20 ปีผ่านไป ดิฉันเห็นทุ่งนาในบ้านเกิดของฉันแปรสภาพไป มันไม่ใช่ที่ราบอีกต่อไป พื้นดินลุ่มๆ ดอนๆ แล้วแต่ว่าใครถมก่อนถมหลังคนถมทีหลังก็ต้องให้สูงกว่าคนเก่า ไม่มีใครรู้เลยหรอกหรือว่า หายนะ กำลังคืบคลานเข้ามา
อีกเกือบ 20 ปี หลังจากนั้น หายนะ มาเยือนเราจริงๆ มีผู้คนเดือดร้อนไปทั่วแผ่นดิน ส่วนคนที่รอดก็เศร้าใจไปกับความทุกข์ทนของผู้ประสบภัยพิบัติ หลายคนเริ่มเข้าใจสาเหตุ หลายคนพยายามหาทางป้องกัน หลายคนเตรียมตัวรับมือกับมัน และอีกหลายคนพยายามหาทางแก้ไข ในขณะที่หลายคนโกรธแค้นรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาไม่ถูกต้อง ไม่รวดเร็ว ไม่จริงใจ และขาดการวางแผน
แต่สำหรับ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ทำงานภายใต้ ปรัชญา"บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ของประชาชน ซึ่งทำงานในฐานะข้าของราชา และกิจการของราชาคือดูแลราษฎร เราจึงต้องดูแลราษฎร โดยที่ไม่ต้องเป็นผู้แทนราษฎร แต่ในยามภาวะทุกข์ยาก เราคือ ตัวแทนประชาชนในการเป็นปากเป็นเสียง ด้วยความยุติธรรมโดยไม่ได้สนใจว่าผู้แทน หรือรัฐบาลคือใคร แต่ที่เห็นอยู่ในขณะนี้ข้าราชการหลายคนลืมในหลวงไปแล้ว ทั้งที่ปากปล่าวร้องใครต่อใครว่ารักในหลวง
อุทกภัยครั้งนี้ ยิ่งใหญ่เกินกว่าใครจะรับไหว และรวดเร็วเกินกว่าจะเตรียมการทัน หลายคนที่โกรธแค้นผู้นำเป็นการส่วนตัว ก็เริ่มคิดถึงความด้อยความสามารถในการแก้ปัญหาของรัฐบาล หลายคนเปรียบเทียบไปถึงประเทศต่างๆที่มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างดีนับร้อย นับพันปี นั่นคือการมองแต่ขั้นการแก้ปัญหาปลายเหตุ แต่มีใครลองมองย้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นบ้าง
บัดนี้ทฤษฎีทุกอย่างที่ข้าพเจ้ารับรู้ รับฟังจากอาจารย์หลายๆท่าน เข้ามากองอยู่ในจินตนาการของข้าพเจ้า ภายในช่วง 10 ปีนี้ เราเปลี่ยนรัฐบาลกันมากี่ยุค กี่สมัย แต่ละรัฐบาลมีระยะเวลาในการบริหารที่จะแสดงผลงานไม่นานนัก ดังนั้นนโยบายในแต่ละยุคจึงหนีไม่พ้นเรื่องเศรษฐกิจ ที่แสดงให้เห็นผลงานโดยเร็ว เพราะไม่แน่ใจว่าสมัยหน้าจะได้เข้ามาบริหารงานต่อหรือไม่ นโยบายส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่การสร้าง ตามลัทธิทุนนิยมทั้งหลาย ตอนนี้ความเจริญเข้าไปทั่วไทย ถนนทุกสายไม่มีฝุ่นแล้ว มีแต่น้ำที่ตามไปแล้วหาทางออกไม่เจอ แต่นโยบายที่เน้นไปที่การรักษาสิ่งที่ดีให้คงอยู่แทบมองไม่เห็น ดังนั้นเราหวังพึ่งนักการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีความรู้ ความสามารถ และดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้อง จะต้องผลักดันสิ่งต่างๆ และให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ บ้านเมืองของเรา
ความสูญเสียครั้งนี้มากมายมหาศาลเกินกว่าจะต้องสูญเสียอีกแม้เพียงอีกครั้งเดียว ทำเถอะค่ะ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะนานแค่ไหน และไม่ว่าจะเสียเงินเท่าไหร่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของไทย เพื่อเป็นไทยเข็มแข็ง อย่างแท้จริง
(หมายเหตุ ดูแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมในบันทึก เมื่อภูเขากลายเป็นเกาะ)
ส่วนผมกำลังคิดเรื่องการย้ายเมืองหลวง
ออกไปสู่ชนบทแห่งใดแห่งหนึ่ง
จัดโซนปลูกข้าว
โซนอุตสาหกรรม
ออกแบบบ้านเรือนคูคลองทำแก้มลิงใหม่ทั้งระบบเลยครับผม
สวัสดีค่ะ อ.โสภณ
เป็นแนวคิดที่ดีมากค่ะ อยุธยา ปทุมเป็นที่สำหรับปลูกข้าว ไม่เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งปวง
ส่วนเรื่องแก้มลิง และระบบคูคลอง ดิฉันคิดและเห็นด้วยอย่างยิ่ง หวังว่าให้แนวคิดนี้จะเป็นรูปธรรมโดยเร็วค่ะ
แต่ที่คิดเพิ่มคือเราจำเป็นต้องมีอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่พอสมควรเพิ่ม บางทีหากเป็นได้เหนือจรดใต้เลยยิ่งดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แม่น้ำเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย
เส้นเลือดใหญ่แตก....โห..!!!
สวัสดีค่ะ คุณครู ป.1
หากรอดครั้งนี้เราต้องเยียวยา รักษาและฟื้นฟูกันยกใหญ่ ยังมีความหวังค่ะ พวกเราต้องช่วยกันทั้งทางตรงและทางอ้อม...