ท่องเที่ยวดูอะไรที่สิงคโปร์ : วันที่ 2 / 4


ท่องเที่ยว สิงคโปร์

ติดตามในการท่องเที่ยวดูอะไรที่สิงคโปร์ 4 วัน
วันที่ 1 / 4    http://gotoknow.org/blog/wow/432322

วันที่ 2 / 4    http://gotoknow.org/blog/wow/432447

วันที่ 3 / 4    http://gotoknow.org/blog/wow/432627

วันที่ 4 / 4    http://gotoknow.org/blog/wow/432631


วันที่สอง ของการเดินทางที่สิงคโปร์
  เป้าหมายการท่องเที่ยวดูงานในวันนี้คือ Universal Studio  คือเหมือนแดนเนรมิตร สวนสนุกในไทย นะครับ เวลาให้บริการ 10:00 - 19:00 น. 
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ ในพื้นที่  49 เอเคอร์ในเกาะเซ็นโตซ่า รายล้อมด้วยความเขียวชอุ่มของทะเลสาบ มีรีสอร์ท ห้องพัก 1,800 ห้องจากโรงแรมระดับหรู 6 ดาวที่หลากหลายรูปแบบ มีทั้งยังมี คาสิโน เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่ที่โรงแรม Crockford Tower  แต่ผู้บันทึกไม่ได้เข้าไปเล่นนะครับ ฮ่าๆ เรามาดูการเดินทางในวันนี้กัน

เราเดินทางโดยรถประจำทาง นั่งรถเมล์สาย 80  อย่างที่บอกของวันที่ 1 เราใช้ EZ-Link Card สะดวกมาก แทบไม่ต้องจ่ายตังก์เพิ่มเติม เพราะมันตัดยอดเงินจากบัตร  เราก็ดูเส้นทางจากป้ายรถประจำทางว่ามีสายไหน ไปลงที่ Vivo City  เราจะไปทางอาหารเช้าที่ ศูนย์อาหาร Kopitiam อยู่ในห้างสรรพสินค้า



เมื่อถึงป้ายรถประจำทาง ที่เห็นอาคาร Vivo City  เดินเข้าอาคาร  Vivo City ห้างนี้ยังไม่เปิดนะครับ แต่เข้าได้  เพราะเราอยากใช้บริการสุขายามเช้า
ห้างให้บริการสุขา แม้ยังไม่เปิดห้างก็ตาม แต่ก็สามารถให้ประชาชนเดินเข้าไปใช้พื้นที่ได้ ไม่ได้เข้มแบบ ห้างสรรพสินค้าบ้านเรา เนื่องจากเพราะวินัยของประชาชนที่แตกต่างกันนั่นเอง  (ใครเป็นโจร บทลงโทษ สาหัส สากรรจ์ ทีเดียว)  

เราก็ลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้น B2 ชั้นใต้ดิน เลี้ยวขวาไปกินกันตรงนี้เลย   ที่ศูนย์อาหาร Kopitiam ราคาอย่างละ 3 ถึง 5  เหรียญ เป็นชุดก็ 5 เหรียญกว่ามีให้เลือกเยอะ (ราคา 24.16 บาท ต่อ 1 เหรียญสิงคโปร์ ) กำลังเพิ่งเปิดร้านเลย เราก็ทานในสิ่งที่พอทานไหว อย่างที่บอก จานใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย เราเลยเลือกเกี๊ยวหมูแดง ฮ่าๆ และกาแฟเย็นโบราณ 1 แก้ว ใช้เงินไปอีก 5 เหรียญ 50 เซนต์

 

เมื่อทานอาหารเสร็จ  แล้วอย่าลืมแวะซื้อน้ำที่ Supermarket ในห้างนั่นแหละ มันถูกกว่าใน Universal Studito นะครับ
จากนั้น เราก็เดิน ไปชั้น 3 Lobby L มองหาป้าย Sentosa เคาน์เตอร์ จะงงๆ หน่อยนะครับ เพราะมันต้องผ่านโซนดาดฟ้า คือ อยู่ในอาคาร แล้วต้องเดินออกนอกอาคาร  แล้วก็เข้ามาในอาคารใหม่ๆ ในชั้นเดียวกันนั่นแหละครับ Sentosa อยู่ข้างๆ Food Republic นั่นแหละครับ



เราก็ไปเข้าคิว ซื้อตั๋วรถ MRT เพื่อไป Sentosa  และค่าเข้าเกาะ ($3 ใช้ Ezylink ได้)  เมื่อได้ตั๋วรถ ก็เดินเข้าไปรอขึ้นรถไฟฟ้า  Sentosa express เพื่อเดินทางไปสถานี Waterfornt ตอนนี้ในภาพก็ถือตั๋วไว้สองใบแล้วครับ พร้อมเดินทาง



เมื่อนั่งรถ MRT แล้วบันทึกภาพมุมบนรถไฟฟ้า เห็นภาพว่ากำลังข้ามเกาะด้วย MRT ไม่ต้องนั่งรถประจำทางผ่าน




เมื่อมาถึง Universal Studio ก็บันทึก ภาพที่ระลึกก่อนเลย เพราะอยู่ด้านหน้า ทางเข้า แต่คนเยอะมาก และท้องฟ้าก็ขาววอก ไม่เป็นใจให้ถ่ายภาพออกมาได้สวยเลย ก็บันทึกไว้ก่อน เผื่อฝนจะตก



เมื่อเข้าประตู ก็จะมีเจ้าหน้าที่ คอย อำนวยความสะดวก สำหรับ เราได้ซื้อตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ต ได้พิมพ์มาเป็น A4 เขาก็ Scan Barcode ให้ครับ เรียบร้อยเข้าสบายไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋ว




Universal Studio  บันทึกภาพด้านใน เข้ากันเลย ฮ่าๆ


 
ภาพหน้าประตูทางเข้ามองเข้าไปครับ



ถ่ายภาพด้านขาเข้าด้านในแล้วครับ



เครื่องเล่น และการแสดงที่น่าสนใจใน Universal Studios ก็มีหลายส่วน ต้องบริหารเวลาให้ดีนะครับ และที่สำคัญถ้ามาช่วงเทศกาล คิวยาวมากๆ
1) Battlestar Galactica เครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังการางคู่ที่สูงที่สุดในโลก
2) Far Far Away Castel ปราสาทแห่งวีระบุรุษ เชร็คและเจ้าหญิงฟิโอน่า
3) Madagascar A CrateAdventure เป็นการนั่งเรือผจญภัยชมสัตว์ต่างๆ เสมือนท่านกำลังอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Madagascar
4) Revenge of The Mummy ขุดหาสมบัติของฟาโรห์ และค้นหาปริศนาแห่งมัมมี่
5) Water World ชมการแสดงกิจกรรมผาดโผนต่างๆ จากภาพยนตร์ชื่อดัง แสดงจริง แสง สี เสียง จริง ท่านจะตื่นเต้นประทับใจไม่รู้ลืม
6) Jurassic Park Rapids Adventure ผจญภัยในดินแดนไดโนเสาร์, เหล่าสัตว์โลกล้านปี
7) Hollywood Boulevard สัมผัสโรงละครสไตล์บรอดเวย์ ฮอล ลีวู๊ด วอล์ออฟ เฟรม ศูนย์รวมแห่งความ
บันเทิงของจักรวาลอย่างแท้จริง
 
โอ้โห อ่านแล้ว อยากไปเข้าทุกอย่าง แต่ต้องคำนวณ เวลา และจำนวนคน เพราะวันที่เรามา นี้เป็นวันหยุด Holiday สำหรับนักเรียนด้วยสิ เด็กๆ มากับผู้ปกครองกันเต็มไปหมด (แต่เรื่องเข้าแย่งกับเด็กๆ เราไม่กลัว ^^)

ผ่านมาอันแรกเลย Madagascar A CrateAdventure ถ่ายรูปครับ แบบว่ามันสวยเกินห้ามใจ ก็ยิงไม่นับกันอีก แม้ฟ้าไม่เป็นใจ แต่การ์ตูนสีสรรสดใส ออกปานนี้
 
ในระหว่างทางเดิน ก็มีตัวการ์ตูนน่ารัก ที่ควรถ่ายไว้ พอดีเห็นนกพิราบเกาะอยู่เลยบันทึกไว้ซะหน่อย น่ารักดีครับ นกตัวเป็นๆ กับตัวปลอมๆ
 

หิวน้ำ กระหายน้ำ ก็มีน้ำขายครับ แต่แพงนิดนึงครับ มีเป็นรูปไดโนเสาร์ ด้วยนะครับ
ใครสนใจก็ซื้อนะครับ แต่สองเราไม่ได้ซื้อ เพราะรอกินเที่ยง และเย็นเลยทีเดียว

Far Far Away Castel ปราสาทแห่งวีระบุรุษ เชร็คและเจ้าหญิงฟิโอน่า
เข้าไปชมเถอะ เรารีบไปต่อคิวกันเลย เป็นภาพยนตร์ 4 มิติ คือ มีทั้งน้ำ ทั้งลม ให้เราได้สัมผัสเมื่อตัวแสดงในภาพยนตร์ตกน้ำ ให้เราใส่แว่นสามมิติ กัน สนุกสนานมากๆ อยากจะเข้าสองรอบเลย ถ้าคนไม่เยอะ 
พอดูเสร็จก็ออกมาตรงทางออก เลยเข้าไปชม ตัวการ์ตูนขาย เป็นที่ระลึกของ วีรบุรุษเชร็ค นั่นเอง



ภายในร้านก็มีน้ำหวานขายเช่นกัน



ของที่ระลึกภายในร้าน มีตัวการ์ตูน และเสื้อเพ้นท์ลายการ์ตูนที่เราชอบ




เดินย้อนกลับมาถ่ายภาพที่ Jurassic Park ดินแดนไดโนเสาร์, เหล่าสัตว์โลกล้านปี

ในที่นี้ให้แนะนำ นั่งเรือล่องดินแดนไดโนเสาร์ ที่ Jurassic Park Rapids Adventure ผจญภัยในดินแดนไดโนเสาร์, เหล่าสัตว์โลกล้านปี เปียกนะครับ ต้องซื้อเสื้อกันฝน แต่สำหรับผมและแฟน เตรียมกันไปครับ ฮ่าๆ ไม่งั้นต้องจ่ายอีก 2 เหรียญต่อ 1 ตัว ( 4 เหรียญครับ) แต่ถ้าใครคิดจะเก็บเป็นที่ระลึกละก็ ซื้อได้ครับ เพราะมี Screen ด้านหลังป็น Universal Studio ครับ เราก็ไปต่อคิวล่องเรือสำราญแบบเปียกัน ไม่ว่า ก็เดินเข้าไปเลยครับ คิวยาวมากเช่นกัน เห็นตู้ขายอยู่ระหว่างทางเดินครับด้านในเลย



คนซื้อสวมใส่กันเยอะนะครับ และมีทีวีระหว่างรอชม แนะนำให้เก็บอุปกรณ์ทุกชนิดให้มิดชิด ไม่งั้นเปียกแน่นอน ผมก็กันเต็มที่เลย สวมถุงกันหลายซับหลายซ้อน แล้วคล่อมด้วยเสื้อกันฝนอีกทับหนึ่ง สรุป รองเท้าเปียกครับ เพราะน้ำกระเซ็นมันขังในเรือจนได้ครับ ฮ่าๆ ใส่ผ้าใบไปเต็มๆ ครับ อุ้มน้ำเต็มที่

สรุปงานนี้หลังจากล่องเรือเสร็จ ของไม่เปียก แต่รองเท้าถุงเท้าเปียกครับ ทำไงได้ครับ ก็เดินทางกันต่อไปหามุมถ่ายภาพไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็แห้งเอง


Revenge of The Mummy ขุดหาสมบัติของฟาโรห์ และค้นหาปริศนาแห่งมัมมี่

เราเดินมาถึงโซนฟาโรห์ และมัมมี่

 

จะมีพระเอก และนางเอก ของเรื่องมาถ่ายรูปคู่กับ ผู้มาท่องเที่ยวที่ดินแดนนี้

     

มีตัวการ์ตูนมัมมี่แอบอยู่ด้านบนเห็นไหม? บนร้านขายของที่ระลึก






ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อยครับมาถึงดินแดนมัมมี่แล้ว




หิวแล้ว ก็ต้องหาอาหารที่พอจะทานได้ ในเรื่องของรสชาติ ไม่งั้นไม่ไหว บรรยากาศภายใน้านที่เรานั่งทาน เป็นร้านเบอร์เกอร์ครับ ต้องต่อคิวซื้อตั๋วรับบัตรคิว แล้วไปรับ เบอร์เกอร์ที่เค้าเตอร์ด้านหลังที่เค้าเตอร์รับเงิน



มื้อนี้หมดไป หมดไป 20 เหรียญสิงคโปร์ ก็ประมาณ 500 บาทไทย ได้แค่นี้แหละครับ มาท่องเที่ยวในสถานที่อย่างนี้ต้องทำใจนะครับ ^^ เบอร์เกอร์ไก่ เป็นที่พึ่ง ครับยามนี้ หิวตาลายแล้วครับ


 

อิ่มท้องก็ต้องหาอะไรทำกันต่อครับ เดินหามุมถ่ายภาพสวยๆ งามๆ เข้าในโซน

Hollywood Boulevard สัมผัสโรงละครสไตล์บรอดเวย์ ฮอล ลีวู๊ด วอล์ออฟ เฟรม
มีแต่งตัวคล้ายดารา ฮอลลีวู้ดมาถ่ายภาพคู่ด้วย เราก็ไม่พลาดสิครับ



นี่ครับ ถ่ายรูปคู่ นางแบบ และกับแฟนผม

มีการถ่ายทำภาพยนตร์ Hollywood ให้ดูด้วยนะครับ ฉากจริง เสียงพายุ และฝนตกจริง ต้องไปดูครับ สุดยอด Special Effect ของจริง ครับ พอดูเสร็จก็เดินมาถ่ายรูปกันต่อ


เสียงกรีดร้อง ดังสนั่น หันไปมองหน่อย อ่อ
Battlestar Galactica เครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังการางคู่ที่สูงที่สุดในโลก เห็นก็เสียวแล้วครับ ไม่ได้ขึ้นนะครับ เพราะไม่ไหว กลัวเมารถ ฮ่าๆ เดี๋ยวมาเที่ยวไม่หนุก และที่สำคัญ พกกล้องมาเยอะ อุปกรณ์เพียบครับ เดี๋ยวหาย


ประมาณบ่ายสามครึ่ง  เรารอชมการแสดงครับ สำคัญมาก
Water World ชมการแสดงกิจกรรมผาดโผนต่างๆ จากภาพยนตร์ชื่อดัง แสดงจริง แสง สี เสียง จริง และที่สำคัญ “เปียก” จริงๆ เพราะการแสดงนี้จะมีโซนชอบเปียก Wet Zone เขาเขียนไว้บนที่นั่ง โซนสีน้ำเงิน และ โซนไม่ชอบเปียก ก็ที่ Dry Zone เขียนไว้ที่นั่งโซนสีแดง ครับผม



ระหว่างการแสดงกำลังเริ่มแล้วครับ นางเอกขับเรือมาเองครับ



ผู้ร้ายกำลังยิงกันสนั่นจอ และระเบิดทำน้ำกระจายจริง





หลังจากนั้นก็เดินถ่ายรูปมุมต่างๆ ไว้เป็นพันรูป แต่ไม่นำมา post ในที่นี่นะครับ เพราะมันเยอะ ไว้ดูกันสองคนครับ  ครับทุกเรื่อง พระเอกตายตอนจบ เหมือนกัน ดูสภาพครับ ย่ำแย่ เดินกันเหนื่อยสุดๆ สำหรับวันนี้อีกวัน




เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ประตูทางออก เช่นกันครับ ถ้าท่านใด อยากออกข้างนอก และเข้ามาอีก จะมี Stamp ที่แขนนะครับ ให้เป็นสัญลักษณ์ว่าขอออกไปชั่วคราว เดี๋ยวเข้ามาใหม่ครับ


เราก็ออกกันเลยครับ
ไปถ่ายรูปลูกโลกตอนกลับบ้านอีกครั้งครับ แสงกำลังดี ไม่มีคนมาก
 
เดินมาทางโซนร้านขายขนมหวาน ถ่ายรูปอีกแหละครับ มาเพื่อการนี้ครับ
เหนื่อยแค่ไหน ก็ยิ้มได้ครับ ไม่งั้นรูปจะไม่สวยครับ

 

ผ่านศึกถ่ายรูปทั้งงานรับปริญญา งานแต่งงาน มาแล้ว เดินกันทุกโต๊ะ เหนื่อยแค่ไหนก็ยิ้มครับ จริงไหมครับ




อ่ะอะ น่าเข้าไปดูจัง คาสิโน ที่นี่ หน้าตาเป็นอย่างไร อยากไปไหน ก็ให้เดินไปตามป้ายบอกทางนะครับ



ลงไปด้านล่างของอาคาร ตามป้ายครับ ตี๋ลิ้ง เอ้ย ติงลี่ มาเองครับ แต่สรุป ไม่เข้าไปดีกว่า กลัวเสียตังก์ ฮ่าๆ เอาบรรยากาศ ดูคนมาเที่ยวเยอะเหมือนกันครับ

 


ก็เดินทางกลับไปตามป้ายครับ จะไปขึ้นรถ Studio Express หรือ MRT นั่นแหละ จะกลับแล้ว ใจก็ลืมไปว่าจะต้องไปถ่ายรูปกับ สิงโต ตัวพ่อ ที่นี่นะครับ ลืมจริงๆ ลืมสนิท แต่โชคดีมาก บังเอิญทางที่จะเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้า มันต้องผ่าน สิงโตตัวพ่อ ซะด้วย เลยถ่ายอีกไม่นับครับ เอามาโชว์ตัวเดียวพอ แล้วตัวแม่กะตัวลูก อยู่ไหน โปรดติดตามต่อไปวันพรุ่งนี้นะครับ อันนี้เราก็ถ่ายด้วยขาตั้งกล้องครับ ไม่งั้นภาพจะสั่น บอกแล้วพกอุปกรณ์มาครบครันเพื่อการนี้ครับ




สำหรับสิงโตตัวพ่อ เราเรียกชื่อตามเขาว่า  Merlion Tower (ตัวพ่อ), เดิน Merlion walk หรือจะขึ้นปากสิงโต ชมวิวเกาะเซนโตซาก็ได้ ($7)  แต่เราไม่ไปครับ เพราะค่ำมากๆ แล้ว
ถ้าใครจะไปชมยังจะมี merlion ตัวพ่อ 4D ปลาโลมา Tiger Sky Tower, Luge & Skyride, Butterfly Park   ชม Siloso beach
เราเหนื่อยมากแล้ว จะกลับแล้วครับ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จะไปกินอาหารทะเลกันนิ
เราก็นั่ง Studio Express MRT กลับมาที่ Vivo ครับ แล้วก็เดินออกมาโซนด้านนอกทางกลับในชั้นเดียวกัน เจอร้านที่มีคนแนะนำครับ NO SIGNBOARD SEAFOOD

เข้าไปสอบถาม คนเต็มครับ พนักงานพูดภาษาอังกฤษ บอกว่า ให้จองไว้ก่อน แล้วกลับมาใหม่ เราเลยขอจอง แต่รออยู่ด้านหน้าร้านนั่นแหละครับ แสดงว่า น่าจะอร่อย คนเต็มนี่นา ทุกโต๊ะเลย

เมนูแรกที่สั่งมาคือ  กุ้งชุบแป้งทอดครับ ยกนิ้วให้เลยรสชาติ อร่อยกรอบจริงๆ เต็มเหนี่ยวครับ กินจนไม่เหลือเลย หัวก็กรอบ หางก็กรอบ กรอบทุกส่วนครับ 20 เหรียญสิงคโปร์ครับจานนี้






เมนูที่สองที่ตามมาคือ ข้าวผัดครับ



เมนูที่สามตามมาคือ ปูผัดพริกครับ Chilli Crab ปูศีลังกานะครับ จานโตมากๆ มากันสองคนครับ (นึกในใจ เราตายแน่ ขอ “ชูชก” โปรดช่วยด้วยเถิด) ดันสั่งกันตอนหิวข้าวดีนัก

เมนูสี่เอาไว้กินกับปูครับ หมั่นโถวทอดครับ (แน่นอนครับ ตายสนิทคืนนี้ ท่านลองคิดดูว่า ทั้งสี่รายการนี้ กิน 2 คน )



ครับ เขามีรายการ “ชิมไปบ่นไป” เรานี้ “กินไปบ่นไป” ไม่น่าเลยเรา สั่งมาเยอะเกิน แพงไม่กลัว กลัวไม่หมด เสียดายตังก์ ว่างั้น

สรุปมื้อนี้หมดไป 103.70 เหรียญสิงคโปร์ครับ (ประมาณ 2,505.50 บาทไทย)
103.70 เหรียญ
2 กา ชาจีนครับ เพื่อความประหยัด  CHINESE TEA  3.60
กุ้งทอดครับ  อร่อยสุดๆ PROWN  20.0
ปูศรีลังกา รสชาติเครื่องเทศ นะครับ CHILLI CRAB  47.0
ข้าวผัดหยางโจว  YANG CHOW FRIED RICE 12.0
ถั่วถ้วยเล็กๆ คิดตังก์ครับ PEANUT 2.50
2 ผืน ผ้าเช็ดมือคิดตังก์ครับ TOWEL 1.00
หมั่นโถว 4 ลูกครับ  MANTOU  2.00
เมื่ออิ่มหนำสำราญจิต เราก็เดินทางกลับรถไฟฟ้า BTS ไปยังสถานีอาจูหนีด เหมือนเดิมครับ แล้วก็ต่อรถได้ทุกสายที่สถานีอาจูหนีด (ยกเว้นสาย 40 สายเดียวที่ไม่ผ่านโรงแรมที่เราพักซอย LOR 8)
อาบน้ำ ชาร์จแบตเตอรี่กล้อง และพักผ่อนสำหรับคืนที่สอง อันเหนื่อยล้า แตะอิ่มหนำ และง่วงกันเต็มเหนี่ยวครับ
ราตรีสวัสดิ์สำหรับคืนที่สองนี้ครับ
 









หมายเลขบันทึก: 432447เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2011 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2014 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยเหนื่อยเหมือนกันค่ะ ออกจากUniversal Studios กระชากวัยแปลงร่างเป็นเด็กออกมาเลย

ชอบมากที่บอกราคา ค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน คราวหน้าไปอีกจะได้รู้ไปโม้ด ค่ะ :)

บันทึกการท่องเที่ยวได้เยี่ยมค่ะ ตามรอยได้เลยครานี้ 

ขอบคุณค่ะ 

ขอบคุณ คุณ mee_pole

 ขอให้สนุกกับการเดินทางในอนาคตรอบถัดไปนะ จะได้วางแผนการเดินทางอยากสนุกสนานในต่างประเทศ ที่ราคาประหยัดครับ


ขอบคุณ pa_daeng  

ครับ ขอให้สนุกกับการเดินทางในต่างประเทศในรูปแบบประหยัดนะครับ ^^



 

 


 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท