ดร.อุทัย อันพิมพ์
ดร. อุทัย ดร.อุทัย อันพิมพ์ อันพิมพ์

“การแก้ปัญหาไรไข่ปลา”


สิ่งที่นักเพาะเห็ดกลัวและพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ “ไร” (Mite) ดังนั้นไรจึงเป็นศัตรูเห็ดที่มีความสำคัญของเห็ดบด เห็ดขอนขาว และเห็ดหูหนู
การแก้ปัญหาไรไข่ปลา

          “ไรไข่ปลา” ( Luciaphorus sp. )  สิ่งที่นักเพาะเห็ดกลัวและพูดเป็นเสียงเดียวกันคือไร(Mite) ดังนั้นไรจึงเป็นศัตรูเห็ดที่มีความสำคัญของเห็ดบด เห็ดขอนขาว และเห็ดหูหนู <div style="text-align: center"></div>

              “ลักษณะของไร  ไรเป็นศัตรูเห็ดที่มีขนาดเล็ก จนต้องใช้แว่นขยายเข้าช่วยในการดู จึงจะเห็นได้ชัด ตามสภาพธรรมชาติ มักจะเห็นเป็นจุดเล็ก ๆ สีขาวใส เมื่อแก่จะออกสีเหลืองอ่อน อยู่กระจายเต็มไปหมดที่น่าสนใจคือการที่ไรชนิดต่าง ๆ ที่ทำลายเห็ดนั้นจะมีวงจรชีวิต (ไข่-ตัวแก่) สั้นมาก โดยใช้เวลาเพียง 4-5 วันเท่านั้น โดยทั่วไปจะพบตัวเมียมากกว่าตัวผู้ถึง 4 เท่า โดยที่ตัวเมียยังสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการออกไข่และเป็นตัว ไม่จำเป็นต้องผสมพันธุ์กับตัวผู้ จึงทำให้ไรสามารถระบาดทำลายได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรงจนเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะที่เส้นใยเห็ดกำลังแผ่ออกไป หากมีพวกไรดังกล่าวระบาดก็จะทำให้เส้นใยขาดออกจากกัน และไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ เนื่องจากไรพวกนี้ชอบทำลายกัดกินส่วนของเส้นใย จนทำให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องฟาร์มเห็ดเป็นอย่างมาก

             ไรมาจากไหน โดยปกติไรมีอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้วเกือบทุกท้องที่ เพียงแต่ว่าเราจะทำอย่างไรในพื้นที่ที่เราเพาะเห็ดซึ่งเราไม่ต้องการให้ไรเข้าเจริญเติบโตและแพร่ระบาด เพราะโดยธรรมชาติไรชอบไปเจริญเติบโตบริเวณที่มีความชื้น แต่ไม่แฉะ และค่อนข้างหมักหมม ส่วนใหญ่ที่พบการระบาดในฟาร์มเห็ดนั้น กูรูเห็ดบอกว่ามักจะมาจาก 3เส้นทางด้วยกัน คือ 1.มากับหัวเชื้อ ในกรณีที่คนทำเชื้อไม่ดูอย่างรอบคอบตัดเส้นไยที่มีไข่ หรือตัวไรติดมาด้วย แล้วก็ระบาดต่อกันมาเป็นทอดๆ จากอาหารวุ้น ไปเม็ดข้าวฟ่าง ไปกับก้อนเชื้อในถุงพลาสติก จนกระทั่งไประบาดในฟาร์มเห็ด 2. ไปกับเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการถ่ายเชื้อที่ไม่สะอาดและมีคนหรือสัตว์เป็นพาหะในการนำเข้าไป  3. มันมาเองในกรณีที่บริเวณนั้นเกิดการหมักหมม มีการสะสมของวัสดุเพาะเก่าๆ โดยไรเป็นศัตรูที่มาทางบกค่อยๆเดินเข้าไปฝังตัวอยู่ในก้อนเชื้อแล้วเจอสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะสืบพันธ์ต่อไป 

            แนวทางแก้ไข เมื่อเช้านี้ (9 ส.ค.49) ผมได้คุยกับพี่พันธ์ เจ้าของฟาร์มเห็ดห้วยวังนองว่าในการกำจัดไรไข่ปลาเราสามารถทำได้อย่างไร พี่พันธ์จึงสาธยายให้ฟังว่า ในการกำจัดไรไข่ปลานั้นหากพบว่ามีการระบาดแล้วเป็นเรื่องยากที่เราจะรักษาเพราะต้องใช้สารเคมีในการฉีดพ่น ซึ่งไม่ปลอดภัยกับผู้บริโภค ดังนั้นเราจะหันมาใช้วิธีการป้องกันมากกว่าโดยวิธีที่ดีที่สุดคือการรักษาความสะอาด เพราะไรมันไม่ชอบความสะอาด และหากยังพบว่ามีการระบาดในช่วงการเปิดดอก วิธีเดียวเท่านั้นที่จะปลอดภัยต่อผู้บริโภคคือวิธีการรักษาโดยชีววิธี กล่าวคือ การใช้จุลินทรีย์ในการกำจัด รวมถึงการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เช่นวิธีชีวภาพโดยใช้สาร บีที  (Bacillus thuringiensis) หรือ Mitofargus  นำมาหมักขยายเชื้อกับน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ลูก หรือนมรสหวาน 1 กล่อง ต่อสารบีที 5 กรัม หมักเอาไว้ 1 คืน หลังจากนั้นนำมาผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วก้อน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในส่วนของน้ำหมักชีวภาพ อาจใช้ใบน้อยหน่ามาหมักกับน้ำทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 เดือนก็สามารถใช้ได้ หรือหากกรณีเร่งด่วนให้ใช้ใบน้อยหน่า 1 กิโลกรัมมาโขลกให้ละเอียดแล้วกรองเอาเฉพาะน้ำ แล้วนำไปเจือจางกับน้ำอีก 10-20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วก้อนเห็ด ก็จะพอทุเลาการระบาดได้

ขอบคุณครับ

อุทัย   อันพิมพ์

9 ส.ค.49 

หมายเลขบันทึก: 43550เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2006 09:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
เคยเห็นสิ่งที่มีลักษณะคล้ายรูปแรก นึกว่าเป็นผงอะไรซะอีก ที่แท้ไรไข่ปลานี่เอง
ผมกำลังโดยไรไข่ปลานี้โจมตีอย่างหนักเลย ตอนนี้ผมทดลองใช้ไมโตฟากัสอยู่ ขอให้ได้ผลเทอด เพี้ยง!!!

ทำไม่ขี้เลื้อยตอนนี้แพงจังเลยครับ มีที่ราคาถูกๆ หรือเปล่าครับ

แล้วช่วงนี้ผมจะปลูกเห็ดอะไรดีครับเพราะอีกไม่นานจะถึงฤดูหนาวแล้ว ผมอยู่จังหวัดร้อยเอ็ดครับ ขอให้ช้วยแนะนำด้วยนะครับ

วิธีที่แนะนำมาเคยนำมาใช้แล้วไม่ได้ผลเท่าที่ควรเพราะมันไม่หายเด็ดขาด พอเชื้อราชุดแรกตายก็มีชุดใหม่อกมาจากก้อนเห็นอีก

ขอคำแนะนำเรื่องการทำการเกษตร แบบไหนถึงได้ผลตอบรับดี

ตอนนี้กำลังโดนไรไข่ปลาเล่นงาน ไม่รู้จะทำไงดีช่วยแนะนำกันหน่อยค่ะ ไม่รู้จะไ้ด้ทุนคืนไหมเนี่ย

ผมใช้วิธีนี้ครับ ช่วยได้แต่ไม่เด็ดขาด แต่พอใจอยู่ครับ

1.สารสกัดไคโตซาน ยี่ห้ออะไรก็ได้ 5CC

2.เหล้าขาว 40 ดีกรี 1000CC

3.น้ำส้มสายชูกลั่น 6% (5ก็ไ้ด้) 800-1000CC

วิธีผสมง่ายๆ แต่เป็นขึ้นตอน (ตามทฤษฏีแล้วห้ามลัดขั้นตอนครับ)

1. เหล้าขาว + ไคโตซาน (คนไปทางเดียวกัน..กะว่าเข้ากันดีแล้ว)

2. 1 + น้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน (ใช้ได้ทันที ถ้าจะให้ดี พักไว้1 คืนครับ)

ผมฉีดบางๆ ทั้งโรงคุมไว้ ส่วนก้อนเห็นชัดเจน จะฉีดจนชุ่ม ไปทั่วบริเวณ

ผลสำรวจ

1.เห็ดเกิดดีเหมือนเดิม

2.ลูกค้าบอกอร่อยกว่าเจ้าอื่นอีก (ผมซื้อก้อนสำเร็จมาเปิดดอกขาย ไม่ได้ทำเอง)

หากมีอะไรพอช่วยได้ก็ mail มานะครับ

ขอบคุณครับที่มาแบ่งปัน

หากมีอะไรดีๆ เพิ่มเติมก็ยินดีรับนะครับ

ขอบคุณคะ

สำหรับความรู้ที่ได้รับจากการกำจัดเห็ดเชื้อไรไข่ปลาจากเห็ดขอนขาวจะลองนำไปปฎิบัติคะ

ลองดูก่อนนะครับ ได้ผลอย่างไรช่วยส่งข่าวด้วยนะครับ

อยากทราบว่าสารชนิดใดที่เป็นตัวลดประชากรของไรไข่ปลาในเห็ดค่ะ

Bacillus thuringiensis เชืื้อตัวนี้จะไปกินไข่

และสารในตัวใบน้อยหน่า(....ผมจำชื่อชื่อไม่ได้ เด๋ยวตอบให้ภายหลัง)จะไปไล่ครับ

ลองทำตามทุกวิธีแล้ว ยังมีไรไข่ปลาอยู่เลย

เจี๊ยบก็เคยโดนค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรียกว่าอะไร เลยเรียกว่า ผดน้ำตาล

-ตอนนั้นแก้ปัญหาโดยการเอาน้ำฉีดไล่หน้าก้อนออกให้หมด ต้องเน้นว่าให้หมดนะค่ะ

-- แล้วพักน้ำไว้เลย 1 อาทิตย์ หรือจนกว่าก้อนจะแห้งสนิท แล้วเริ่มฉีดน้ำใหม่อีกหครั้ง เห็ดจะออกมาใหม่โดยไม่ต้องใช้ยาเลยค่ะ

การแก้ปัญหาไรไข่ปลาในก้อนเห็ดช่วงเปิดใหม่วิธีที่ดีที่สุดคือการนำนำ้เกลผสมนำ้อัตราส่วนเกลือ1ช้อนพูนโต๊ะ/นำ้1ลิตร ฉีดทิ้งไว้20-30นาที ล้างด้วยนำ้ฉีดพ่นนำ้แรงพอประมาณให้ก้อนชุ่ม แล้วทิ้งไว้6-7ชั่วโมงไม่ต้องรดนำ้ ไรจะตายจากไข่สีเหลืองจะเปนสีนำ้ตาล

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท