แกนนำเยาวชนกับการเรียนรู้และเติบโตอย่างนักกิจกรรม


เมื่อสมัยยังเด็ก เป็นเด็กที่ไม่ได้ก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสืออย่างเดียว มีกิจกรรมอะไรของโรงเรียนก็จะถูกเรียกไปใช้เสมอ จะแข็งขันตอบคำถาม งานต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่ จะต้องโดนเรียกไปฝึกระบำรำฟ้อน ประกวดคัดลายมือ ประกวดมารยาทไทย แม้จะจับประกวดนางนพมาศก็โดนมาแล้ว (จนบัดนี้ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ) แข่งกีฬาก็ต้องมีติดอยู่ในทีม เพราะเป็นเด็กที่เล่นกีฬาชนิดที่ถูกฝึกโดยทีมชาติตั้งแต่ขั้นเบสิคจนถึงขั้นแทคติกต่างๆ การเข้าแคมป์ เข้าค่ายก็ได้ไปหมดไปเป็นตัวแถมในรายการก็ขอให้ได้ไปเถอะ ..

กิจกรรมที่ได้ทำ เพราะมีผู้ใหญ่และหลายๆ ฝ่ายเปิดโอกาสให้ หรืออาจจะเรียกได้ว่าทั้งผลักทั้งดันให้ไปทำ แม้ว่าผลจะออกมาดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่เมื่อมาคิดดูแล้วในแง่ของการเรียนรู้ และการได้รับประสบการณ์ ตลอดจนทัศนคติ และแนวทางการดำเนินชีวิตในอนาคตมันได้ถูกสะสมมาเรื่อยๆ

กิจกรรมบางอย่าง เปลี่ยนคนได้อย่างมาก การได้ไปนั่งเล่นหรือนั่งทำงานกับคนอื่นที่ไม่รู้จัก การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การเข้าสังคม ได้ดูแล และถูกดูแล การได้รู้จักแพ้ และรู้จักชนะ ทุกสิ่งอย่างเป็นเบ้าหลอมจิตใจของเด็กคนนึง ซึ่งคิดว่าจิตสำนึกต่างๆ คงไม่ได้มาเพียงแค่ดีดนิ้วเป๊าะเดียว ..

                          

เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ไปร่วมประชุมประจำเดือนของชมรมผู้สูงอายุ อสม. และเครือข่ายสาธารณสุขของรพ.สต.มหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล ตามคำชวนของ คุณกานต์ จันทวงษ์ จากสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ในกลุ่มของผู้สูงอายุ และอสม. มีแกนนำเยาวชนที่มีจิตใจอาสา แทนที่วันหยุดจะได้ไปเที่ยววิ่งเล่น ไปเที่ยวห้างกับคนอื่น แต่กลับมาที่นี่เพื่ออาสาช่วยผู้ใหญ่ ซึ่งก็คือญาติพี่น้องในชุมชนของตน จึงชวนมานั่งคุยกันซะหน่อย เพราะเยาวชนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มทำกิจกรรมของตำบลที่เคยได้รับการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนของพุทธมณฑล จาก โครงการพัฒนาแกนนำเครือข่ายเด็กและเยาวชนเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะในชุมชน [คลิ๊ก] และเราได้ตามไปดูกิจกรรมของเด็กๆ ที่ทำร่วมกับผู้ใหญ่ สานเครือข่ายรณรงค์สิ่งแวดล้อม และสุขภาวะ ตำบลมหาสวัสดิ์ : Health Promotion ภาคประชาชน [คลิ๊ก]

เป็นความภาคภูมิใจ ของผู้ใหญ่ในลูกหลานของตน หรือแม้แต่ตัวเยาวชนเองก็เถอะ อย่างน้อยก็ภูมิอกภูมิใจที่ได้รับการกล่าวถึง เรียกใช้ .. การแสดงออกของเยาวชนกลุ่มนี้มันแสดงให้เห็นถึงภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สมองสติปัญญา ซึ่งมันจำเป็นต่อการดูแลตนเองและผู้อื่นในชุมชน พวกเราคงค่อยๆ ประคับประคองพวกเค้าให้พร้อมเปิดใจเรียนรู้ พร้อมรับประสบการณ์ใหม่ๆ จัดกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะดีๆ พร้อมพัฒนาตนให้เป็นนักกิจกรรมเพื่อการทำงานอย่างสร้างสรรค์เต็มตัว เหมือนที่เราเคยได้รับมาตลอด และเพื่อให้พวกเค้าเติบโตไปอย่างเข้มแข็งพร้อมที่จะเป็นแรง เป็นกำลังให้กับสังคมต่อไป ..

------------------------------------------------
เรื่องราว/ภาพ : ณัฐพัชร์ ทองคำ

 

หมายเลขบันทึก: 439363เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2011 22:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

การมีประสบการณ์ต่อสังคมรอบข้าง ผ่านการทำกิจกรรมและเล่นกับเพื่อนๆ
เป็นการได้เติบโตและได้พัฒนาการที่สมดุลของการคิดและแสดงออกบนความเป็นตัวของตัวเอง กับการรู้ประมาณใจเขาใจเราของคนรอบข้าง ได้อย่างหนึ่งนะครับ
อย่าว่าแต่เด็กๆเลย แม้แต่เราๆที่เป็นผู้ใหญ่และคนทำงาน หากไม่ค่อยได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนและสื่อสารแบบเปิดรับโลกรอบข้างด้วยนานๆ
ก็จะประมาณความพอเหมาะพอดีไม่ถูก หรือจัดวางตนเองในกาลเทศะต่างๆไม่พอดีได้เหมือนกัน
การทำอย่างนี้ให้เด็กๆจึงเป็นการให้ประสบการณ์ชีวิตที่เขาจะสร้างเองคนเดียวไม่ได้เลยนะครับ งดงามดีนะคับ ที่สังคมยังมีความร่ำรวยน้ำใจจากผู้ใหญ่ใจดีทำกิจกรรมอย่างนี้ให้เด็กๆอยู่

สวัสดีค่ะ

พี่คิมโปรดปรานกิจกรรมค่าย ทั้งวัยเรียนและทุกวัยค่ะ

กิจกรรมค่ายเป็นการปลดล็อคทางความคิดให้กับเด็ก  และพัฒนาทักษะชีวิตได้ดีนะคะ

  • แงพี่เหมียวไม่ชวนบ้างเลย
  • อดไปเลย
  • ทำกิจกรรมตั่งแต่ตอนเด็กเหมือนกัน
  • ยกเว้นระบำรำฟ้อน
  • แต่คิดภาพพี่เหมียว รำและฟ้อนไม่ออก
  • 555
  • ขอบพระคุณท่านอาจารย์วิรัตน์ พี่ครูคิม และอาจารย์ขจิตที่แวะมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนค่ะ =)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท