โรคผิวหนังที่มาพร้อมกับน้ำท่วม (Flooding & the skin)

โรคผิวหนังบางประเภทที่พบได้ร่วมกับน้ำท่วม คือเชื้อรา การติดเชื้อแบคทีเรีย แผล และแมลง สัตว์ กัดต่อย

 ในสภาวะที่ภัยธรรมชาติพบได้บ่อยครั้ง  คงได้ยินข่าวน้ำท่วมที่โน่นที่นี่บ่อยๆ  ช่วงหลังๆ ที่มีข่าวน้ำท่วม มักไม่ใช่น้ำใสๆ ที่มาจากการล้นเอ่อของน้ำ จากแม่น้ำเหมือนแต่ก่อน แต่เป็นน้ำที่มาจากภูเขาที่มีโคลนปะปนมาไม่มากก็น้อย  สังเกตดูได้จาก เมื่อน้ำลดแล้ว จะมีโคลนในบริเวณบ้านที่ต้องทำความสะอาดกัน

 

 ในสภาวะของการมีน้ำท่วมนั้น มีโรคผิวหนังบางประเภทที่พบได้ร่วมกับน้ำท่วม

 

ประการแรก เป็นโรคผิวหนังที่มีสาเหตุได้จากการที่ผิวหนังบริเวณเท้าแช่น้ำอยู่เป็นระยะเวลานานๆ ในคนที่แข็งแรงดีให้ระวังเรื่องการติดเชื้อราที่เท้า ส่วนในผู้ที่มีโรคเบาหวานเป็นทุนเดิมอยู่นั้นให้ระวังทั้งการติดเชื้อรา และการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุต่อเนื่องทำให้เป็นโรคไฟลามทุ่ง ที่มีอาการแดง เจ็บปวด ร้อนที่ผิวหนังบริเวณหน้าแข้ง แล้วลุกลามอย่างรวดเร็ว ไปในทิศทางจากข้อเท้าไปหัวเข่า ถ้ามีอาการอย่างที่ว่า อย่านิ่งนอนใจนะครับ ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล อาจจะถึงขั้นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล

รูปแสดงเชื้อราที่ง่ามนิ้วมือ

รูปแสดงเชื้อราที่ง่ามนิ้วเท้าที่พบได้บ่อย เมื่อเท้าแช่ในน้ำท่วม

 

ประการที่สอง เป็นโรคผิวหนังที่เป็นแผล เกิดจากการโดนของแข็งทิ่มบาดเอา นอกจากจะมีแผลแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย อาจถึงขั้นเป็นบาดทะยักได้

 

ประการสุดท้าย เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากแมงหรือแมลง ตะขาบ แมงป่องกัดต่อย หรือโดนสัตว์เช่น งูกัด บางรายอาจมีอาการแพ้ได้คือเป็นได้ตั้งแต่ลมพิษ จนถึงมีอาการช็อคได้ ก็ให้ระวังเวลาที่เท้าหรือตัวแช่อยู่ในน้ำ

 

นี่ยังไม่รวมการโดนไฟดูด การสำลักน้ำ รวมถึงการจมน้ำนะครับ

 

ก็หวังว่าพื้นที่ที่โดนน้ำท่วมอยู่ ก็ให้น้ำลดอย่างเร็วไม่มีผลจากน้ำท่วมดังที่กล่าวมานะครับ

หมอสุข

 

[แสงแห่งความดี...]

ขอบพระคุณ .ความรู้และข้อคำเตือนที่คุณหมอนำมาฝากนะครับ

[อาร์ม]

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะอาจารย์

[ขจิต ฝอยทอง]

• ชาวบ้านที่ทำนาแถวบ้านไร่ที่พนมทวนเป้นกันมากเลยครับ
• บางทีแช่น้ำนานๆ
• จะลองเอาความรู้จากคุณหมอไปบอกชาวบ้านนะครับ
• ขอบคุณครับ

[หมอสุข]

ขอบพระคุณ

คุณแสงแห่งความดี ที่แวะมาอ่านและสำหรับดอกไม้ครับ

คุณอาร์ม ที่แวะมาอ่าน

อาจารย์ขจิต ที่มาเยี่ยมเยือนกันเนืองๆ  ถ้าความรู้เป็นประโยชน์สำหรับชาวบ้าน ก็เป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมี Gotoknow เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้นะครับ

• หมอสุข