ตลอดระยะเวลา 3 ปี นับแต่ปี 2552 ผู้เขียนและภรรยาขอใบส่งตัวส่งต่อการรักษาอาการความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ปวดหัวไมเกรน เพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ โดยไปพบหมอโรคหัวใจ รศ.นพ.วรวุฒิ จินตภากร หมอได้ซักประวัติและได้นัดให้มาวิ่งสายพานและตรวจเอคโค่ใน 2เดือนถัดมา
คอยหมอจนหลับ
หลังจากหมอนัดให้มาวิ่งสายพานซึ่งต้องขึ้นไปตึกศูนย์โรคหัวใจ ชั้น 9 การตรวจทางห้องปฏิบัติการครั้งนั้น หมอบอกว่าคุณไม่ได้เป็นอะไร วิ่งสายพานกร๊าฟการต้นหัวใจก็ปกติ ตรวจทางเครื่องเอคโค่ก็ปกติ เอาละสิ ทั้งที่คนไข้บอกอาการกับคุณหมอว่ามีอาการเบร้าวไปที่หัวไหล่ซ้าย หายใจเหนื่อยหอบ บางทีอยู่ก็วูบเป็นลมไปเสียเฉยๆ หมอก็บอกว่าคุณไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ให้ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง และยาลดไขมันในเส้นเลือดเท่านั้น
ทุกคนจะต้องนั่งคอยหมออยู่หน้าห้องนี้
หมอให้การรักษาโดยจ่ายยารักษาความดันโลหิต และยาลดไขมันในเลือด อาการหัวใจสั่นหน้ามืดเป็นลม แถมปวดหัวข้างเดียวก็ไม่หาย มาตามหมอนัดอีกครั้งหมอเห็นอาการไม่ดีขึ้นจึงนัดให้มาเจาะเลือดเพื่อโรคต่อมไทรอยด์ ผลการตรวจเลือดก็ไม่พบไทรอยด์ หมอจึงนัดให้มาตรวจคลื่นสมองในเดือนต่อมา การตวจคลื่นสมองโดยการฉีดสีเข้าทางเส้นเลือด และให้คนไข้เข้าอุโมงค์ เพื่อตรวจเส้นเลือดสมองว่ามีอาการตีบหรือไม่ ปรากฏว่าไม่พบอะไร ภายหลังมาเปลี่ยนการรักษากับหมอพรชัย ซึ่งเป็นหมอเกี่ยวกับอาการทางสมองโดยเฉพาะ
หอผู้ป่วยพิเศษเฉลิมพระบารมี 9
รักษากับหมอพรชัยอาการก็ไม่กระเตื้องขึ้น หมอพรชัยเลยแนะนำให้ไปพบหมอโรคหัวใจอีกครั้ง คราวนี้คนไข้เลยขอเปลี่ยนพบหมอที่ไม่ใช่หมอคนเดิม พยาบาลก็เปลี่ยนให้ไปพบหมออาจารย์สันติ นพ.สันติ ลิ้มอัมพรเพชร นี่จึงเป็นที่มาของการนอนรักษาด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
คนไข้นอนให้น้ำเกลือก่อนผ่าตัด
การผ่าตัดคราวนี้คนไข้มีกำลังใจดีมาก ผู้เฝ้าไข้อย่างผู้เขียนเสียอีกที่วิตกกังวล เคลียดอยู่ในที หมอผ่าตัดชื่อหมอนพดล หมอได้ใช้วิทยาการสมัยใหม่ในการผ่าตัดโดยวิธีเจาะเส้นเลือดใหญ่ที่บริเวณขาหนีบและยิงบอลลูนไปถ่างเส้นเลือด และใช้ขดเลือดทะลวงเข้าไปตามเส้นทางของเส้นเลือดที่ตีบ ซึ่งเส้นเลือด 3 เส้นของคนไข้ เส้นที่ 1 ตันไปแล้วไม่สามารถทะลวงเข้าไปได้ เส้นที่ 2 ไขมันเกาะหนาเตอะประมาณ 92 เปอร์เซ็นต์ เส้นที่ 3 ยังไม่ตีบแต่ก็ไว้ใจไม่ได้ หมอเลยใส่ขดลวดไปในเส้นเลือดเส้นที่ 2 และเส้นที่ 3 นอนพักรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.54 จนถึงวันที่ 3 ต.ค. 54 รวมระยะเวลา 7 คืน 8 วัน การปฏิบัติหน้าที่ของพยาบาลประจำวอร์ดและพยาบาลเวร ยอมรับว่าปฏิบัติต่อผ็ป่วยคนไข้ดีมาก ถึงจะสู้โรงพยาบาลเอกชนไม่ได้แต่รู้สึกว่าเริ่มใกล้เคียงแล้ว หมอเวรประจำวันก็ให้คำแนะนำที่ดีมาก คนไข้หรือญาติสงสัยหรือไม่เข้าใจอะไรหมอก็อธิบายเสียแจ่มแจ้ง แถมอ่อนน้อมถ่อมตนจนคนไข้และคนเฝ้าไข้ทึ่งไม่คิดว่าจะเจอหมอแบบนี้ โดยเฉพาะ นพ.สุรภัทร อัศววิรุฬการ ขอมอบดอกไม้ให้เลย อาจารย์แพทย์สันติ เจ้าของไข้มาตรวจในวันที่ 31 ต.ค. 54 อีกครั้ง
ภาพการทำบุญเลี้ยงพระประจำเดือนของคณะแพทยศาสตร์ รพ.มอ. หาดใหญ่
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับพี่ยาวเกษตรยะลา
ขอขอบคุณครับพี่ยาว ขอให้โชคดี