การพัฒนานักศึกษาให้เป็นพลเมืองของสถาบันด้วยรูปแบบประชุมเชียร์และรับน้องใหม่(ภาคจบ)

Knowledge Asset จากรูปแบบกิจกรรมประชุมเชียร์และรับน้องใหม่ของนักศึกษาเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาเขตภาคกลาง

สรุปการเรียนรู้ภาคต่อจากกิจกรรมประชุมเชียร์และรับน้องใหม่

ภาพสะท้อนของกิจกรรมประชุมเชียร์และรับน้องใหม่จากนักศึกษา

          ภาคนี้เป็นภาคสรุปที่เพิ่งจะมีโอกาสได้นำมาลง Blog เก็บไว้เป็นความรู้ปฏิบัติในการทำกิจกรรมนักศึกษาในปีการศึกษาต่อไป ซึ่งเหลือการจัดกิจกรรมเพียง ๖ ฐาน ดังต่อไปนี้

ฐานที่ ๑ จิตอาสา

           นักศึกษาให้ผู้ที่เข้าฐานจับฉลากในการทำกิจกรรมจิตอาสาโดยมีโจทย์ให้ ๓ เรื่อง คือ ใจเป็นทาน กายเป็นทาน ความรู้เป็นทาน

            กิจกรรมจิตอาสาในการทำ Walk Rally  ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้ว่าจิตอาสาเป็นเรื่องจากภายในตนที่มีใจอยากทำให้ผู้อื่นโดยเริ่มจาก ใจเป็นทาน กายเป็นทาน ความรู้เป็นทาน และให้ทรัพย์เป็นทาน ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม

ฐานที่ ๒ ร้องเพลงสถาบัน

            กิจรรมนี้เริ่มจากรุ่นพี่เล่าประวัติเพลงให้น้องฟัง จากนั้นให้เนื้อเพลง พี่ร้องเพลงนำก่อนเป็นตัวอย่าง ๑ เที่ยว  ให้น้องหัดร้องก่อน จนกว่าจะจำเนื้อให้ได้ หลังจากนั้นให้น้องตั้งแถวร้องเพลง แล้วจึงร้องตามอย่างพร้อมเพรียงกัน

            กิจกรรมนี้ส่งผลให้นักศึกษารู้สึกฮึกเหิม มีความภาคภูมิใจในสถาบัน  มีแนวคิดและวิธีการในการสอนน้องร้องเพลงอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความแตกต่างจากที่เคยปฏิบัติกันมาในสถาบันของตนเอง

ฐานที่ ๓ ม่านบังตา ม่านบังใจ

            กิจกรรมนี้เริ่มจากให้นักศึกษาแบ่งคนในกลุ่มเป็น ๒ กลุ่มนำม่านมากั้นกลาง แล้วผู้เข้าแข่งขันทั้งสองทีมนั่งพร้อมกันและยืนพร้อมกันทีละคู่โดยต้องบอกให้ได้ว่า คู่ที่ตัวเองเห็นชื่อว่าอะไร

            กิจกรรมนี้ส่งผลให้นักศึกษาได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน และเป็นกิจกรรมสร้างการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในการจดจำชื่อคนที่เพิ่งรู้จักกัน

ฐานที่ ๔ ปรัชญาสถาบัน

             นักศึกษาได้แนวคิดผ่านกิจกรรมเรื่องเล่าปรัชญญาสถาบันจากวิทยากร  ในการแนะนำถึงที่มาที่ไปของการสร้างปรัชญาสถาบัน  รู้ถึงคุณค่าแท้ คุณค่าเทียมของสถาบันที่ต้องร่วมกันเดินขับเคลื่อนบนเส้นทางเดินของสถาบัน

ฐานที่ ๕ หัวบอดท้ายใบ้

             ฐานนี้นักศึกษาแบ่งคนเป็น ๒ ทีม หลังจากนั้นปิดตาทุกคนยกเว้นคนสุดท้ายที่มองเห็นเพียงคนเดียว ห้ามพูดห้ามคุยกัน โดยมีภารกิจของกลุ่มต้องไปหาลูกกอล์ฟที่เขียนชื่อกลุ่มของตนเองในถาดให้ถูกต้อง ในเวลาที่กำหนด ซึ่งระหว่างทางการไปหยิบลูกกอล์ฟนั้น วิทยากรกลุ่มจะคอยแกล้งบอกในทิศทางที่ผิดๆให้หลงทาง เมื่อจบเกมส์วิทยากรกลุ่มสรุปปิดท้าย

                สิ่งที่นักศึกษาได้เรียนรู้นั้น คือการทำงานเป็นทีม โดยมีการวางแผนงานกันอย่างเป็นระบบ ให้บรรลุเป้าหมายของทีม ซึ่งนักศึกษาจะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น ต้องให้ความไว้เนื้อเชื่อใจกันในทีมโดยเฉพาะหัวหน้ากลุ่มที่ไม่ได้ปิดตาเพราะเขาเป็นผู้ที่รู้เป้าหมายดีที่สุด ถึงแม้จะมีคนมาหลอกล่ออย่างไรก็ตามต้องมีจุดยืน รับฟังโดยอาศัยการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ที่ได้รับจากหัวหน้ากลุ่ม

ฐานที่ ๖ สร้างความสามัคคี

                ฐานนี้ให้แบ่งกลุ่มเป็น ๒ กลุ่ม โดยมีเวลา ๕ นาทีในการคิดกิจกรรมสร้างความสามัคคี ๑๐ กิจกรรม อีกทีมหนึ่งต้องแบกถังน้ำที่หนักมากๆ  ให้สำเร็จในเวลาที่กำหนด

                กิจกรรมนี้ทุกคนในทีมต้องช่วยกันคิดกิจกรรมให้ได้ในเวลาที่กำหนดอย่างรวดเร็ว ยิ่งเสร็จเร็วเท่าไหร่เพื่อนๆที่แบกถัง  น้ำอยู่ต้องถือนานเท่านั้น หากคิดกิจกรรมออกไวเพื่อนก็จะแบกถังน้ำหนักน้อยลง ส่งเสริมให้เกิดการเสริมสร้างความสามัคคี นึกถึงใจเขา ใจเราในขณะที่เพื่อนทำภาระที่หนักอึ้ง  คนในทีมงานก็ต้องแบ่งเบาภาระอื่นเพื่อช่วยเพื่อนในการทำงานให้สำเร็จด้วย ซึ่งเปรียบเสมือนการทำงานในที่ทำงานที่ต้องมีความสามัคคีในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

         สุดท้ายเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมเกิดตัวอย่างรูปแบบกิจกรรมรับน้องใหม่เพื่อเป็นแนวทางไปใช้ในสถาบันของนักศึกษาและเกิดปฏิญญาร่วมของผู้นำเชียร์และรับน้องใหม่ของสถาบันอุดมศึกษาเขตภาคกลางที่ร่วมกันคิด ลงนามร่วมกัน คือ

“ร่วมรับน้องใหม่ ในฐานะรุ่นพี่ที่ดี รู้รักสามัคคี สร้างสรรค์พลเมืองดีของสถาบัน”

          ทางครูทุกคนที่ช่วยกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาหวังว่าการประชุมเชียร์และรับน้องใหม่ในปีนี้จะไม่เป็นข่าวหน้าหนึ่งเหมือนที่ผ่านมา และหวังว่ากิจกรรมดีดีแบบนี้จะพัฒนาความเป็น "พลเมืองของสถาบัน" ได้นะคะ

                                                                         ศุภิสรา  เจริญไพฑูรย์