วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2554
หลังจากกลับมาจากเรียนเปียโน...ทานข้าวเที่ยง
เก็บปัดกวาดบ้าน...อยากซักผ้าจัง...แต่ฟ้าฝนไม่อำนวยเลย
เพราะฝนโปรยปรายเหมือนเป็นพันธนาการ
ให้เมืองไทยหลายพื้นที่ถูกขังด้วยน้ำท่วม
เมื่อฝนหยุดทิ้งตัวลงมา
พวกเราได้ขับรถยนต์ไปที่สวนสาธารณะ...
บ่ายยังไม่แก่...ยังไม่ค่อยมีผู้คนเลย
พอจอดรถได้สักพัก...หมาสามสี่ตัวก็เดินรี่เข้ามาใต้ท้องรถ
ถ้าผมคุยกับเขารู้เรื่อง...ผมอยากจะถามหมาจังว่า...ทำไมชอบมานั่งนอนใต้รถ
ลูกชายกับภรรยา...เดินหน้าไปเรื่อย ๆ ตามถนนปูนซีเมนต์ที่ทอดยาว
ผมนั่งขอบกำแพงเตี้ย ๆ ...อ่านนวนิยายเรื่อง "ลับแล, แก่งคอย" ของนักเขียนรุ่นใหม่ "อุทิศ เหมะมูล" ที่คว้ารางวัลซีไรต์ประจำปี 2552
หนังสือเล่มหนา ๆ ความยาวถึง 444 หน้า...ซึ่งผู้เขียนเล่าถึงแรงบันดาลใจว่า
...ใช้เวลาเขียนเรื่องนี้ถึงสองปี มีทั้งทุกข์และสุข มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย
...ตลอดสองปีทำงานเขียนห้าวันต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงบ่ายโมง อย่างสม่ำเสมอ อย่างมีวินัย
...ความมุ่งมั่นในการเขียนยิ่งเข้มชัดทั้งกล้าแกร่ง เกรี้ยวกราด และเปราะปางปะปนกันไป
สำหรับเรื่องนวนิยายเรื่องนี้ แบ่งโครงเรื่องทั้งหมดออกเป็น 5 ภาค
คือ
ภาคหนึ่ง กำเนิดจากเรื่องเล่า,
ภาคสอง
ประวัติศาสตร์ที่เริ่มสร้าง,
ภาคสาม ในป่าหิมพานต์,
ภาคสี่ ฌาปนกิจความจริง
และภาคห้า
เถ้าอังคารของความลวง
ผมเพิ่งอ่านถึงภาคที่สาม...ด้วยความพยายามอย่างละเอียดละออละเอียดอ่อน
ตอนนี้ผมได้ความคิดว่า...ความมุ่งมั่นในการชีวิตของทุก ๆ คน น่าจะคล้ายกัน คือ ทั้งกล้าแกร่ง เกรี้ยวกราด และเปราะปางปะปนกันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่พึงระลึกไว้เสมอ คือ อย่าให้กำลังใจในตัวเองขาดหาย
เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาชีวิตของเราให้มึความสุข
และผมค้นพบอีกว่า...ความสุขอยู่ใกล้ ๆ ตัวเรานี้เอง
เพียงใช้ใจมองลมหายเข้า
ใช้ใจมองลมหายใจออก
แท้จริงความสุข...หาได้ไม่ยากเลย....
ยังไม่ได้อ่านเลยครับ น่าเสียดาย เพราะกว่าจะได้อ่าน อาจพูดไม่ทันเขาแล้ว
ยังไม่ได้อ่านเล่มนี้เลยครับ
ขอบคุณมากๆครับ