มีนิทานเรื่องหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง ใครจะคิดในมุมมองใดก็สุดแท้แต่ละคน.... มีหลวงพ่อรูปหนึ่งเพิ่งย้ายมาจำพรรษาและได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งได้ไม่ถึงปี ความเป็นพระนักพัฒนาของหลวงพ่อจึงทนไม่ได้ที่เห็นสภาพโบสถ์ทรุดโทรมขาดการบูรณะปฏิสังขรณ์ จึงดำริว่าอยากจะสร้างโบสถ์ใหม่ เป็นผลงานชิ้นแรก
จากนั้นหลวงพ่อก็ได้หารือกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ทุกคนต่างรู้สึกหนักใจ เพราะชาวบ้านแถบนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา แม้ผลผลิตจะดี แต่ก็ไม่ถึงกับร่ำรวย พอที่จะมาช่วยสร้างโบสถ์ได้ จึงเสนอแนะว่า น่าจะจัดทอดกฐินและผ้าป่า โดยบอกบุญไปยังจังหวัดอื่น ๆ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่กี่ปีก็สร้างโบสถ์เสร็จ
แต่หลวงพ่อใจร้อนอยากจะสร้างโบสถ์ให้แล้วเสร็จเร็ว ๆ จึงออกไปบอกบุญชาวบ้านด้วยตนเองในหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อระดมทุนทรัพย์มาช่วยกันสร้างโบสถ์ วันหนึ่ง หลวงพ่อเดินไปที่แปลงนาของลุงมี เพราะสืบทราบมาว่าลุงมีมีนามากกว่าใครในย่านนี้ และฐานะค่อนข้างดีกว่าชาวนาคนอื่น ๆ ด้วย โชคดีที่พบกับลุงมีพอดี หลวงพ่อจึงทักทายและหาวิธีพูดนำเข้าสู่เป้าหมายที่ต้องการว่า “ โยมมี.. หลวงพ่อดีใจด้วยที่ปีนี้ข้าวออกรวงเหลืองอร่าม น้ำไม่ท่ไม่มีโรครบกวน คงจะขายข้าวได้ราคาดีทีเดียวนะ” ลุงมีได้ฟังก็รู้ทัน จึงพูดตีกันไปว่า “ ถ้าหนูไม่กัด วัดไม่กวน ก็คงจะดีครับหลวงพ่อ “