1 การเรียนการสอน
1.1 เด็กคิดได้ด้วยตนเอง
1.2 นำเสนอทุกสัปดาห์
1.3 ปิดอังคารและพุธ. เปิดพฤหัสถึงจันทร์
1.4 ผลัดกันเป็นหัวหน้าห้อง
1.5 ให้ผู้ปกครองอาสามาสอนเด็กด้วย และมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต่างๆ
1.5.1 อาจเป็นผู้ช่วยของครูหากบางคนสอนไม่ได้
1.6 ดึงสิ่งที่รู้อยู่แล้วมาพัฒนา
1.7 เด็กมีบทบาทในการกำหนดการเรียนการสอนของตนเอง
1.8 เด็กเลือกวิชาเรียนเองได้และเลือกครูได้
1.9 การมีส่วนร่วมจากการเลือกครู สอบถามครูถึงปัญหาที่จะต้องพบ
1.10 การเรียนต้องสนุก และตรูเอาวิตามินเสริมเข้าไปได้
1.11 ทุกห้องครูประจำ2คน
1.12 เปิด ชั้นละ 30 ม1 ถึง 3 รวม 90 คน
1.13 ใช้การสแกนนิ้วมือลงเวลาเรียน
2 การคัดเลือกครู
2.1 คุกก.และ นักเรียนสัมภาษณ์ในการรับครู
2.1.1 สอบสัมภาษณ์
2.1.2 สอบสอน
2.1.3 พัฒนาเด็กเป็นผู้ใหญ่พร้อมกัน
2.2 ครูไม่จำเป็นต้องจบวิชาครู
2.2.1 ใช้ใบขออนุญาตสอน
2.2.2 ก่อนสอนอบรมครู 1 เดือน
2.3 ครูเงินเดือนมากกว่าราชการและมีบ้านให้อยู่มีอาหารเลี้ยง
3 การคัดเลือกนักเรียนมาระดับมัธยม
3.1 ให้เด็กรุ่นพี่มาช่วยสอนเตรียมความพร้อม
3.2 ปรับพื้นฐานการเรียน ดูความเก่งและพฤติกรรม
4 งปม.มีมากจากมูลนิธิ 1ล้าน และต่างปท.ให้อีกตลอดเช่นบิลเกตต์
4.1 งปม.ไปพัฒนาข้างนอก
4.2 ช่วยให้สังคมดีขึ้น ไม่ได้เก็บเงิน
4.3 บริษัทเพื่อพัฒนาการศึกษา ที่ตั้งจะหาเงินให้โรงเรียน
4.3.1 กำไรบริจาคให้โรงเรียน
5 เด็กเรียนเก่งไม่ใช่เป้าหมายของโรงเรียน กว่าการให้ออกไปเผชิญกับสังคม
6 เช้า ผู้ปกครองมาส่ง เย็น ผู้ปกครองมารับ
7 มีครูต่างชาติมาจากประเทศอังกฤษ 2 คน
8 คนรุ่นใหม่ไม่ได้สนใจค่าตอบแทน ให้ความสนใจWinning Team ที่จะไปอยู่ด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ
ขอบคุณครูพิมพ์สุภาครับ
เป็นลักษณะโรงเรียนเอกชนหรือไงครับ
"1.12 เปิด ชั้นละ 30 ม1 ถึง 3 รวม 90 คน
1.13 ใช้การสแกนนิ้วมือลงเวลาเรียน"
ทั้งโรงเรียนมีแค่ 90 คน หรือไงครับ ห้องละ 30 แต่เฉพาะครูประจำชั้นมีห้องละ 2 คน
นักเรียนน้อย งบประมาณมาก ย่อมพัฒนาง่าย
อ.เอกชัยครับ
งบประมาณมาก นักเรียนน้อย เขาหาเงินเก่งในภาคเอกชนพัฒนาได้ดั่งใจครับ และทีมงานก็ต้องผ่านการเลือกสรรอย่างดีในการที่จะรับเข้ามาทำงาน จึงมีความพร้อมมากครับ