“คนที่เป็นครูส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ดีถ้าใช้การอ่าน-เขียน เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่านักเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น” คำกล่าวของ Dr. Nancy Updegraff ทำให้ดิฉันตั้งคำถามกับตัวเองว่า “แล้วครูที่โรงเรียนเพลินพัฒนาล่ะ?”
เพราะเมื่อครูถนัดในการอ่านเขียน ครูก็มักจะใช้การอ่านเขียนเป็นสื่อหลักในการเรียนรู้ และออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็ก จากวิธีการที่ครูคุ้นเคย ดังนั้นการเรียนรู้ในห้องเรียนจึงไม่สามารถสร้างการเรียนรู้ให้กับนักเรียนที่มีวิธีการเรียนรู้ หรือลีลาการเรียนรู้ที่แตกต่างได้
แล้วโอกาสดีๆ ก็มาถึง...เมื่อทางช่วงชั้นที่ ๒ มาชวนคิดชวนคุยเรื่องประเด็นการ AAR การเรียนรู้ของนักเรียนในภาคเรียนฉันทะ
ดิฉันจึงเสนอให้ช่วงชั้นทำกิจกรรม AAR กับคุณครูช่วงชั้นที่ ๒ โดยใช้คำถามเดียวกันกับที่จะใช้กับนักเรียน แต่เป็นการมองกลับไปที่แผนการจัดการเรียนรู้ของตนเอง เพราะถ้าครูเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองชัด ครูก็จะนำกิจกรรมการทบทวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้ดี
การเรียนรู้ที่เพลินพัฒนา เน้นที่การเรียนรู้จากกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ แล้วสร้างความรู้จากความเข้าใจของตัวเองขึ้นมา ดังนั้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมจึงมีความสำคัญ
คำถามหลักของการ AAR จึงตั้งต้นจากคำถามที่ว่า “กิจกรรมการเรียนรู้อะไรที่สร้างการเรียนรู้ให้ฉันได้มากที่สุด และดีที่สุด”
จากการสำรวจผลการ AAR ของคุณครูช่วงชั้นที่ ๒ จำนวน ๒๕ คน พบว่าคุณครู ๑๘ คนเรียนรู้ได้ดีถ้าได้ลงมือทำ ๙ คนที่เรียนรู้ได้ดีเมื่อได้ฟัง ในจำนวนนี้มีครู ๒ คน ที่เรียนรู้ได้ดีเมื่อได้ลงมือทำและได้ฟังไปพร้อมกัน
การให้ครูทำ AAR ในครั้งนี้ จึงเป็นการพาให้เกิดการมองเห็นตัวเอง และเกิดการมองเห็นวิธีเรียนรู้ของเด็กจากการมองเห็นตัวเอง และช่วยให้ "ครูของครู" ได้มองเห็นครูของตนอีกชั้นหนึ่ง
การที่พาให้เด็กทำ AAR ด้วยประเด็นคำถามเดียวกัน เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ครูเกิดความสามารถในการ "อ่านเด็ก" ได้รู้จักเด็กเป็นรายบุคคล และยังสามารถนำผลสรุปของการ AAR นี้ย้อนกลับมาพัฒนาแผนการเรียนรู้ที่ครูสร้างขึ้น ตลอดจนนำไปปรับพัฒนาการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นในภาคเรียนถัดไปให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นด้วย
ไม่มีความเห็น