ค่ำคืนวันหนึ่ง...นักศึกษาไทยหลายท่านไปที่สถานีรถไฟเมืองพาราณสี เป้าหมายอยู่ที่วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร ซึ่ง
เป็นสถานที่ตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้า...ผมพึ่งสังเกตุเห็นรถไฟในอินเดียใหญ่กว่ารถไฟในไทยครับ...และมีโบกี้มากกว่า...การเดินทางทุกที่มีอันตรายตามเรา
เหมือนเงาตามตัว...สิ่งที่เราควรทำคือ อย่าเก็บเงินไว้ที่เดียวกัน...ผมทำถุงเงินและเก็บหลักฐาน...เช่นหนังสือเดินทาง...แบบพิเศษ...คือทำสายคล้องเฉวียงบ่าใส่ไว้ข้างใน...ถุงมันจะอยู่ข้าง ๆใกล้เอว..มีแขนปิดแนบป้องกันอีกชั้นครับ...เหตุผล...รุ่นพี่มากประสบการณ์ก็ยังโดนขโมยได้
เพราะการเดินทางโดยรถไฟมีผู้คนเยอะมาก ๆ พวกตีตั๋วฟรีมีทุกที่...ชอบอยู่ใกล้บันได
ทางออก...และอยู่บนหลังคารถไฟครับ...สิ่งที่ขายในรถไฟขึ้นชื่อคือ...จาย ปิน่า แฮ...
เสียงนี้จะดังไปทั่ว...เป็นการร้องขายน้ำชา...ครับ ฮา ๆ เอิก ๆ
ช่วงรถไฟกำลังข้ามสะพานผ่านแม่น้ำคงคา...เห็นผู้คนยกมือไหว้...บางคนโยนสตางค์
ลงไปในแม่น้ำคงคานั้น...เป็นการบูชาพระแม่คงคาครับ
ใกล้รุ่ง...รถไฟเข้าจอดที่สถานีคยา เราเช่าเหมารถเรียบฝั่งแม่น้ำเนรัญชราไปถึงวัดไทยพุทธคยา หลังจากทำการเคารพสมภารวัดแล้วก็ตามแต่ใครจะไปไหน...ผมไปสถานที่
เจดีย์พุทธคยา พอไปถึงปากทางเข้า...พวกขอทานตรูกันมามาก ๆๆ แสดงว่าคนไทยเวลาไปแสวงบุญให้ทานมากเกินพอดี...เราใจบุญเกินไปครับ...เลยทำให้ขอทานในอินเดียนิสัยเสีย
ผมแทบจะเดินไปไหนไม่ได้เพราะพวกเขาตามมาขอทานตลอดเลยครับ...ผมคิดวิธีใหม่คือ
ทำตัวอย่าให้ขอทานรู้ว่าเราเป็นคนไทย...ฮา ๆ เอิก ๆ สำเร็จ ...ผมไปไหนทั่วอินเดียก็ใช้วิธีนี้
ครับ...ทำตัวตบตาขอทาน...ผมได้เข้าไปก้มกราบฐานที่นั่งใต้ต้นโพธิ์ซึ่งเป็นสหชาติ คือ ต้นโพธิ์เกิดขึ้นวันเดียวกันกับสิทธัตถะกุมารประสูติ นี้เป็นต้นที่ 4 นายพลเซอร์ คันนิ่งแฮม
นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ปลูกขึ้นแทนต้นที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2423 สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันอายุได้ 126 ปีแล้วครับ...นั่งทำสมาธิ...สุดจิตสุดใจ
...มีเสียงตกลงมาข้างหน้า...เอื้อมมือจับนำแนบอกตน...ใบโพธิ์...1 ใบครับ...
ผมวนเวียนอยู่ที่นั้น...หลายชั่วโมง...ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย...ภาพพุทธประวัติ...เกิดขี้น
ในจิตใจ...ภาพแล้วภาพเล่า...และก่อนกลับได้เข้าไปนมัสการเจดีย์ของพระพุทธโฆษาจารย์
ผู้แต่งตำราธรรมบท ภาค 1 - 8 ครับ ที่ผมเคยเรียน ต่อจากนั้นผมเดินข้ามแม่น้ำเนรัญชรา
ช่วงต้น สิงหาคม ยังเดินข้ามไปยังหมู่บ้านนางสุชาดาได้ครับ
ไปดูที่รอยถาดทอง...และบ้านนางสุชาดามีเพียงเนินดินครับ ช่วงนั้นเธอนำก้อนข้าวไปถวายนักบวชสิทธัตถะ ซึ่งเธอนึกว่าเป็นเทวดานั่งอยู่ใต้ต้นไม้...ต่อมานางแต่งงานกับเศรษฐีในเมือง
พาราณสี มีบุตรชื่อว่า ยสะ ครับ
พอพลบค่ำผมก็กลับไปนอนเอาแรงที่วัดไทยพุทธคยาขณะใกล้จะถึงวัด เหลียวไปเห็นชายชาวอินเดียคนหนึ่งเดินสองมืออุ้มลูกอัณฑะของตนเอง...เท่าลูกแตงโมงใหญ่มากครับ
สอบถามได้ความว่า...ยุงกัดเลยเป็นโรคนี้..
.คืนนี้กูจะรอดพ้นจากยุงไหมวะยุงเยอะจัง...ผมนึกถึงตนเอง
รอพรุ่งนี้จะตามต่อซึ่งรอยบาทพระพุทธเจ้า โปรดติดตามตอนต่อไป
ด้วยความปรารถนาดี
จาก...umi
รุ่งอรุณสวัสดิ์คะอาจารย์....
ทีแรกอ่านไปกังวลคะ....กลัวโดนวิ่งราว(ลาว...ฮา!)...แต่พอคิดไปคิดมา...อืมทุกที่น่ากลัวและไม่น่ากลัว...อยู่ที่เรากล้าเผชิญ....แค่ไหน...แต่ได้เกร็ดความรู้จากอาจารย์ก็จะได้นำติดตัวไว้....เพื่อให้ตนระวังภัยยิ่งขึ้นคะ....
....
แต่เอ๊ะ!....ไม่ให้ชาวอินเดียรู้ว่าเราเป็นคนไทย....เราจะปลอมตนเป็นชาติไหนดีคะ....หน้ากะปุ๋มยังงัยก็เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซนต์เลยคะ....(อิอิ)....
....
วันต่อๆไป...จะรอตามรอยพุทธบาทคะ....
ด้วยความศรัทธาคะ
กะปุ๋ม
สวัสดีครับ คุณกะปุ๋ม
เป็นสิ่งที่ดีครับ...ถ้าจะมีประโยชน์...ประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตใด้...อยู่ที่เรากล้าเผชิญ...ถูกต้องนะครับ...
ผมไม่บอก...แต่อาจปลอมเป็นคนอินเดียก็ได้ ฮา ๆ เอิก ๆ
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเติมเต็ม...
ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ
จาก...umi
สวัสดีครับ คุณชายขอบ
ผมมาจากที่พักฝนตกตลอดทาง
ถึงที่ทำงานเหลียวมองมาทางทะเลสาบฝั่งพัทลุง
ก็ครื้มฝนเหมือนกัน...ที่บ้านฝนตกไหมครับ
เมื่อวาน...เดินเที่ยวงานเกษตรฯ มอ. หาดใหญ่
เขามีงานจนถึง 20 สิงหาคม 2549 มาเที่ยวหรือยังครับ...
ขอบคุณครับที่ได้ ลปรร กัน
ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ
จาก...umi
ยุงกะขอทาน เยอะพอ ๆ กันมั้ยครับ อ.UMI
ผมอยากย้อนเวลา ไปอินเดียกับ อาจารย์จังครับ
ขอบคุณ โลกทรรศน์ ของอาจารย์ ที่เผื่อมาถึงผม ครับ
สวัสดีครับ คุณ แสงศรี
ขอทานเยอะกว่าครับตอนนี้
เพราะคนไทยใจดีไปไหนแจกตลอดไงละ อิ อิ อิ
ขอบคุณครับผม