ห่างหายไปนานพอสมควรกับการเขียนบล็อก ต้องยอมรับว่าต้นปีงบประมาณนี้มีภารกิจมากมายให้ทำ จนห่างหายไปจากโลก ไอที ไปพอสมควร วันนี้มีเวลาได้หยุดใช้ความคิด และแวะเวียนมาสู่เว็ป KotoKnow จึงถือโอกาสฝากบันทึกเกี่ยวกับวิกฤตน้ำท่วมมาให้อ่านครับ
ครับ...ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยเกือบทุกภาคของเมืองไทย ผู้เขียนมีโอกาสได้สัมผัสถึงความเดือดร้อน ความทุกข์ทนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่เป็นแรมเดือน ทั้งจากการพูดคุย จากสื่อ และจากคำบอกเล่า ตลอดจนสัมผัสด้วยตาในยามที่มีโอกาสได้เดินทางขึ้น – ลง เชียงใหม่ – กรุงเทพ ฯ อยู่ครั้งสองครั้ง
น้ำใจ กำลังใจ สิ่งของมากมาย ที่เชื่อว่าจะช่วยบรรเทา – แบ่งเบาภาระให้กับผู้ประสบภัยได้ ถูกระดมจากภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนชาวไทย หลั่งไหลไปสู่ผู้ประสบภัยอย่างมหาศาล แม้จะทั่วถึงบ้างไม่ทั่วถึงบ้าง ซึ่งเป็นไปตามสภาพความคล่องตัวในการขนส่ง และลำเลียง
ภาพทะเลาะ โต้เถียง ของชาวบ้านเนื่องจากไม่สามารถยอมรับในการจัดการน้ำ (ระบายน้ำ) ที่ท่วมให้ไหลสู่แต่ละพื้นที่อย่างพอดี ภาพการยื้อแย่งสิ่งของบริจาคเนื่องจากกลัวว่าจะมีมาไม่ถึงตน ของชาวบ้านในบางพื้นที่ ปรากฏให้เห็นในภาพสื่อบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ามันยากจริงๆ กับการแก้ไขปัญหา เพราะสภาพน้ำที่ท่วมมันสาหัสสากัลป์จริงๆ
ขณะเดียวกันในส่วนของภาพรัฐแม้ทุกภาคส่วนจะระดมสรรพกำลังช่วยเหลืออย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ก็ยังมิวายที่จะมีการผิดพลาดออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ ส่วนทั้งนี้เนื่องจากสภาพน้ำที่ท่วมมันเกินกว่ากำลัง และการคาดคะเนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะพื้นที่ นครสวรรค์ ลพบุรี อยุธยา ปทุมธานี และอีกหลายจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบ
ในบรรดาองค์การ/องค์กร ที่ให้ความช่วยเหลือวิกฤตอุทกภัยครั้งนี้ ส่วนหนึ่งที่เห็นและมีบทบาทไม่น้อยก็คือทหาร ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกองทัพบก ที่นำทิมโดยท่าน ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เรียกได้ว่าระดมสรรพกำลัง และยุทโธปกรณ์มาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และต่อเนื่อง ตามสโลแกนที่ว่า “ยามศึกเรารบ ยามสงบเราพัฒนา” อย่างแท้จริง
ถึงกระนั้นทหารก็มิวายที่จะต้องอดทนกับคำด่าทอ และคำถากถางจากชาวบ้านผู้ประสบภัยในบางพื้นที่ จากอารมณ์ค้างครั้งการสลายม็อบ ด้วยเสียตะโกนด่าว่าต่างๆ นานา ดังคำบอกเล่าของทหารนายหนึ่งที่สะท้อนให้ฟังภายหลังไปช่วยน้ำท่วม ณ หมู่บ้านหนึ่งทั้งที่ที่บ้านตัวเองก็ถูกน้ำท่วมและไม่มีโอกาสได้กลับไปช่วย ด้วยเพราะหน้าที่บังคับ เขาเล่าว่า “ที่บ้านผมก็น้ำท่วมครับ แต่ก็ไม่ได้กลับไปช่วย เพราะเขาไม่ปล่อยกลับ” เขาเล่าต่อว่า “ผมไปช่วยขนของให้ชาวบ้านหนีน้ำท่วม...เสียใจมากแต่ก็ต้องอดทนเพราะเป็นทหาร เขาด่าและไล่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย หาว่าทหารฆ่าประชาชน มาทำไมกลับไป”
วันนี้น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางดูจะสาหัสกว่าที่คิด พื้นที่กรุงเทพชั้นในก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้กับภาวะน้ำท่วมหากเจอน้ำทะเลหนุน เพราะล่าสุดน้ำได้เอ่อท่วมพื้นที่รอบนอกบางส่วนแล้ว..... การแก้ปัญหาน้ำท่วม และการสู้วิกฤตน้ำในช่วงนี้ นอกจากการป้องกัน และการผลักดันน้ำแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการที่คนไทยทุกคนควรตระหนักคือ การลืมเรื่องร้ายๆ ในอดีตหันมาร่วมด้วยช่วยกันอย่างแท้จริง อย่ามัวแต่คิดเล็กคิดน้อยพูดจาบั่นทอนกำลังใจผู้ที่หยิบยื่นความช่วยเหลือจนกลายเป็น "น้ำท่วมปาก" เพราะหากทหารมิถูกฝึกให้มีความอดทน และทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัดแล้ว คำกระแนะกระแหน คำด่าทอ ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจเช่น นี้จะยิ่งซ้ำเติมให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น
ขอเป็นกำลังใจสู้ๆกันทุกๆคนครับ
สวัสดีครับ อาจารย์บังอร แก้ววิไล เห็นภาพน้ำท่วมแล้ว ต้องบอกว่าสู้ๆๆ นะครับ
ขอบคุณสำหรับดอกไม้ และน้ำใจที่แวะเวียนมาเยือนบล๊อกครับ
อันที่จริงผมตั้งใจจะเขียนอะไรเกี่ยวกับน้ำท่วมมากมายครับ
แต่ช่วงนี้งานยุ่งๆ (ต้นปีงบประมาณนะครับ)
อย่างไรก็ขอส่งกำลังใจให้นะครับ สู้ๆๆ ครับ เชื่อว่าคนไทยหลายสิบล้านคน
เห็นใจ และเอาใจช่วยคนอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงครับ
สมบัตินอกกายไม่ตายหาได้ครับ เอาชีวิตไว้ก่อน.....
สวัสดีครับ คุณพ.แจ่มจำรัส
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ ไว้มีเวลากว่านี้จะเข้าไปทักทายครับ
เอาใจช่วยผู้ประสบภัย ฯ ทุกๆ คนเช่นกันครับ
ตามมาทักทายเห็นระดับน้ำในกรุงเทพฯแล้วใจหายครับ...........
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ ขจิต ฝอยทอง, อิงจันทร์ ณ กระท่อมอิงจันทร์
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาเลยครับ
เห็นภาพน้ำท่วมแล้ว สงสารพี่น้องไทยจริงๆๆ ครับ