ตั้งชมรม "ท่าทองรวมใจต้านภัยมะเร็งสตรี"
มะเร็งปากมดลูกพบมากที่สุดในหญิงไทย พบอัตราการเกิดโรคสูงในช่วงอายุ 30-50 ปี ก่อให้ ้เกิดความสูญเสียทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และทางด้านเศรษฐกิจ แต่ก็สามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ถ้าพบในระยะเริ่มแรกเนื่องจากมะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันและตรวจพบได้ ตั้งแต่เซลเริ่มผิดปกติ และสามารถรักษาให้หายได้ในระยะเริ่มต้น เพราะมีการดำเนินโรค แบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน และเป็นอวัยวะที่อยู่ในตำแหน่งที่สามารถตรวจวินิจฉัยง่ายกว่าอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยและรักษาได้เร็ว ก่อนที่จะเป็นมะเร็งลุกลาม จากการตรวจภายในและเก็บตัวอย่างเซลบริเวณปากมดลูกไปตรวจหรือที่เรียกว่าการทำ แป๊ปสเมียร์ ( Pap smear ) ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจหามะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้นค่ะ ดังนั้น ถ้าสามารถกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าว พร้อมทั้งตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการตรวจ ค้นหามะเร็งปากมดลูก ระยะเริ่มแรก ก็จะทำให้อัตราการตาย จากโรคมะเร็งปากมดลูกลดลง
ส่วนมะเร็งเต้านม (breast Cancer) เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในหญิงไทย เป็นที่สองรองจากมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม มักเกิดในหญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งเต้านมยังไม่เป็นที่แน่ชัด ข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบันพบว่าปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม ได้แก่ อายุ มะเร็งเต้านมในคนไทยที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี พบน้อยมาก ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป และจะพบมากขึ้นไปอีกเมื่อมีอายุมากกว่า 55 ปี (อ้างอิงจากนพ.ศุภชัย น้อยวัฒนา)การตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีทุกเดือน เป็นสิ่งที่สมควรปฏิบัติอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ทราบความผิดปกติของตัวเองได้ดีที่สุด ระยะเวลาที่เหมาะสม คือช่วงหลังมีประจำเดือนไปแล้วประมาณ 7 – 10 วัน ที่สำคัญการตรวจเต้านมด้วยตนเองในหญิงที่มีอายุมากขึ้น คือมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ก็มิได้ทดแทนการตรวจเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม และการตรวจเต้านมโดยแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามระยะเวลา ฉะนั้นถ้าหากตรวจพบความผิดปกติของเต้านม ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
จากการดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ของ ศสช.ท่าทองพบว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ไปรับการตรวจ และไปรับการตรวจค่อนข้างน้อย เนื่องจากบางคน กลัวเจ็บ อายหมอ กลัวว่าตรวจแล้วจะพบว่าเป็นโรคจริง คิดว่าไม่เป็นโรค หรือโอกาสเป็นน้อยมาก กลัวเสียเงินมาก เดินทางไปตรวจลำบาก บ้านอยู่ไกล เคยตรวจแล้วว่าไม่เป็น จึงไม่ไปตรวจอีก จากปัญหาต่างๆเหล่านี้ จึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของศสช. และแกนนำอสม. หรือแกนนำอื่นๆในชุมชน เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการที่จะให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรอง และดูแลตนเองเพื่อค้นหามะเร็งในสตรี ดังกล่าว เพื่อรับการตรวจรักษาเสียแต่เนิ่นๆเมื่อพบความผิดปกติ ตลอดจนได้ไปดูงานของชุมชนตำบลอื่น คือที่บ้านกร่างได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างตำบลมา เมื่อกลับมา ก็มีแนวคิดที่จะประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานในตำบลของตนเองบ้าง ได้มีมติว่าต้องการให้มีแกนนำในการรณรงค์ แกนนำที่จะช่วยกระตุ้น ดูแลกันเองในชุมชนของตนเอง จึงมีโครงการที่จะจัดตั้งชมรม "ท่าทองรวมใจต้านภัยมะเร็งสตรี" ขึ้นในปีงบประมาณ 2550 ขึ้น และได้ประชุมปรึกษาหารือกันเป็นระยะๆเพื่อเริ่มวางแผนการดำเนินงาน คาดว่าชมรม"ท่าทองรวมใจต้านภัยมะเร็งสตรี" จะเป็นรูปเป็นร่าง ราวๆเดือนตุลาคม 2549 นี้แน่นอน วันนี้นำรูปแกนนำมาให้ดูพลางๆก่อนค่ะ งานนี้ขอบอกมีผู้ชายด้วยที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และพร้อมยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ การดำเนินการจะมีปัญหาและอุปสรรคอย่างไรบ้างคราวหน้าจะนำมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ ช่วงนี้ถ้าศูนย์สุขภาพชุมชนไหน มีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดรูปแบบชมรม หรือวิธีการที่ เวิร์คๆ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง
มะลิ +ขจีวรรณ บันทึก
ความเห็น (4)
ขอให้ชมรมท่าทองรวมใจต้านภัยมะเร็งสตรี เติบโตได้อย่างสง่างามเลยนะ น่าจะเป็นจุดตั้งต้นที่ดี ขอให้ทำต่อไป ไม่ท้อต่ออุปสรรคใดๆเลยจ้ะ
