร่วมด้วยช่วยกันนะคะ เป็นงานที่หนักและต้องมีเวลาคุยกัน แค่ได้ยินน้ำเสียงนุ่มๆแววตา ท่าทางใจดีของพี่แก้ว เขาคงคลาย.... หลายๆอย่าง

ทำดีขอให้เจอแต่คนดีๆ สิ่งดีๆๆๆนะคะ สาธุ

 

 

ได้เห็นว่า Palliative ผู้ป่วยเด็ก แตกต่างจากการดูแลผู้ใหญ่

พ่อ แม่ เด็ก เป็นสามเหลี่ยมที่แยกจากกันไม่ได้เลยจริงๆ

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวให้เรียนรู้คะ

พี่แก้วครับ....

ผมอ่านบันทึกนี้แล้ว

มุมมองที่ปรากฎชัดเจนมาก คือ

พี่แก้ว และทีมสุขภาพ

ให้บริการด้วยความเป็นมนุษย์

ที่ผมสัมผัสได้จริง ๆ ครับ

สวัสดีค่ะ

การดูแลเด็กวัยรุ่นที่ป่วย จะดูแลค่อนข้างยาก

มีคนบอกว่า เด็กวัยรุ่นที่ไม่ป่วยก็ดูแลยากอยู่แล้ว ยิ่งมาป่วยและทรมานจากการผลข้างเคียงของการรักษาอีก เขาจะทนไม่ได้

เราสังเกตได้ว่า..การดูแลเด็กวัยนี้ ถ้าสัมพันธภาพระหว่างพ่อ แม่ ลูกดี เด็กจะปรับตัวจากการรักษาได้

แต่น้อง..ได้มีทีมสหสาขาดูแลอย่างต่อเนื่อง เรายังทำไม่สำเร็จ

ลองอีกครั้ง ถ้าแม่พาเด็กไปฝึกใจผ่านได้

เราหวังว่าวาระสุดท้ายของน้อง คงจะมีปรับตัวได้

 

ขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ข้อเสนอแนะดีดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท