“ไรไข่ปลา” ( Luciaphorus sp. ) สิ่งที่นักเพาะเห็ดกลัวและพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ “ไร” (Mite) ดังนั้นไรจึงเป็นศัตรูเห็ดที่มีความสำคัญของเห็ดบด เห็ดขอนขาว และเห็ดหูหนู <div style="text-align: center"></div>
“ลักษณะของไร” ไรเป็นศัตรูเห็ดที่มีขนาดเล็ก จนต้องใช้แว่นขยายเข้าช่วยในการดู จึงจะเห็นได้ชัด ตามสภาพธรรมชาติ มักจะเห็นเป็นจุดเล็ก ๆ สีขาวใส เมื่อแก่จะออกสีเหลืองอ่อน อยู่กระจายเต็มไปหมดที่น่าสนใจคือการที่ไรชนิดต่าง ๆ ที่ทำลายเห็ดนั้นจะมีวงจรชีวิต (ไข่-ตัวแก่) สั้นมาก โดยใช้เวลาเพียง 4-5 วันเท่านั้น โดยทั่วไปจะพบตัวเมียมากกว่าตัวผู้ถึง 4 เท่า โดยที่ตัวเมียยังสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการออกไข่และเป็นตัว ไม่จำเป็นต้องผสมพันธุ์กับตัวผู้ จึงทำให้ไรสามารถระบาดทำลายได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรงจนเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะที่เส้นใยเห็ดกำลังแผ่ออกไป หากมีพวกไรดังกล่าวระบาดก็จะทำให้เส้นใยขาดออกจากกัน และไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ เนื่องจากไรพวกนี้ชอบทำลายกัดกินส่วนของเส้นใย จนทำให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องฟาร์มเห็ดเป็นอย่างมาก
“ไรมาจากไหน” โดยปกติไรมีอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้วเกือบทุกท้องที่ เพียงแต่ว่าเราจะทำอย่างไรในพื้นที่ที่เราเพาะเห็ดซึ่งเราไม่ต้องการให้ไรเข้าเจริญเติบโตและแพร่ระบาด เพราะโดยธรรมชาติไรชอบไปเจริญเติบโตบริเวณที่มีความชื้น แต่ไม่แฉะ และค่อนข้างหมักหมม ส่วนใหญ่ที่พบการระบาดในฟาร์มเห็ดนั้น กูรูเห็ดบอกว่ามักจะมาจาก 3เส้นทางด้วยกัน คือ 1.มากับหัวเชื้อ ในกรณีที่คนทำเชื้อไม่ดูอย่างรอบคอบตัดเส้นไยที่มีไข่ หรือตัวไรติดมาด้วย แล้วก็ระบาดต่อกันมาเป็นทอดๆ จากอาหารวุ้น ไปเม็ดข้าวฟ่าง ไปกับก้อนเชื้อในถุงพลาสติก จนกระทั่งไประบาดในฟาร์มเห็ด 2. ไปกับเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการถ่ายเชื้อที่ไม่สะอาดและมีคนหรือสัตว์เป็นพาหะในการนำเข้าไป 3. มันมาเองในกรณีที่บริเวณนั้นเกิดการหมักหมม มีการสะสมของวัสดุเพาะเก่าๆ โดยไรเป็นศัตรูที่มาทางบกค่อยๆเดินเข้าไปฝังตัวอยู่ในก้อนเชื้อแล้วเจอสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะสืบพันธ์ต่อไป
“แนวทางแก้ไข” เมื่อเช้านี้ (9 ส.ค.49) ผมได้คุยกับพี่พันธ์ เจ้าของฟาร์มเห็ดห้วยวังนองว่าในการกำจัดไรไข่ปลาเราสามารถทำได้อย่างไร พี่พันธ์จึงสาธยายให้ฟังว่า ในการกำจัดไรไข่ปลานั้นหากพบว่ามีการระบาดแล้วเป็นเรื่องยากที่เราจะรักษาเพราะต้องใช้สารเคมีในการฉีดพ่น ซึ่งไม่ปลอดภัยกับผู้บริโภค ดังนั้นเราจะหันมาใช้วิธีการป้องกันมากกว่าโดยวิธีที่ดีที่สุดคือการรักษาความสะอาด เพราะไรมันไม่ชอบความสะอาด และหากยังพบว่ามีการระบาดในช่วงการเปิดดอก วิธีเดียวเท่านั้นที่จะปลอดภัยต่อผู้บริโภคคือวิธีการรักษาโดยชีววิธี กล่าวคือ การใช้จุลินทรีย์ในการกำจัด รวมถึงการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เช่นวิธีชีวภาพโดยใช้สาร บีที (Bacillus thuringiensis) หรือ Mitofargus นำมาหมักขยายเชื้อกับน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ลูก หรือนมรสหวาน 1 กล่อง ต่อสารบีที 5 กรัม หมักเอาไว้ 1 คืน หลังจากนั้นนำมาผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วก้อน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในส่วนของน้ำหมักชีวภาพ อาจใช้ใบน้อยหน่ามาหมักกับน้ำทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 เดือนก็สามารถใช้ได้ หรือหากกรณีเร่งด่วนให้ใช้ใบน้อยหน่า 1 กิโลกรัมมาโขลกให้ละเอียดแล้วกรองเอาเฉพาะน้ำ แล้วนำไปเจือจางกับน้ำอีก 10-20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วก้อนเห็ด ก็จะพอทุเลาการระบาดได้
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
9 ส.ค.49
ทำไม่ขี้เลื้อยตอนนี้แพงจังเลยครับ มีที่ราคาถูกๆ หรือเปล่าครับ
แล้วช่วงนี้ผมจะปลูกเห็ดอะไรดีครับเพราะอีกไม่นานจะถึงฤดูหนาวแล้ว ผมอยู่จังหวัดร้อยเอ็ดครับ ขอให้ช้วยแนะนำด้วยนะครับ
วิธีที่แนะนำมาเคยนำมาใช้แล้วไม่ได้ผลเท่าที่ควรเพราะมันไม่หายเด็ดขาด พอเชื้อราชุดแรกตายก็มีชุดใหม่อกมาจากก้อนเห็นอีก
ขอคำแนะนำเรื่องการทำการเกษตร แบบไหนถึงได้ผลตอบรับดี
ตอนนี้กำลังโดนไรไข่ปลาเล่นงาน ไม่รู้จะทำไงดีช่วยแนะนำกันหน่อยค่ะ ไม่รู้จะไ้ด้ทุนคืนไหมเนี่ย
ผมใช้วิธีนี้ครับ ช่วยได้แต่ไม่เด็ดขาด แต่พอใจอยู่ครับ
1.สารสกัดไคโตซาน ยี่ห้ออะไรก็ได้ 5CC
2.เหล้าขาว 40 ดีกรี 1000CC
3.น้ำส้มสายชูกลั่น 6% (5ก็ไ้ด้) 800-1000CC
วิธีผสมง่ายๆ แต่เป็นขึ้นตอน (ตามทฤษฏีแล้วห้ามลัดขั้นตอนครับ)
1. เหล้าขาว + ไคโตซาน (คนไปทางเดียวกัน..กะว่าเข้ากันดีแล้ว)
2. 1 + น้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน (ใช้ได้ทันที ถ้าจะให้ดี พักไว้1 คืนครับ)
ผมฉีดบางๆ ทั้งโรงคุมไว้ ส่วนก้อนเห็นชัดเจน จะฉีดจนชุ่ม ไปทั่วบริเวณ
ผลสำรวจ
1.เห็ดเกิดดีเหมือนเดิม
2.ลูกค้าบอกอร่อยกว่าเจ้าอื่นอีก (ผมซื้อก้อนสำเร็จมาเปิดดอกขาย ไม่ได้ทำเอง)
หากมีอะไรพอช่วยได้ก็ mail มานะครับ
ขอบคุณครับที่มาแบ่งปัน
หากมีอะไรดีๆ เพิ่มเติมก็ยินดีรับนะครับ
ขอบคุณคะ
สำหรับความรู้ที่ได้รับจากการกำจัดเห็ดเชื้อไรไข่ปลาจากเห็ดขอนขาวจะลองนำไปปฎิบัติคะ
ลองดูก่อนนะครับ ได้ผลอย่างไรช่วยส่งข่าวด้วยนะครับ
อยากทราบว่าสารชนิดใดที่เป็นตัวลดประชากรของไรไข่ปลาในเห็ดค่ะ
Bacillus thuringiensis เชืื้อตัวนี้จะไปกินไข่
และสารในตัวใบน้อยหน่า(....ผมจำชื่อชื่อไม่ได้ เด๋ยวตอบให้ภายหลัง)จะไปไล่ครับ
ลองทำตามทุกวิธีแล้ว ยังมีไรไข่ปลาอยู่เลย
เจี๊ยบก็เคยโดนค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรียกว่าอะไร เลยเรียกว่า ผดน้ำตาล
-ตอนนั้นแก้ปัญหาโดยการเอาน้ำฉีดไล่หน้าก้อนออกให้หมด ต้องเน้นว่าให้หมดนะค่ะ
-- แล้วพักน้ำไว้เลย 1 อาทิตย์ หรือจนกว่าก้อนจะแห้งสนิท แล้วเริ่มฉีดน้ำใหม่อีกหครั้ง เห็ดจะออกมาใหม่โดยไม่ต้องใช้ยาเลยค่ะ
การแก้ปัญหาไรไข่ปลาในก้อนเห็ดช่วงเปิดใหม่วิธีที่ดีที่สุดคือการนำนำ้เกลผสมนำ้อัตราส่วนเกลือ1ช้อนพูนโต๊ะ/นำ้1ลิตร ฉีดทิ้งไว้20-30นาที ล้างด้วยนำ้ฉีดพ่นนำ้แรงพอประมาณให้ก้อนชุ่ม แล้วทิ้งไว้6-7ชั่วโมงไม่ต้องรดนำ้ ไรจะตายจากไข่สีเหลืองจะเปนสีนำ้ตาล