เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๖ - ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔


 

๑๓  มิถุนายน ๒๕๕๔

เรียน เพื่อนครู ผู้บริหารและท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๖  มิถุนายน  ๒๕๕๔  เช้าทำงานแฟ้มเอกสารของกลุ่มงานต่าง ๆ รวมทั้งพิจารณาข้อมูลเชิงคุณภาพของโรงเรียนที่กลุ่มนิเทศฯรวบรวมไว้ ทั้งโรงเรียนเล็กโรงเรียนใหญ่ค่าเฉลี่ยไม่ทิ้งห่างกันนัก เวลาคนวิพากษ์วิจารณ์มักจะพูดถึงแต่โรงเรียนเล็ก เพราะง่ายต่อการอธิบาย ขาดครู ขาดอุปกรณ์ นักเรียนมาจากครอบครัวที่ยากจน เข้าวงจรโง่ จน เจ็บ พอพูดถึงโรงเรียนใหญ่ ๆ มักจะเกรงอกเกรงใจที่จะพูดตรงไปตรงมา แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ได้รับจดหมายน้อยอยู่บ่อยครั้งและมีหลายโรงเรียน คือ ผู้บริหารไม่อยู่โรงเรียน ยิ่งมีตำแหน่งในองค์กรภายนอกมักจะหายตัวไปบ่อย ๆ จนครูเขาระอาและระบายกันมา ใหม่ ๆ ก็คิดว่าคงเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว สักพักก็ดีเองด้วยจิตสำนึกความรับผิดชอบ เอาเข้าจริงกลับหนักหนาสาหัสกว่าเดิม คงต้องกำหนดมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เพราะหากไม่ทำคงยากที่จะถามหาคุณภาพของนักเรียน ที่สำคัญรัฐได้ทุ่มเทขึ้นเงินเดือนให้มาก หากทำงานไม่คุ้มค่าเงินคงตอบคำถามชาวบ้านยาก   เที่ยงกินข้าวที่ห้องทำงานเพราะท่านรองฯประพฤทธิ์ บุญอำไพ นำปลาช่อนแดดเดียวทอดสุกจากอ่างทองมาฝาก จึงฉลองศรัทธาไปตามสมควร เสียแต่แกงเหลืองที่ไปซื้อมาไม่ค่อยอร่อยเหมือนต้นตำหรับ    บ่ายประชุม อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา อนุกรรมการมากันพอครบองค์ประชุม หลายท่านติดภารกิจสำคัญ การประชุมนัดนี้เลื่อนให้เร็วขึ้นเพราะมีวาระที่กำหนดโดย สพฐ. ให้ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ  เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา เรื่องแรก เป็นการอนุมัติผลการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มตำแหน่งครูผู้ช่วย มีกำหนดครบ  ๒  ปี มาเพื่อดำเนินการขออนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อแต่งตั้งครูผู้ช่วย ให้ดำรงตำแหน่งครู  ๑ ราย คือ นางสาวแสงเทียน  จิตรโชติ  โรงเรียนวัดคุณหญิงส้มจีน ที่ประชุมพิจารณาแล้วอนุมัติ   เรื่องที่ ๒  การจัดสรรอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๓  สพป. ปทุมธานี เขต ๑ มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ในสถานศึกษา) ที่เกษียณอายุราชการ  เมื่อสิ้นปีงบประมาณ  พ.ศ.๒๕๕๓   จำนวน  ๑๔  อัตรา แต่ได้รับการจัดสรรคืนและเพิ่มเติมให้อีกรวม    ๒๒ อัตรา  จัดอัตราเพื่อใช้รับนักศึกษาทุนโครงการครูพันธุ์ใหม่อีก   ๔ อัตรา  รวมทั้งสิ้น  ๒๖ อัตรา ได้นำเสนอบัญชีจัดสรรที่ผ่านคณะกรรมการกลั่นให้ที่ประชุมอนุมัติ  เรื่องที่ ๓  การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ จากที่กันไว้เดิม ๔ อัตราและกันไว้จากที่ได้รับจัดสรรใหม่อีก ๔ อัตรา รวม ๘ อัตรา ที่ประชุมอนุมัติให้ดำเนินการได้  เรื่องที่ ๔ การคัดเลือกผู้สำเร็จการศึกษาโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู ๔ อัตรา วิชาเอกปฐมวัย โรงเรียนอนุบาลปทุมธานี วิชาเอกนาฏศิลป์           โรงเรียนวันครู ๒๕๐๒   วิชาเอกภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดหงส์ปทุมาวาส  และวิชาเอกคณิตศาสตร์        โรงเรียนชุมชนวัดบางขัน  เรื่องที่ ๕ แต่งตั้งคณะกรรมการประเมิน   ด้านวินัย  คุณธรรม   จริยธรรม  และจรรยาบรรณวิชาชีพด้านความรู้ความสามารถ  ด้านผลการปฏิบัติงาน   ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จัดส่งคำขอเพื่อขอประเมินให้มีวิทยฐานะชำนาญการ ๑ ราย คือ  นายณัฐพงษ์   ศิริปุณย์    ตำแหน่งครูโรงเรียนคลองหนึ่ง (แก้วนิมิตร)

วันอังคาร ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔  เช้าไปเป็นประธานเปิดการอบรมการประกันคุณภาพ ณ โรงเรียนสอนภาษา เฟิร์สแบ๊พติส  อ.เมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งจัด ๒ วัน ระหว่าง วันที่ ๗ - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ เป็นโครงการพัฒนาครูทั้งระบบของ สช. มีท่านรองฯ สุรบัญชา วิชิตพันธุ์ เดินทางไปด้วย เป็นครั้งแรกที่ไปโรงเรียนนี้ จำได้ว่าอยู่ในโซนเดียวกับโรงเรียนวัดนาวง หรือหมู่บ้านเมืองเอก โรงเรียนสอนภาษาเฟิร์สแบ๊พติส เป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบ บริหารงานโดยอดีตนายตำรวจที่มีความแกล้วกล้าว่องไว อาคารเรียนอาคารประกอบจัดง่าย ๆ แต่ดูดี ที่ตั้งก็ไม่ไกลจากตลาดรังสิตมากนัก วิทยากรให้การอบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก สช. เขาเขียนคำกล่าวพิธีเปิดให้หนึ่งหน้า ไม่ได้เพิ่มเติมอะไรให้มาก เพราะวิทยากรเขาพร้อมจะบรรยายแล้ว นั่งคุยกับผู้รับอนุญาตโรงเรียนเอกชนอีกแห่งหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังว่า กำลังเปิดกิจการรีสอร์ทที่เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เชิญชวนให้ไปใช้บริการ ดูภาพถ่ายเขาทำหลังคาเป็นคีบอร์ดของเปียโนดูสวยงามและแปลกดี

 เดินทางต่อไปที่โรงเรียนวัดนาวง ผอ.สุทัศน์  ตุรงค์เรือง ผู้อำนวยการโรงเรียนออกมาต้อนรับ พาชมอาคารทรงไทยที่ให้ช่างจากทางเหนือมาปักหลักก่อสร้างเป็นแรมปี ไม้เหล่านี้ได้จากการรื้ออาคารเรียนที่หมดสภาพการใช้งาน แต่เมื่อมาตกแต่งใหม่ดูมีค่ากว่าอาคารคอนกรีตเป็นไหน ๆ เข้าไปนั่งคุยกับรองผู้อำนวยการโรงเรียน ๒ - ๓ ท่าน ท่าน ผอ.รร.ยังประสงค์จะเปิดเรียนให้ถึงชั้น ม.ปลาย เพราะนักเรียนที่จบ ม.ต้น ไม่มีที่เรียน จะเสนอไปให้ สพฐ. พิจารณาอีกครั้ง เพราะโรงเรียนวัดนาวงเป็นโรงเรียนดีประจำตำบลรุ่นแรก อาจจะได้รับการพิจารณาให้เปิดสอนได้  เห็นใกล้เที่ยงจึงลากลับ มาแวะกิน"ข้าวมันไก่ นายลิ่มซัง" อยู่ในตึกแถว 3-4 คูหา สังเกตง่ายไปเที่ยงๆ คนเยอะ วันนี้ไปก่อนเที่ยงนิดหน่อยคนเพิ่งทยอยกันมา จึงรอไม่นาน  ตอนเที่ยงๆ หิวจัดๆ โหยๆ สักนิด นึกถึงข้าวมันไก่เมื่อไร ระบบน้ำย่อยทำงานเมื่อนั้น เสน่ห์ของข้าวมันไก่อยู่ที่ ไก่เนื้อขาว หนานุ่ม กับข้าวมันที่เป็นเม็ดๆ ไม่เละแต่นุ่มเนียน ไม่มันเยิ้ม แต่สัมผัสลิ้นแล้วรู้สึกถึงความหอมมัน ตามด้วยน้ำจิ้มที่ต้องเข้มข้น กลมกล่อม เติมกระเทียมสด พริกขี้หนูหั่นละเอียด ตามด้วยน้ำซุปกระดูกไก่ที่หอมกรุ่นร้านนี้โครงไก่ตักให้เห็นเป็นตัว ๆ  โรยต้นหอมผักชี ต้องเป็นน้ำซุปที่ไม่จืดสนิท ออกหวานนิดเค็มหน่อย แกล้มด้วยแตงกวาสดที่ต้องสดจริงๆ เคยคิดก่อนกินว่าจะสู้ข้าวมันไก่โกจง ที่หัวหินได้ไหมหนอ พอทานแล้วต้องยอมรับว่าใกล้เคียงกันมาก ไม่ต้องถ่อสังขารไปกินถึงหัวหินแล้ว เอาร้านนายลิ่มซังแถวนาวงนี่แหละรสชาติไม่แพ้กันที่สำคัญควรไปถึงก่อนเที่ยงจะได้ไม่ผิดหวัง บ่ายกลับสำนักงานมาลงชื่อในแฟ้มเอกสาร เย็นนี้กลับมามาซ่อมจานรับสัญญาณดาวเทียมของทีวีที่บ้านพัก เพราะมืดบอดมาหลายวัน เพียงตัดกิ่งไม้ออกก็รับได้ตามปกติ

วันพุธที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๔  เช้านี้เข้ากระทรวงศึกษาธิการ ขับรถไปเองนำไปจอดไว้ที่ลานจอดรถของวัดมกุฏกษัตริยาราม ต้องจ่ายค่าจอดเป็นรายชั่วโมง แต่ก็สะดวกดี เดินขึ้นสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษมไปอีกหน่อยก็เข้ารั้วกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ถนนราชดำเนินนอกหน้ากระทรวงถูกกลุ่มพันธมิตรจับจองไว้หมด รถทุกชนิดผ่านไม่ได้  ขึ้นไปชั้นที่ ๑๐ ของอาคารราชวัลลภ เป็นที่ทำการของสำนักนิติการ สป. เจ้าหน้าที่เพิ่งมาทำงานกันเพียงสองสามคน เพราะเช้ามาก รอไม่นานทีมงานก็มาถึงพากันเดินเท้าไปตึกสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา แวะเยี่ยม คุณศรายุทธ  เจริญผล รองเลขาธิการคุรุสภา เพราะคุ้นเคยกันมาจากเพชรบุรี  ภาคเช้าได้พูดคุยกับท่านเลขาธิการคุรุสภาและผู้อำนวยการสำนักต่าง ๆ พอเที่ยงเขาอนุเคราะห์ให้ทานอาหารกลางวันคนละจาน บ่ายเดินทางไปโรงแรมปริ้นพาเลช ย่านมหานาคหรือโบ๊เบ๊ วันนี้มีประชุมเจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่การศึกษาที่รับผิดชอบกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา จึงได้พบเพื่อนร่วมงานเก่า ๆ หลายคนในหลายเขต ทั้งเขตประถมศึกษาและเขตมัธยมศึกษา ที่น่าวิตกกังวลในภาพรวมคงจะเป็นเขตมัธยมศึกษา ทุกคนปรารภให้ฟังว่างานมากเกินกำลัง คนมีน้อย พื้นที่บริการกว้าง บางคนบอกว่ารอให้เขาปรับระดับสูงขึ้นเสียก่อน จะหาทางย้ายกลับเขตประถมศึกษา ให้กำลังใจไปว่า เป็นโอกาสที่จะได้แสดงความรู้ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ ความลำบากไม่นานก็ผ่านไป ด้วยความเคยชินของเราเอง เย็นวันนี้ได้คุยกับรองศาสตราจารย์สุมน  สกลไชย อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้มีเกียรติประวัติดีงามเป็นที่ยอมรับนับถือทั้งในและต่างประเทศ วันนี้ท่านรับภาระหนักรักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน  มื้อเย็นฝากท้องไว้กับคณะของ กยศ. เพราะท่านผู้ตรวจฯ บัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เป็นผู้รับผิดชอบงาน กยศ.ของกระทรวงศึกษาธิการ    

วันพฤหัสบดีที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔  เช้าเดินทางไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพราะรับปาก ดร.นารี คูหาเรืองรอง ไว้เมื่อวานว่าจะไปเป็นประธานเปิดโครงการคนเก่ง คนดี ศรีสังคมให้ในวันนี้ โครงการนี้เป็นโครงการร่วมระหว่างโรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิธีเปิดใช้ห้องเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ อาคารปิยชาติ นักเรียนอยู่ Talent Camp สองวัน วิทยากรอธิบายว่านักเรียนรุ่นที่แล้วชอบมาก ที่สำคัญรองอธิการบดีให้ความสนใจเป็นพิเศษ พรุ่งนี้จะมาร่วมกิจกรรม กลับมาทำงานแฟ้มเอกสารด้วยพรุ่งนี้จะไม่อยู่ สะสางจนเสร็จ เที่ยงลงไปทานข้าวที่ห้องสโมสรมีอาหารอีสานรสเด็ดหลายชนิดมาให้ทาน เชิญท่านรองฯ มาร่วมรับประทานด้วย บ่ายมีประชุมคณะกรรมการพัฒนาชีวิตครูที่ห้องประชุมเล็ก มีผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด เป็นประธาน มีวาระพิจารณาคือการให้ทุนการศึกษาแก่บุตรสมาชิก นอกนั้นเป็นการหารือในการหักเงินการออมเงินและการแบ่งเงินจากธนาคารออมสินที่ยืดเยื้อมานาน ประมาณ ๑๔.๓๐ น. ให้จำลองขับรถไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่แวะรับสมาชิกที่กระทรวงศึกษาธิการอีก ๔ ท่าน ไปถึงก่อนเวลาจึงไม่เหนื่อยมาก หิ้ว Notebook ติดตัวขึ้นเครื่อง กระเป๋าเสื้อผ้าโหลดลงท้องเครื่องบิน พบป้าต๋อย คุณสุพรรัตน์  แสงมาลี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น เพื่อนร่วมรุ่น นปส.๕๓ ที่กลับจากประชุมที่กรม ท่านบอกว่าจะอำนวยความสะดวกทุกประการในขณะที่ผมอยู่ขอนแก่นในวันพรุ่งนี้ เราใช้เวลาในเครื่องบินเพียง ๔๐ นาทีก็ถึงสนามบินขอนแก่น นายอำเภอวรทัศน์  ธุลีจันทร์ นายอำเภอกระนวน เพื่อนร่วมรุ่น นปส.๕๓ อีกคนหนึ่งมาต้อนรับ พร้อมด้วย ผศ.วสันต์  แสงมาลี อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ประจำวิทยาเขตขอนแก่น  เขตตรวจราชการที่จังหวัดอุดรธานีส่งรถตู้มาให้บริการ ๑ คัน ป้าต๋อยพาพวกเราไปเลี้ยงข้าวเย็นจนอิ่มหนำสำราญก่อนไปส่งยังที่พักโรงแรมกราเซียร์ขอนแก่น  ที่เปลี่ยนจากโรงแรมพูแมนขอนแก่นที่จองไว้เดิม  แม้จะเป็นโรงแรมเล็กแต่ทันสมัย ห้องพักกว้าง ที่สำคัญบริการ wireless ฟรีและแรง

วันศุกร์ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔  ตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวลงไปทานอาหารเช้าที่ชั้น ๒ ของโรงแรม แขกไม่มากอาหารมีให้เลือกพอสมควร ประมาณ ๐๘.๓๐ น. ทีมงานก็พร้อม ออกเดินทางไปเยี่ยมพรรคพวกที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น คุยกันไม่นาน เห็นพอมีเวลาตัดสินใจเดินทางไปทัศนศึกษา สพป.ขอนแก่น เขต ๔ อำเภอน้ำพอง ที่ห่างตัวเมืองประมาณ ๔๐ กม. เห็นสำนักงานเขตแห่งนี้ต้องยอมรับในการจัดสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นเหมือนรีสอร์ท ได้คารวะท่าน ผอ.เขต แต่คุยกันไม่นานเพราะเวลาจำกัด ต้องเดินทางกลับ ไปแวะมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โตที่สุดของภาคนี้ เห็นสภาพจึงถึงบางอ้อว่าทำไมเขาเรียก "มอดินแดง" ก็พื้นดินทั้งหลายเป็นลูกรังสีแดงไปทั้งนั้น อาคารสำนักงานอธิการบดี หลังใหม่นับเป็นอาคารที่ทันสมัยและใหญ่โตมาก พวกเราได้รับความอนุเคราะห์ให้ใช้ห้องประชุมบนชั้น ๒ ทำงานตลอดวัน เที่ยงไปทานอาหารที่โรงอาหารรวมซึ่งห่างออกไปพอสมควร หลังเลิกงานให้รถพาไปชมทิวทัศน์เมืองขอนแก่นย่านถนนขอนแก่น-มัญจาคีรี มีโอกาสได้เห็นตัวมหาวิทยาลัยอีสาน และให้รถพาเข้าชมภูมิประเทศในมหาวิทยาลัย ซึ่งกว้างขวางพอสมควร กลับเข้าเมืองไปแวะศาลากลางจังหวัด เปลี่ยนรถตู้จากของเขตตรวจราชการอุดรธานี เป็นของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น ป้าต๋อยพาไปกราบพระมหาธาตุแก่นนคร ที่วัดหนองแวง (พระอารามหลวง) ชมเจดีย์ ๙ ชั้น เนื่องจากเวลาน้อยจึงไม่มีโอกาสได้ขึ้น แค่นี้ก็ถือเป็นบุญกุศลแล้วที่ได้มานมัสการ อาหารเย็นวันนี้อาศัยร้านอาหารอีสานที่อร่อยที่สุดย่านบึงแก่นนคร มีทั้งแกงเห็ดเผาะ เนื้อแดดเดียว ปลาเนื้ออ่อนทอด ลาบปลาดุก และอีกสารพัดอาหาร อิ่มแล้วไปส่งทีมงาน ๓ คนที่โรงแรมขอนแก่นโฮเตล ผมและท่านผู้ตรวจฯบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เดินทางไปสนามบินโดยมีป้าต๋อยไปส่งพร้อมขนมนมเนยเป็นของฝาก ถึงสุวรรณภูมิ จำลองมารับกลับถึงเขตประมาณ ๕ ทุ่ม ถึงที่พักเที่ยงคืนพอดี เป็นการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยกันถ้วนหน้า เตรียมตัวเรียนกฎหมายปกครองต่อเนื่องไปอีกสองวันถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว

ก่อนลาสัปดาห์นี้จะนำเสนอหลักคิดของหานเฟยเกี่ยวกับวิธีจำแนกคุณสมบัติของคน   ถ้าหากคนทุกคนกำลังปิดตาหลับสนิทอยู่ ย่อมแยกแยะไม่ออกว่าในหมู่คนเหล่านั้นมีผู้ที่ตาบอดรวมอยู่ด้วยหรือไม่  ถ้าหากคนทุกคนพากันปิดปากสงบคำอยู่ ย่อมแยกแยะไม่ออกว่าในหมู่คนเหล่านั้นมีผู้ที่เป็นใบ้ รวมอยู่ด้วยหรือไม่   จำเป็นต้องปลุกให้ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้วยื่นวัตถุให้พิศดู  จึงจะรู้ได้ว่าผู้ใดคือคนตาบอด  จำต้องยกปัญหาขึ้นไถ่ถามเพื่อให้พูดให้ตอบเฉลย จึงจะรู้ว่าผู้ใดเป็นคนใบ้  ถ้าไม่หาวิธีการให้แสดงความคิดเห็นออกมา  แม้ในหมู่ชนนั้นจะมีผู้ด้อยปัญญาไร้การศึกษาปะปนอยู่ ก็จะไม่มีหนทางจำแนกพิสูจน์ออกมาได้  ถ้าไม่มอบหมายกิจให้รับผิดชอบกระทำการ  แม้ในหมู่ชนนั้น จะมีผู้ด้อยความสามารถขาดภูมิธรรมปะปนอยู่ ก็จะไม่มีวิธีหนทางแยกแยะชี้ตัวออกมาได้ 

 

กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 443919เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2011 19:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2014 09:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท