ถ้าจะถามว่า รู้จัก อ.นพมานานแค่ไหนแล้ว ? ก็ต้องหยิบเครื่องคิดเลขมาคำนวณทีเดียว
อ.แหววเริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปีการศึกษา ๒๕๑๙ และภายหลังการเปิดเรียนหลังจากการปิดเรียนเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ก็ได้มีโอกาสรู้จัก อ.นพ ในร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นหน้าประตูท่าพระจันทร์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ...... จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ ๓๕ ปีแล้ว อ.นพในวันนั้นทำหน้าที่รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา ซึ่งทำหน้าที่ดูแลนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ค่อนข้างจะบอบช้ำจากเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่เกิดในธรรมศาสตร์ในปีนั้น
อ.แหววอาจจะโชคดีกว่าลูกศิษย์คนอื่นที่มีโอกาสเรียนรู้หลายอย่างจาก อ.นพ เริ่มต้นจากวิธีคิดต่อความเรื่องร้ายๆ ที่กดดันนักศึกษาในปี พ.ศ.๒๕๑๙ มาสู่การเรียนวิชากฎหมายระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสิทธิมนุษยชน ทั้งในชั้นปริญญาตรีและโท แม้ในเวลาช่วงหลังที่กลับมาทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์แล้ว อ.แหววก็ยังมีโอกาสเรียนรู้จาก อ.นพ อย่างไม่ขาดตอน
ดังนั้น อ.นพจึงเป็น “หนังสือที่มีชีวิต” เล่มหนึ่งของ อ.แหวว และเป็นหนังสือที่มีความรู้อันหลากหลายให้ค้นคว้า และเป็นหนังสือที่เดินมาหาเราได้อีกในยามที่เราดูจะคิดและทำอะไรที่ไม่เข้าท่า
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราสังเกตได้ก็คือ เมื่อเราทำดี อ.นพก็จะมีคำชมให้เรา และมีของขวัญให้เราเสมอ แม้ในยามที่ลูกศิษย์คนนี้มีอายุ ๕๐ กว่าปีแล้ว ก็ยังได้รับความดูแลจาก อ.นพ เหมือนนักศึกษาหญิงปีหนึ่งที่มีหัวคิดเอียงซ้ายนิดๆ เถียงคำไม่ตกฟาก และใส่กางเกงยีนส์มาเรียนคนเดิมเมื่อ ๓๕ ปีก่อน
สวัสดีครับ อาจารย์ แหวว
ขอบคุณ ครู นพ ครูเพื่อศิษย์ อาจารย์แหวว
ผมไม่เคยเรียนในระบบ แต่ค้นพบครูเพื่อศิษย์ ไปกทม. จะแวะไปกินกาแฟที่ธรรมศาสตร์
เพื่อนหลาคนก็เจอเหตุการณ์ในปี 19 ตอนนี้กยังรำลึกกันอยู่ที่ปักษ์ใต้