เมื่อสักครู่ (19 ส.ค.49 เวลา 21.45 น.) มีบันทึกของคุณอุทัย อันพิมพ์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คือบันทึก “การทรมานข้อมูล” วิ่งขึ้นหน้าแรก ด้วยผมไปให้ คห.ไว้ตั้งแต่เมื่อวาน และท่านได้มาตอบ คห.ผม แต่คงเป็นเพราะผมสื่อสารออกไปผิดพลาดอย่างมาก ทำให้ท่านเข้าใจไปในทำนองว่าเขียนบันทึกโดยเลียนแบบผมบันทึกที่ผมทำ link ไว้ให้ใน คห. ซึ่งจริง ๆ แล้วผมเพียงจะตรวจสอบและขอคำยืนยันจากท่านว่า คำว่า “การทรมาณข้อมูล” ที่ผมเพิ่งได้ยินครั้งแรกในบันทึกของท่านนั้น อันเดียวกันกับที่ผมได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ว่าคือ “การตรวจสอบสามเส้า” ไหม ซึ่งหากใช่อันเดียวกันหรือไม่ใช่อย่างไร ผมก็จะได้ลงในรายละเอียดต่อไปว่า “การทรมาณข้อมูล” นั้นที่แท้จริงคืออะไรต่อไป
การสื่อสารออกไปในแต่ละครั้ง ก็เป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี คือทั้ง “สื่อสารพลาด” ของผู้ให้สาร หรือไม่ก็ “ตีความผิด” ของผู้รับสาร ทำให้การสื่อสารไม่บรรลุผล งานนี้ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นที่ผมเอง เพราะได้สื่อสารออกไปไม่ดีพอ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดไป ผมรู้สึกเสียใจมาก และได้กราบขอโทษต่อท่านไปแล้วในการตอบ คห.ในบันทึกของท่าน บันทึกนี้จึงอยากจะกราบขอโทษท่านอีกครั้งหนึ่ง
นำมาเขียนไว้อีกครั้งเพื่อเตือนสติตนเองว่า คราวต่อไปให้ระมัดระวังในการสื่อสารให้ดี เพราะหากเกิดการตีความเป็นเชิงลบเมื่อไหร่ ก็จะเกิดเป็นความเสียใจ อย่างที่รู้สึกเสียใจในตอนนี้ และทำให้คิดต่อไปได้อีกหลาย ๆ อย่างมาก ขอเก็บเป็นความทรงจำที่ดี ๆ เพื่อระมัดระวังตนต่อไปในวันหน้า ตายังยืนยันว่าตัวเองคิดเชิงบวกในตอนที่ให้ คห.ไปในครั้งแรกจริง ๆ
สำคัญเหมือนกันครับ บางที (หลายครั้ง) ที่ผมให้ความเห็นออกไป ตอนที่ยังพิมพ์อยู่ ก็อ่านแล้วเข้าใจ พอโพสอ่านแล้วคนละความหมาย อาจเพราะ ตัวอักษรหายไป ตก หล่นแม้กระทั่งเว้นวรรคผิด ก็ความหมายเปลี่ยนไปในทันที
ผมระวังมากเลยครับช่วงหลัง ก็ต้องทวนหลายครั้ง
ผมเข้าใจอย่างหนึ่งว่าใน G2K ทุกคนพื้นฐานที่ต้องการเรียนรู้ และเป็นคนดี ฉะนั้นบางทีมีอะไรอาจต้องเปิดใจให้กว้าง ..
ก่อนที่จะเคืองกัน...กลัวครับ กลัวคนอื่นเข้าใจผิด
น้องจตุพร
ครับ หากจำไม่ผิดคราวที่แล้ว (นานแล้ว) ผมไปชวนให้อาจารย์น้อง Vij มาอ่านบันทึกเรื่องไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน...คำตอบน้องเดม ที่ผมเขียนไว้ ในบันทึกเรื่องคล้าย ๆ กันของอาจารย์น้อง Vij ตอนแรกไม่มีอะไร แต่พอมีคนมาให้ คห.ต่อจากผมในทำนองจะเขียนก็ให้คิดเองบ้าง เท่านั้นแหละครับ คห.ที่ผมให้ไว้ก็กลายเป็นเรื่อง "โอละพ่อ"
แต่เมื่อได้มีการตอบ คห.ชี้แจงกันไปมาอีก 2 ครั้ง ก็เข้าใจกันได้ว่าผมเจตนาจะชวนให้มาอ่านบันทึกคล้าย ๆ กัน อีกสไตล์หนึ่งเท่านั้น
คราวนี้ก็เช่นเดียวกันครับ ถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับคำตอบอะไรว่าเข้าใจหรือยัง ก็อยากให้เข้าใจกัน เพื่อทัศนคติที่ดีต่อกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อมั่นมากว่าใจผมคิดอะไรตั้งใจอะไร ก็ตามที่เขียนในบันทึกนั่นแหละครับ
อาจารย์จันทรรัตน์ ครับ
ผมอยากฝึกมั่งจังเลย บันทึก พูดดีๆฟังดีๆ ก็อ่านแล้ววันก่อนนะครับ ยังบอกอาจารย์เลยว่าให้ข้อคิดดี ๆ ไหงยังพลาด (ยิ้ม ๆ) ยังไงก็ฝึกอีกครับ สงสัยคงต้องขยันฝึกจึงเกิดทักษะ... ครับ
พี่เมตตา ครับ
ขอบคุณครับที่ทำให้ผมดูจะมั่นใจขึ้น พี่สาวที่แสนดีเสมอ ผมยังติดค้างพี่อีกหลายเรื่องที่เดียว ยังไงแล้วจะทดแทนนะครับ (พูดดีแหละ เวลาขอผัดเพื่อนนะ)
คุณ adcordiality
ขอบคุณนะครับ สำหรับข้อคิดเตือนใจ ผมชอบความสุขครับ ฉะนั้นผมต้องไม่คิดมากใช่ไหมครับ (ยิ้ม ๆ แล้ว)
แอบ (ย่อง ๆ) เข้ามาตอนเจ้าของบันทึกหลับ!! (หรือเปล่า)
เข้ามาแบบยิ้ม ๆ เมื่อไปอ่านบันทึก “การทรมานข้อมูล” กับการให้ คห. ของคุณ "พี่ชายขอบ" เหตุการณ์ ความรู้สึก และสถานที่เดียวกัน แต่หากต่างด้วยเวลา "การสื่อสารด้วยเจตนาดี...แต่การตีความที่ผิดพลาด" มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หากแต่ได้พิจารณาและมองให้ลึกลงไปก็จะเห็นถึงเนื้อแท้ของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเจตนาที่ดีของผู้ให้...เหตุการณ์เช่นนี้เคยประสบพบเจอด้วยตนเอง จึงเข้าใจทั้งความรู้สึกของเจ้าของบันทึก และผู้ที่ให้ คห. แต่เชื่อว่าหากได้พิจารณากันอีกรอบด้วยใจที่นิ่งไม่เอนเอียง จะพบความจริงที่ควรแก่การให้อภัยกันและกัน สังคมแห่งการไว้วางใจก็จะเกิดขึ้นในใจตลอดไป
"ผิดเป็นครู...ไม่ผิดเป็นผู้อำนวยการ" ยิ้ม ๆ ไว้นะคะ คุณ "พี่ชายขอบ"
อาจารย์น้อง Vij
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาให้กำลังใจกัน ตรงที่ "ผิดเป็นครู...ไม่ผิดเป็นผู้อำนวยการ" งั้นผมผิดก็เป็นครูได้ล่ะสิครับ แล้วผู้อำนวยการนี่ไม่ผิดเลยเหรอครับ (ยิ้ม ๆ)
มาเพื่อตอบคำถามค่ะ "ผอ.นี่ไม่ผิดไม่ผิดเลยเหรอครับ" ผอ. ไม่ผิดเลยบางครั้งเป็นภาพลวงตาค่ะ (ไม่ใช่ศูนย์แท้แต่เป็นศูนย์เทียม) ผอ.ขยับเขยื้อนมาจากตำแหน่งครูผู้น้อย หากพูดว่า "ผิดเป็นครู" นั่นก็แสดงว่า ผอ.เคยผิดพลาดมาก่อน (แป๋ว...แว๋ว ๆๆ)
ขอทิ้งท้ายด้วยคำถามบ้างค่ะ คุณ "พี่ชายขอบ" เคยเห็นใครในโลกใบนี้ (นับเฉพาะคนที่พี่รู้จักนะคะ) ที่ไม่เคยกระทำความผิดบ้างใหมค่ะ?...สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าหากเรารู้ตัวว่าเราทำผิดเราจะน้อมรับความผิดนั้นด้วยใจใหม หรือแค่ปากบอกว่ายอมรับแต่ใจและการกระทำยังสวนทางกับคำพูดอยู่...หากผิดแล้วเราปรับปรุงแก้ไขเพื่อเป็นบทเรียนสอนใจในครั้งต่อไปนั้นถือว่า "ผิดเป็นครู" ค่ะ
เปิดใจให้กว้าง...น้อมรับความผิด...ขอโทษ...ด้วยใจรับผิด...อภัยและเข้าใจกัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีของปัญหานะคะ (ยิ้ม ๆ มั่ง)