ถึงมุมานะแค่ไหน เราก็อาจพบความสำเร็จเพียงครึ่งเดียวถ้าไม่มีความสนใจในวิชาที่เรียนจริงๆเราก็ไม่เก่งเรื่องใดไปได้เลย ถ้าไม่มีใจรักในเรื่องนั้น ทัศนคติที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญประการแรกสำหรับความสำเร็จในทุกเรื่อง รวมทั้งการเรียนด้วย
เคยได้ยินเรื่องนี้ไหม? มีทหารนายหนึ่งถูกบังคับให้เดินในขบวนของเชลยศึกหลังจากพ่ายแพ้ในสงคราม เขาเดินโซซัดโซเซแทบจะลากเท้าไปไม่ไหว เพราะเขาเดินตามการบังคับบัญชาของผู้อื่น เขาไม่อยากเป็นเชลย และไม่มีความเต็มใจที่จะเดิน แต่ต่อมาไม่กี่เดือนหลังจากได้รับการปลดปล่อยกลับสู่บ้านเกิด เมื่อกลับมาแล้ว เขาออกเดินทางไกล ไปตามภูมิประเทศที่เป็นเขาสูง หนทางยาวไกล ทั้งยังลำบากกว่าเส้นทางที่เขาเคยเดินเมื่อเป็นเชลย แต่เขากลับมีความสุข สนุกและมุมานะที่จะเดินเพราะมันเป็นสิ่งที่เขาอยากทำไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องทำ
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความคิดขอเพียงแต่เริ่มต้นด้วยทัศนคติที่ดี ก็เท่ากับสำเร็จไปครึ่งหนึ่งทีเดียว
เรื่องต่อไปเป็นนิทานคลาสสิกสำหรับคนที่จะเป็นนักจะเป็นนักขาย มีเซลส์แมนสองนายถูกบริษัทส่งไปขายของในป่าทวีปหนึ่ง ห่างไกลแสงสีและความเจริญ เซลส์คนหนึ่งโทรเลขกลับไปที่บริษัทว่า " กลับพรุ่งนี้-ที่นี่ไม่มีใครสวมรองเท้า" ส่วนอีกนายหนึ่งส่งโทรเลขเหมือนกันแต่มีข้อความว่า " ส่งรองเท้ามาด่วน 5,000 คู่-ที่นี่ไม่มีใครมีรองเท้า"
" สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย" คนเราเห็นอะไรไม่เหมือนกัน คนที่รู้จักมองในแง่ดีย่อมเห็นหนทางแห่งความสำเร็จเสมอ
เห็นด้วยนะครับเกี่ยวกับเรื่องทัศนคติที่ดี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประสบความสำเร็จ แต่ส่วนตัวแล้วในชีวิตที่ผ่านการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย การทำงาน บางครั้งก็ไม่ค่อยได้ใช้ทัศนคติที่ดีซักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะความจำเป็น สถานการณ์บีบบังคับ หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ก็หวังว่าทัศนคติดีๆ จะช่วยให้การทำงาน/การเรียนมีความสุขขึ้นครับ
ขอบคุณค่ะ สำหรับการมีส่วนร่วมในการมีทัศนะคติที่ดีและหวังว่าคงจะเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนก้าวต่อไปด้วยความภาคภูมิต่อไปค่ะ