ไปประสานงานกับกลุ่มผู้ปลูกยางพาราบ้านวังประดาหมู่ ๑๒ ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อไปขอใช้สถานที่จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับอำเภอ ( DW) ครั้งที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๔
ในช่วงเช้าของวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นวันเริ่มต้นปฏิบัติงาน หลังจากหยุดเทศกาลสงกรานต์ ผ่านไปแล้ว ต้องไปประสานงานกับกลุ่มผู้ปลูกยางพาราบ้านวังประดาหมู่ ๑๒ ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อไปขอใช้สถานที่จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับอำเภอ ( DW) ครั้งที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๔ ซึ่งเราจัดแบบรวมสาย บุคคลเป้าหมายประกอบด้วยนักส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอและระดับจังหวัด รวมทั้งสิ้น ๘0 คน กำหนดจัดวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔ ณ.ที่ทำการกลุ่มผู้ปลูกยางพาราบ้านวังประดา การลงไปชุมชนบ้านวังประดาวันนี้ ผมได้พบกับ คุณลุงสุนทร คล้ายโท้ง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการกลุ่มผู้ปลูกยางพาราบ้านวังประดา ได้มาต้อนรับและได้พูดคุยกันเพื่อวางแผนการถอดบทเรียนในวันDWที่จะถึง
การพิจารณาคัดเลือกสถานที่จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ(DW)ในครั้งนี้ ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ต้องการให้นักส่งเสริมการเกษตร ได้ไปเรียนรู้ร่วมกับเกษตรกรผู้มีประสบการณ์ปลูกยางพารามาแล้วไม่น้อยกว่า ๒0 ปี และมีการรวมกลุ่มเกษตรกรปลูกยางพาราที่มีการบริหารงานที่เข้มแข็ง เป็นกลุ่มที่มีการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนแล้ว มีสมาชิกไม่น้อยกว่า ๑00 ราย มีพื้นที่ปลูกยางพาราของสมาชิกมีหลายพันไร่แล้ว และมีการดำเนินกิจกรรมทั้งการกรีดน้ำยาง การทำยางแผ่นเพื่อการจำหน่าย การตั้งจุดรับซื้อยางแผ่นเป็นต้น
การจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีการตั้งวัตถุประสงค์ เพื่อให้นักส่งเสริมได้มีการฝึกทักษะการถอดบทเรียน การสรุปบทเรียน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเกษตรกรผู้มีประสบการณ์ความรู้ในการปลูกยางพารา รวมทั้งได้เชิญนักวิชาการที่รับผิดชอบด้านยางพารา มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน พร้อมกับเพิ่มเติมความรู้ในทางวิชาการแก่นักส่งเสริมการเกษตรในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นที่จะต้องนำนักส่งเสริมการเกษตร ลงไปเรียนรู้ร่วมกับเกษตรกรในสวนยางพาราของเกษตรกร โดยจะได้เห็นการปฏิบัติจริงของเกษตรกรในชุมชนบ้านวังประดาอีกด้วย ซึ่งวันนี้ผมก็ได้ไปดูสวนยางของเกษตรกรที่มีการกรีดน้ำยางมาแล้ว พร้อมกับดูแปลงขยายพันธุ์ต้นกล้ายางพาราเพื่อการจำหน่ายพันธุ์แก่สมาชิก กิจกรรมดังกล่าวล้วนแต่มีความสำคัญที่จะต้องเรียนรู้กับเกษตรกรทั้งสิ้น
นักส่งเสริมการเกษตรในปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาความรู้ด้านวิชาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะนำความรู้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเกษตรกร เพื่อหาข้อสรุปขององค์ความรู้ในพื้นที่นั้นๆ ในขณะเดียวกันจะต้องนำการวิจัยไปใช้ในการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรและชุมชนอย่างแท้จริงต่อไป
เขียวมรกต
๑๘ เมย.๕๔